จีนศึกษา วันอังคารที่ ๑๘ พ.ค.๖๔ ขอนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับนายหวัง อี้ (王毅) มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (国务委员兼外长) ของจีน ได้เข้าร่วมพิธีเปิดมหกรรมสินค้านานาชาติเส้นทางสายไหมครั้งที่ ๕ และพิธีเปิดงานหารือความร่วมมือและการค้าการลงทุนระหว่างภาคตะวันออกกับภาคตะวันตกของจีน ที่จัดขึ้น ณ นครซีอาน มณฑลส่านซี เมื่อวันที่ ๑๑ พ.ค.๖๔ ผ่านทางวิดีโอและกล่าวสุนทรพจน์ในหัวข้อ "การเชื่อมต่อ การร่วมสร้างสรรค์และการแบ่งปัน" (“互联互通·共建共享”) ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
๑. งานมหกรรมสินค้านานาชาติเส้นทางสายไหมครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการพัฒนาร่วมกันของภูมิภาคตะวันออก ภาคกลางและภาคตะวันตกของจีน ในการเร่งการสร้างสรรค์ร่วมกันที่มีคุณภาพสูงของ “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” (“一带一路”) และส่งเสริมการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันสำหรับมนุษยชาติ โดยจีนยินดีต้อนรับเพื่อน ๆ ทั้งเก่าและใหม่เข้าร่วมหารือเกี่ยวกับเส้นทางสู่ความร่วมมือที่จะชนะและสร้างเส้นทางแห่งการพัฒนาร่วมกัน
๒. นายหวัง อี้ กล่าวสุนทรพจน์ว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้กล่าวคำปราศรัยในพิธีเปิดประชุมฟอรั่มเอเชียโป๋อ๋าวประจำปี ๒๐๒๑ เสนอเป้าหมายใหม่ในการร่วมสร้าง “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” ที่มีคุณภาพสูง ชี้แจงทิศทางร่วมสร้าง “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” ภายใต้สถานการณ์ใหม่ ปัจจุบัน ทุกประเทศล้วนเผชิญกับภาระหน้าที่หนักหน่วงในการต้านโรคติดเชื้อโควิด-๑๙ การพัฒนาเศรษฐกิจและคุ้มครองชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ยิ่งมีความจำเป็นต้องจับมือกัน ร่วมขจัดอุปสรรค กระชับความร่วมมือภายใต้แนวคิดหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ผลักดันเศรษฐกิจโลกให้ฟื้นฟูการเติบโตโดยเร็ว โดยนายหวัง อี้เสนอข้อคิดเห็น ๔ ประการ ได้แก่
๒.๑ รับมือกับการท้าทายจากโควิดอย่างกล้าหาญ กระชับความร่วมมือสาธารณสุขในทุกด้าน
๒.๒ เพิ่มการติดต่อเชื่อมโยงกัน สร้างพื้นฐานการพัฒนาด้วยกันให้มั่นคงยิ่งขึ้น
๒.๓ ยืนหยัดอำนวยประโยชน์แก่กัน สร้างเวทีแห่งความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้าให้มีคุณภาพสูง
๒.๔ มุ่งสู่การพัฒนาแบบสีเขียว สร้างแบบอย่างการพัฒนาอย่างยั่งยืน
บทสรุป
นายหวัง อี้ เน้นย้ำว่า ปีนี้เป็นปีแรกที่จีนจะดำเนิน "แผนห้าปี ฉบับที่ ๑๔" (“十四五”) และเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางครั้งใหม่เพื่อสร้างประเทศสังคมนิยมสมัยใหม่อย่างครอบคลุม จีนจะเร่งสร้างรูปแบบการพัฒนาใหม่โดยมีวัฏจักรภายในประเทศและต่างประเทศเป็นแกนนำ โดยการส่งเสริมซึ่งกันและกันของวัฏจักรภายในประเทศและระหว่างประเทศเพื่อให้มีแรงผลักดันที่แข็งแกร่งขึ้น มีพื้นที่มากขึ้น และเส้นทางที่ดีขึ้น สำหรับการสร้างสรรค์ร่วมกันของ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” อีกทั้งศักยภาพทางการตลาดขนาดใหญ่พิเศษของจีนจะถูกปล่อยออกมาอย่างเต็มที่ อันจะนำโอกาสมาสู่โลก ในฐานะที่เป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางสายไหมโบราณและได้กลายเป็นหน้าต่างสำคัญสำหรับจีนในการเปิดกว้างสู่ภายนอก ทั้งนี้ การปฏิรูปและการเปิดกว้างของจีนที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น รวมทั้งการหารือเกี่ยวกับความร่วมมือในการแสวงหาการพัฒนาร่วมกันจะสร้างอนาคตที่สดใส เพื่อผลประโยชน์ร่วมกันและชนะไปด้วยกัน
ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
https://www.mfa.gov.cn/web/wjbzhd/t1874802.shtml
