จีนศึกษา (วันอาทิตย์ที่ ๗ พ.ย.๖๔) ขอนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง (国家主席习近平) ได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม G20 ครั้งที่ ๑๖ (二十国集团领导人第十六次峰会) ผ่านระบบทางไกล จากกรุงปักกิ่งต่อไป เมื่อช่วงค่ำของวันที่ ๓๑ ต.ค.๖๔ โดยเน้นมุมมองในประเด็นต่างๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พลังงาน และการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
๑. ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ชี้ให้เห็นว่า ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและพลังงานเป็นปัญหาท้าทายระดับโลกในปัจจุบัน ซึ่งเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ร่วมกันของประชาคมระหว่างประเทศและอนาคตของโลก ความเต็มใจและแรงจูงใจของประชาคมระหว่างประเทศในการทำงานร่วมกันเพื่อรับมือกับความท้าทายยังคงเพิ่มขึ้น และกุญแจสำคัญคือการลงมือปฏิบัติจริง
๑.๑ ประการแรก ใช้มาตรการนโยบายที่ครอบคลุมและสมดุล การคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาเศรษฐกิจจะต้องได้รับการประสานงาน โดยคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการปกป้องการดำรงชีวิตของประชาชน และเศรษฐกิจหลักควรเสริมสร้างความร่วมมือในเรื่องนี้
๑.๒ ประการที่สอง ดำเนินการตามกรอบ “อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” (“联合国气候变化框架公约”) และ”ข้อตกลงปารีส” (“巴黎协定”) อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องรักษาสถานะของสหประชาชาติเป็นช่องทางหลัก ใช้หลักการของความรับผิดชอบร่วมกันแต่แตกต่างกันเป็นรากฐานที่สำคัญ ใช้กฎหมายระหว่างประเทศเป็นรากฐาน และได้รับการชี้นำโดยการดำเนินการที่มีประสิทธิภาพ เสริมสร้างการกระทำของตนเอง และส่งเสริมระดับความร่วมมือ
๑.๓ ประการที่สาม เพิ่มการสนับสนุนสำหรับประเทศกำลังพัฒนา สมาชิกของกลุ่ม G20 ควรเป็นผู้นำในการส่งเสริมการเผยแพร่และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง และประเทศที่พัฒนาแล้วควรปฏิบัติตามพันธกรณีอย่างจริงจังและให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ประเทศกำลังพัฒนา
๒. ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เน้นย้ำว่า จีนเพิ่งเปิดตัวโครงการพัฒนาระดับโลก โดยเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศเร่งดำเนินการตามวาระ ๒๐๓๐ แห่งสหประชาชาติเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน และส่งเสริมการพัฒนาโลกที่เข้มแข็ง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีสุขภาพดี กลุ่ม G20 จะต้องสร้างฉันทามติและเสริมสร้างการดำเนินการในเรื่องนี้คือ
๒.๑ ยึดมั่นในลำดับความสำคัญของการพัฒนาและนำแนวคิดที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางมาใช้
๒.๒ ยึดมั่นในการดำเนินการและส่งเสริมความร่วมมือในทางปฏิบัติ
๒.๓ ยืนหยัดในผลประโยชน์ร่วมกันแบบ win-win และสร้างพันธมิตร
บทสรุป
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เน้นถึงความจำเป็นที่ต้องสนับสนุนให้สหประชาชาติมีบทบาทในการประสานงาน กระชับความเป็นหุ้นส่วนด้านการพัฒนาระดับโลก และสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันสำหรับการพัฒนาระดับโลก (构建全球发展命运共同体) ซึ่งประเทศที่พัฒนาแล้วต้องปฏิบัติตามพันธกรณีด้านความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาอย่างจริงจังและจัดหาทรัพยากรให้ประเทศกำลังพัฒนามากขึ้น
ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
http://www.chinaembassy.or.th/