ผลเดินทางเยือนประเทศเนเธอร์แลนด์ของ นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน ระหว่างวันที่ ๑๔ – ๑๖ ต.ค.๖๑ โดยเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของจีนในรอบ ๑๔ ปี ที่เดินทางเยือนเนเธอร์แลนด์อย่างเป็นทางการ ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
๑. เมื่อบ่ายวันที่ ๑๔ ต.ค.๖๑ นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน ได้เดินทางถึงท่าอากาศยานอัมสเตอร์ดัมสคิปโฮล เพื่อเยือนเนเธอร์แลนด์อย่างเป็นทางการตามคำเชิญของนายมาร์ค รึตเตอร์ นายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์ โดยระหว่างการเยือน นายหลี่ เค่อเฉียง จะร่วมกับนายกรัฐมนตรีของเนเธอร์แลนด์ในการเจรจาหารือ รวมทั้งการพบปะผู้สื่อข่าว เพื่อเป็นยืนยันการลงนามในเอกสารความร่วมมือต่างๆ ตลอดจนเข้าร่วมกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมเศรษฐกิจและการค้าจีน-เนเธอร์แลนด์ และชมนิทรรศการเทคโนโลยีระดับสูงสมัยใหม่ของเนเธอร์แลนด์ พร้อมทั้งมีการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกับนักธุรกิจเนเธอร์แลนด์
๒. กำหนดการที่สำคัญในช่วงเช้าวันที่ ๑๕ ต.ค.๖๑ โดยนายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน และนายมาร์ค รึตเตอร์ นายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์ พบปะเจรจากันที่ทำเนียบนายกรัฐมนตรีในกรุงเฮก
๒.๑ นายหลี่ เค่อเฉียง กล่าวว่า ภายใต้สถานการณ์โลกที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงอย่างไม่หยุดยั้ง จีนยินดีร่วมถือกับเนเธอร์แลนด์ดำเนินความร่วมมืออย่างเปิดกว้างและอย่างจริงจัง เพื่อรักษาการค้าพหุภาคีและการค้าเสรี ทั้งนี้ เนเธอร์แลนด์เป็นประเทศเป้าหมายแรกของการลงทุนโดยตรงจากจีนในยุโรป อีกทั้งยังเป็นหุ้นส่วนทางการค้าอันดับ ๒ และแหล่งทุนต่างชาติอันดับ ๓ ของจีน
๒.๒ นายมาร์ค รึตเตอร์ ได้กล่าวว่า เนเธอร์แลนด์ให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ โดยยินดีร่วมกับจีน ส่งเสริมความเชื่อถือทางการเมือง และความร่วมมืออย่างจริงจังให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
๓. สำหรับประเด็นสำคัญเรื่องอื่นๆ ซึ่งนายกรัฐมนตรีของจีน ได้กล่าวเน้นว่า จีนเตรียมแก้ไขนโยบายใหม่เพื่อเปิดกว้างสำหรับภาคการผลิตพื้นฐาน ด้วยการยกเลิกข้อจำกัดการเป็นเจ้าของของชาวต่างชาติ โดยนโยบายใหม่นี้จะมีผลบังคับใช้กับทุกบริษัทในภาคส่วนดังกล่าว โดยนโยบายดังกล่าวนี้ไม่เพียงแต่เฉพาะบางบริษัทของบางประเทศเท่านั้น และได้ตอบคำถามเรื่องความร่วมมือระหว่างจีนกับเยอรมนีเมื่อเร็วๆ นี้ว่า บริษัท BASF ซึ่งเป็นบริษัทเคมียักษ์ใหญ่จากเยอรมนี ได้ลงทุนมูลค่า ๑ หมื่นล้านดอลลาร์ในการสร้างคอมเพล็กซ์ผลิตผลิตภัณฑ์แบบ Verbund หรือแบบเครือข่ายในจีน โดย BASF จะเป็นเจ้าของคอมเพล็กซ์ดังกล่าวทั้งหมด ทั้งนี้ จีนมีความยินดีที่บริษัทจากเนเธอร์แลนด์จะเข้ามาลงทุนครั้งใหญ่ในจีน เพื่อจัดตั้งบริษัทที่ประเทศเนเธอร์แลนด์จะเป็นเจ้าของเองทั้งหมด พร้อมกับกล่าวเน้นว่า การแก้ไขนโยบายของจีนมีความสอดคล้องและปรับใช้ได้กับทุกฝ่ายโดยไม่มีการแบ่งแยก
๔. ข้อสังเกต ย้อนไปเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ ๑๒ เม.ย.๖๑ ซึ่งนายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีนได้หารือกับนายมาร์ค รึตเตอร์ นายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์ ขณะไปเยือนกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยนายหลี่ เค่อเฉียงกล่าวเน้นว่า จีนยินดีร่วมกับเนเธอร์แลนด์แสดงความได้เปรียบของกันและกัน กระชับความร่วมมือด้านการเกษตร การเงิน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระหว่างสองประเทศ และเพิ่มความร่วมมือด้านใหม่ต่างๆ ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรมและบุคลากร ร่วมกันรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และให้ความสำคัญกับความร่วมมือมากยิ่งขึ้น ในขณะที่ นายมาร์ค รึตเตอร์ กล่าวว่า เนเธอร์แลนด์ยินดีส่งเสริมการติดต่อและการพัฒนากับจีนมากขึ้น สนับสนุนการบรรลุซึ่งข้อตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างจีนกับยุโรปโดยเร็ว และยินดีร่วมกับจีนปฏิบัติตามคำมั่นของข้อตกลงปารีสด้วย
บทสรุป
ท่าทีของเนเธอร์แลนด์ในการดำเนินความสัมพันธ์ต่อจีนมีทิศทางไปในเชิงบวกมาโดยตลอด แม้ว่าทั้งสองประเทศจะเน้นในเรื่องของความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจภายใต้กรอบความริเริ่ม “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” (Belt and Road Initiative :BRI) เป็นสำคัญก็ตาม แต่ก็ไม่ได้ละเลยต่อประเด็นการเมืองระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการแสดงท่าทีต่อการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ (หนานไห่) ระหว่างจีนกับประเทศคู่พิพาท ดังเช่น กรณีที่ศาสตราจารย์ทอม สวอรต์ (Tom Zwart) จากคณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยยูเทรชต์( Utrecht) ของเนเธอร์แลนด์ ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเมื่อช่วงกลางปี ๒๐๑๖ (พ.ศ.๒๕๕๙) ว่า ข้อพิพาทเกี่ยวกับทะเลจีนใต้ไม่ควรแก้ไขผ่านกระบวนการยุติธรรม หรือการพิพากษา และเห็นว่าฟิลิปปินส์ควรถอนการฟ้องร้องคดีทะเลจีนใต้ที่กระทำโดยลำพังฝ่ายเดียวออกไป เพื่อหลีกทางให้การแก้ไขข้อพิพาทดำเนินการได้ด้วยการเจรจา ซึ่งเป็นท่าทีที่ตอบรับและสนับสนุนต่อการดำเนินความสัมพันธ์กับจีนให้เกิดความราบรื่นได้เป็นอย่างดี เป็นต้น
ประมวลโดย : พลตรีไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
ข้อมูลจากเว็บไซต์
http://thai.cri.cn/247/2018/10/15/234s272347.htm
https://www.ryt9.com/s/iq29/2900865
http://www.bbrtv.com/2018/1016/432935.html
http://thai.cri.cn/247/2018/02/08/227s264028.htm
http://thai.cri.cn/247/2016/05/26/228s242553.htm
http://www.globaltimes.cn/content/1122916.shtml