bg-head-3

新闻

จีนประกาศมาตรการภาษีต่อสหรัฐฯ มุ่งโจมตีฐานเสียงของประธานาธิบดีทรัมป์

 

ขณะนี้ดูเหมือนว่าทั้งจีนกับสหรัฐฯ จะแสดงท่าทีแข็งกร้าวเรื่องการค้า แต่ขณะเดียวกันก็พยายามสร้างความเชื่อมั่นว่าสถานการณ์จะไม่ลุกลามบานปลายจนถึงขั้นควบคุมไม่ได้

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความเห็นที่ลงรอยกันในหมู่นักวิเคราะห์ด้านการค้าว่าในความเป็นจริงแล้ว สถานการณ์อาจเลวร้ายได้มากเพียงใด

นาย Dave Swenson นักเศรษฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยแห่งรัฐไอโอวา มองว่าสิ่งที่เราได้เห็นอยู่ขณะนี้ เป็นเพียงการปะทะกันอย่างประปราย และมีการขีดเส้นวงเขตของแต่ละฝ่าย แต่สิ่งที่เรายังไม่รู้ก็คือขอบข่ายของการสู้รบที่ทั้งสองฝ่ายพร้อมจะเข้าโรมรันกันนั้น จะกว้างไกลหรือยืดเยื้อยาวนานเพียงใด

โดยในสัปดาห์นี้ คาดว่าประธานาธิบดีทรัมป์จะประกาศเรื่องอัตราภาษีใหม่ เพื่อลงโทษจีนจากข้อกล่าวหาที่ว่าจีนขโมยทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐฯ และในขณะที่จีนกับสหรัฐฯพยายามเน้นว่ากำลังมีการเจรจาเรื่องนี้กันอยู่ แต่ก็มีหลักฐานเพียงน้อยนิดที่สามารถยืนยันได้ว่ามีความพยายามทำความตกลงกันจริง

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา จีนประกาศขึ้นภาษี 25% กับสินค้าขาเข้าต่างๆ จากสหรัฐฯ 128 รายการ เพื่อตอบโต้การขึ้นภาษีสินค้าเหล็กกล้าและอะลูมิเนียมของประธานาธิบดีทรัมป์ โดยการขึ้นภาษีนี้รวมถึงผลไม้ ถั่ว เนื้อหมู ไวน์ และ เชื้อเพลิงเอธานอล เป็นต้น

นาย Hu Xingdou นักเศรษฐศาสตร์ชาวจีน ชี้ว่า ถึงแม้ท่าทีของจีนจะเป็นไปแบบมีความอดกลั้นและควบคุมตนเองก็ตามแต่ปักกิ่งก็ยังมีหมากที่สามารถใช้ได้อีกมาก เช่น ขณะนี้จีนเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ในแง่พันธบัตรรัฐบาลและหุ้นกู้ของบริษัทต่างๆ รวมทั้งยังซื้อเครื่องบินโบอิ้งและถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ เป็นจำนวนมากด้วย

นักเศรษฐศาสตร์ผู้นี้ชี้ด้วยว่า มาตรการตอบโต้ทางภาษีของจีนดูจะเป็นไปอย่างชาญฉลาดและมีนัยยะทางการเมือง เพราะสินค้าการเกษตรที่จีนขึ้นภาษี เช่น เนื้อหมู และ เชื้อเพลิงเอธานอลนั้น มีแหล่งผลิตที่สำคัญอยู่ในรัฐไอโอวาซึ่งเป็นฐานคะแนนเสียงที่สำคัญของประธานาธิบดีทรัมป์ จากการเลือกตั้งเมื่อสองปีที่แล้ว

นอกจากนั้น รัฐไอโอวายังเป็นรัฐที่ทูตสหรัฐฯ ประจำจีน คนปัจจุบัน คือนาย Terry Branstad เคยเป็นผู้ว่าการอยู่ด้วย และยังเป็นแหล่งปลูกข้าวโพดที่สำคัญซึ่งใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตเชื้อเพลิงเอธานอล

นาย Hu Xingdou นักเศรษฐศาสตร์ชาวจีน ยังบอกว่า จีนสามารถนำเข้าสินค้าการเกษตรจากประเทศอื่นทดแทนเป็นทางเลือกได้ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาสินค้าการเกษตรเหล่านี้จากสหรัฐฯ

 

ที่มา วีโอเอออนไลน์