bg-head-3

有趣的文章

จีนศึกษา วันศุกร์ที่ ๒ เม.ย.๖๔ เรือพิฆาต (驱逐舰) รุ่น ๐๕๕ ลาซ่า (拉萨) ของจีน หมายเลข ๑๐๒

๑. ในช่วงบ่ายของวันที่ ๒๕ มี.ค.๖๔ กระทรวงกลาโหมจีนได้จัดงานแถลงข่าวตามปกติ ซึ่ง พันเอกอาวุโส (大校) เหริน กั๋วเฉียง (任国强) รองผู้อำนวยการสำนักงานสารสนเทศ กระทรวงกลาโหม (国防部新闻局副局长) และโฆษกกระทรวงกลาโหม (国防部新闻发言人) ได้แถลงว่า  
     ๑.๑ เรือพิฆาตรุ่น ๐๕๕ เป็นเรือพิฆาตขนาดระวางขับน้ำ ๑๐,๐๐๐ ตัน ที่จีนวิจัยและผลิตขึ้นเอง ที่ถือเป็นความสำเร็จเชิงสัญลักษณ์ในการบรรลุการพัฒนาเชิงการปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์ของกองทัพเรือจีน และสร้างความคืบหน้าด้านเทคโนโลยีสำคัญในการผลิตเรือรบขนาดใหญ่ เช่น การออกแบบเชิงรวม และการบูรณาการข้อมูล เป็นต้น  
     ๑.๒ เรือพิฆาตรุ่น ๐๕๕ นี้ ได้ติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันการโจมตีทางอากาศ อุปกรณ์ต่อต้านขีปนาวุธ อุปกรณ์ต่อต้านเรือรบและเรือดำน้ำ มีความสามารถค่อนข้างสูงในการรับรู้ข้อมูลสารสนเทศ การป้องกันการโจมตีทางอากาศ การต่อต้านขีปนาวุธ และการโจมตีเป้าหมายในทะเล อันมีส่วนช่วยให้กองทัพเรือจีนแบกรับภารกิจในการปกป้องอธิปไตยและความมั่นคง คุ้มครองผลประโยชน์ด้านการพัฒนาของประเทศ ตลอดจนรักษาสันติภาพ  ความมั่นคง และความเจริญรุ่งเรืองของโลกให้ดียิ่งขึ้น
 
๒. เรือพิฆาตรุ่น ๐๕๕ นี้ ได้รับการพัฒนาขึ้นเมื่อปลายปี ๒๐๑๔ (พ.ศ.๒๕๕๗) โดยการสร้างเรือหมายเลข ๑๐๑ หนานชาง (南昌) ซึ่งเป็นเรือพิฆาต รุ่น ๐๕๕ ลำแรกที่ได้เปิดตัวเมื่อวันที่ ๒๘  มิ.ย. ปี ๒๐๑๗ (พ.ศ.๒๕๖๐) และได้เข้าประจำการอย่างเป็นทางการในวันที่ ๑๒ ม.ค. ปี ๒๐๒๐ (พ.ศ.๒๕๖๓) โดยยังคงเหลือเรือพิฆาตประเภทเดียวกันอีก ๖ ลำ กำลังอยู่ระหว่างการทดสอบทางทะเล ทั้งนี้ เรือพิฆาตรุ่นนี้ ถือเป็นเรือรบผิวน้ำที่มีขีดความสามารถสมบูรณ์แบบที่สุดที่ถูกสร้างขึ้นในประเทศจีน โดยมียุทโธปกรณ์ขั้นสูงจำนวนมาก เช่น ปืนเรือขนาด ๑๓๐ มม. และ ปืนต่อต้านอากาศยาน Hongqi-10 32-tube multi-function launchers ฯลฯ
 
บทสรุป

เรือพิฆาตรุ่น ๐๕๕ ขนาด ๑๐,๐๐๐ ตัน ลำที่สองชื่อ "ลาซ่า" ได้เข้าประจำการในกองทัพเรือจีนอย่างเป็นทางการ โดยเรือพิฆาตรุ่นนี้ ได้สร้างขึ้นจำนวน ๘ ลำ ซึ่งไม่เพียงแต่จะกลายเป็นหน่วยคุ้มกันที่แข็งแกร่งที่สุดของเรือบรรทุกเครื่องบินเท่านั้น แต่ยังมีความสามารถในการปฏิบัติการอิสระอีกด้วย และมีความพร้อมที่จะนำกองกำลังทางเรือของจีนไปสู่น่านน้ำที่ห่างไกลเพื่อปกป้องผลประโยชน์ทางทะเลของจีนได้ดียิ่งขึ้น
 
ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล  
 
ข้อมูลจากเว็บไซต์