นศึกษา วันพุธที่ ๑๔ ก.ค.๖๔ นายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้รับเชิญให้เข้าร่วมพิธีเปิดการประชุมสันติภาพโลกครั้งที่ ๙ และกล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง "การปกป้องสันติภาพของโลกและการส่งเสริมความก้าวหน้าของมนุษย์" (“守护世界和平，推动人类进步”) เมื่อวันที่ ๓ ก.ค.๖๔ ณ มหาวิทยาลัยชิงหวา กรุงปักกิ่ง ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
๑. นายหวัง อี้ กล่าวว่า เพิ่งฉลองครบรอบ ๑๐๐ ปีของพรรคคอมมิวนิสต์จีน โดยเลขาธิการฯ สี จิ้นผิง กล่าวสุนทรพจน์สำคัญ ถึงความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในการเป็นผู้นำการต่อสู้ครบรอบ ๑๐๐ ปีของประชาชนอย่างลึกซึ้ง โดยประกาศอย่างจริงจังถึงเป้าหมาย ๑๐๐ ปีแรกของการสร้างสังคมที่เจริญรุ่งเรืองในระดับปานกลางทุกประการ และการเดินทาง ๑๐๐ ปีครั้งที่สองของการสร้างพลังสังคมนิยมสมัยใหม่อย่างรอบด้าน
๑.๑ เป็นเวลากว่า ๑๐๐ ปีที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนยึดมั่นในการพัฒนาอย่างสันติ ปกป้องสันติภาพและความมั่นคงของโลกอย่างไม่ลดละ ไม่เคยแสวงหาอำนาจ การขยาย หรือขอบเขตอิทธิพล ได้พัฒนาตนเองด้วยการรักษาสันติภาพโลกและส่งเสริมสันติภาพของโลกด้วยการพัฒนาตนเอง
๑.๒ เป็นเวลากว่า ๑๐๐ ปีที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนยึดมั่นในความเป็นธรรมและความยุติธรรมเสมอมา ส่งเสริมเสรีภาพและการปลดปล่อยของมนุษยชาติอย่างไม่ลดละ ยืนกรานว่าทุกประเทศเท่าเทียมกันโดยไม่คำนึงถึงขนาด แข็งแกร่งหรืออ่อนแอ ร่ำรวยหรือยากจน รวมทั้งต่อต้านการยัดเยียดแทรกแซง กิจการภายใน และการรังแกผู้อ่อนแอโดยผู้แข็งแกร่ง
๑.๓ เป็นเวลากว่า ๑๐๐ ปีที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ยึดมั่นในความร่วมมือแบบ win-win ส่งเสริมการพัฒนาร่วมกันของทุกประเทศอย่างไม่ลดละ ยึดมั่นในยุทธศาสตร์เปิดเพื่อประโยชน์ร่วมกันและ win-win ร่วมมือกำจัดการเผชิญหน้า แทนที่ผลรวมศูนย์ ด้วย win-win และให้โอกาสใหม่แก่โลกด้วยการพัฒนาใหม่ของจีน
๒. นายหวัง อี้ ชี้ให้เห็นว่า การรักษาและฝึกฝนลัทธิพหุภาคีที่แท้จริงเป็นแนวทางที่ถูกต้องในการแก้ปัญหาที่ซับซ้อนของโลกทุกวันนี้ และตอบสนองต่อความท้าทายด้านความปลอดภัยทั้งแบบดั้งเดิมและที่ไม่ใช่แบบดั้งเดิมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
๒.๑ ก่อนอื่น เราต้องร่วมกันจัดการกับความท้าทายระดับโลกที่ใกล้จะเกิดขึ้น สิ่งสำคัญที่สุดคือ การยกระดับการสร้าง "กำแพงเมืองภูมิคุ้มกัน" (“免疫长城”) เพื่อต่อต้านไวรัส รักษาแนวความคิดเกี่ยวกับชุมชนด้านสุขภาพของมนุษย์ ก้าวข้ามความแตกต่างทางการเมือง และดำเนินการความร่วมมือระหว่างประเทศในการต่อสู้กับโรคระบาด
๒.๒ ประการที่สอง เราต้องร่วมกันส่งเสริมการระงับข้อพิพาททางการเมืองของประเด็นร้อนทั่วโลก
๒.๓ ประการที่สาม เราต้องร่วมกันต่อต้านการปฏิบัติที่เป็นอันตรายทั้งหมดที่สร้างการแบ่งแยกและการเผชิญหน้า ด้วยเหตุนี้ เราต้องคัดค้านการเผชิญหน้าแบบกลุ่ม การเมืองเชิงอำนาจ และการแทรกแซงกิจการภายในอย่างชัดเจน
บทสรุป
นายหวัง อี้ ได้เน้นย้ำจุดยืนของจีนในประเด็นฮ่องกงและไต้หวันว่า จีนในปัจจุบันไม่ใช่จีนเมื่อร้อยปีที่แล้วอีกต่อไป ไม่มีใครหรือกำลังใด ๆ ที่ควรดูถูกดูแคลนเจตจำนงและความสามารถอันทรงพลังของคนจีนในการปกป้องอธิปไตยของชาติ ความมั่นคงและผลประโยชน์ในการพัฒนาของประเทศ ทั้งนี้ หัวข้อของการประชุมสันติภาพโลกครั้งที่ ๙ คือ "ความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างประเทศในยุคหลังโรคระบาด: การรักษาและปฏิบัติพหุภาคีนิยม" (“后疫情时代的国际安全合作：维护和践行多边主义”) โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมทั้งที่เป็นชาวจีนและชาวต่างชาติมากกว่า ๕๐๐ คน ผ่านวิธีการทั้งออนไลน์และออฟไลน์
ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล