ขอนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับกฎหมายป้องกันประเทศของสาธารณรัฐประชาชนจีน (中华人民共和国国防法) ที่ได้รับการแก้ไขและประกาศใช้ในการประชุม ครั้งที่ ๒๔ ของคณะกรรมการประจำสภาประชาชนแห่งชาติ ชุดที่ ๑๓ ของสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ ๒๖ ธ.ค.๖๓ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ ๑ ม.ค.๖๔ (ตอนที่ ๒ ว่าด้วยบทบัญญัติทั่วไป และอำนาจในการป้องกันประเทศของสถาบันแห่งชาติ ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
๑. บทที่ ๑ บทบัญญัติทั่วไป (มาตรา ๑ - มาตรา ๑๑) บัญญัติว่า
๑.๑ มาตรา ๑ เพื่อสร้างและรวบรวมการป้องกันประเทศให้ดำเนินไปอย่างราบรื่นในการปฏิรูปและการเปิดกว้าง รวมทั้งการสร้างสรรค์สังคมนิยมให้ทันสมัยและตระหนักถึงการฟื้นฟูที่ยิ่งใหญ่ของประเทศจีน กฎหมายนี้ได้รับการกำหนดขึ้นตามรัฐธรรมนูญ
๑.๒ มาตรา ๒ กิจกรรมทางทหารที่ดำเนินการโดยรัฐ เพื่อป้องกันและต่อต้านการรุกราน หยุดการบ่อนทำลาย รวมทั้งการแบ่งส่วนอาวุธในการปกป้องอธิปไตยของชาติ เอกภาพและบูรณภาพแห่งดินแดน ผลประโยชน์ด้านความมั่นคงและการพัฒนา ตลอดจนการทหารที่เกี่ยวข้องกับการเมือง เศรษฐกิจ การทูต วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การศึกษา ฯลฯ กฎหมายนี้บังคับใช้กับกิจกรรมทุกด้าน
๑.๓ มาตรา ๓ การป้องกันประเทศคือ หลักประกันความมั่นคงเพื่อความอยู่รอดและการพัฒนาของประเทศ ประเทศเสริมสร้างความเข้มแข็งในการสร้างกองกำลัง เสริมสร้างความเข้มแข็งในการป้องกันชายแดน การป้องกันชายฝั่ง การป้องกันทางอากาศ และสาขาความมั่นคงหลักอื่นๆ พัฒนาการวิจัยและการผลิตด้านการป้องกันประเทศ เผยแพร่การศึกษาด้านการป้องกันประเทศให้เป็นที่นิยม ปรับปรุงระบบการระดมกำลังป้องกันประเทศและตระหนักถึงความทันสมัยด้านการป้องกันประเทศ
๑.๔ มาตรา ๔ กิจกรรมการป้องกันประเทศเป็นไปตามแนวทางของลัทธิมาร์กซ์ – เลนิน ความคิดเหมาเจ๋อตง ทฤษฎีเติ้งเสี่ยวผิง แนวความคิดที่สำคัญของ "สามตัวแทน" (“三个代表”) มุมมองทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการพัฒนาและความคิดสีจิ้นผิงเกี่ยวกับสังคมนิยมที่มีลักษณะจีนสำหรับยุคใหม่ การใช้ความคิดสีจิ้นผิงในการเสริมสร้างกองทัพและยึดมั่นในความมั่นคงของชาติโดยรวม การใช้ยุทธศาสตร์ทางทหารในยุคใหม่ การสร้างการป้องกันประเทศแบบรวมการและกองกำลังติดอาวุธที่มีประสิทธิภาพที่สอดคล้องกับสถานะระหว่างประเทศของจีน ตลอดจนความสอดคล้องกับผลประโยชน์ด้านความมั่นคงและการพัฒนาของชาติ
๑.๕ มาตรา ๕ รัฐแสดงความเป็นผู้นำที่เป็นหนึ่งเดียวในกิจกรรมการป้องกันประเทศ
๑.๖ มาตรา ๖ สาธารณรัฐประชาชนจีนดำเนินนโยบายป้องกันประเทศ การสร้างและรวบรวมการป้องกันประเทศในลักษณะที่เป็นอิสระ รวมทั้งพึ่งพาตนเองดำเนินการป้องกันอย่างแข็งขันและสนับสนุนการป้องกันประเทศ ทั้งนี้ ประเทศยึดมั่นในการพัฒนาที่ประสานกันอย่างสมดุล การบูรณาการของการดำเนินการทางเศรษฐกิจและการป้องกันประเทศ การดำเนินกิจกรรมการป้องกันประเทศตามกฎหมาย เร่งความทันสมัยของการป้องกันประเทศและการทหาร ตลอดจนตระหนักถึงเอกภาพของประเทศที่เจริญรุ่งเรืองและการทหารที่เข้มแข็ง
๑.๗ มาตรา ๗ เป็นหน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์ของพลเมืองทุกคนของสาธารณรัฐประชาชนจีนในการปกป้องมาตุภูมิและต่อต้านการรุกราน พลเมืองของสาธารณรัฐประชาชนจีนจะต้องปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันประเทศของตนตามกฎหมาย หน่วยงานของรัฐและกองกำลังติดอาวุธ พรรคการเมือง และองค์กรของประชาชน สถานประกอบการและสถาบันองค์กรทางสังคมและองค์กรอื่น ๆ ควรสนับสนุนและมีส่วนร่วมในการป้องกันประเทศตามกฎหมาย และปฏิบัติหน้าที่ป้องกันประเทศห้สำเร็จ
๑.๘ มาตรา ๘ รัฐและสังคมให้ความเคารพ รวมทั้งให้การปฏิบัติตามสิทธิพิเศษแก่เจ้าหน้าที่ทหารปกป้องสถานะ สิทธิและผลประโยชน์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ดำเนินการสนับสนุนบุคลากรทางทหารในรูปแบบต่างๆ และทำให้บุคลากรทางทหารเป็นวิชาชีพที่ได้รับการยอมรับจากคนทั้งสังคม กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนและกองกำลังตำรวจติดอาวุธประชาชนจีน ดำเนินกิจกรรมเพื่อสนับสนุนรัฐบาลและให้ความรักประชาชนเพื่อรวมความสามัคคีของทหาร รัฐบาลและกองทัพ
๑.๙ มาตรา ๙ สาธารณรัฐประชาชนจีนส่งเสริมการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือทางทหารระหว่างประเทศอย่างแข็งขัน การปกป้องสันติภาพของโลกและต่อต้านการรุกรานและการขยายตัว
๑.๑๐ มาตรา ๑๐ องค์กรและบุคคลที่มีส่วนร่วมในกิจกรรมป้องกันประเทศจะได้รับการยกย่องและให้รางวัลตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง
๑.๑๑ มาตรา ๑๑ องค์กรหรือบุคคลใดที่ละเมิดกฎหมายนี้ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามพันธกรณีในการป้องกันประเทศหรือเป็นอันตรายต่อผลประโยชน์ในการป้องกันประเทศ จะต้องถูกสอบสวนเพื่อความรับผิดชอบทางกฎหมายตามกฎหมาย ในกิจกรรมการป้องกันประเทศเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ใช้อำนาจในทางที่ผิด ละเลยต่อหน้าที่หรือมีส่วนร่วมในการทุจริตต่อหน้าที่เพื่อประโยชน์ส่วนตนจะถูกสอบสวนเพื่อความรับผิดชอบทางกฎหมายตามกฎหมาย
๒. บทที่ ๒ อำนาจในการป้องกันประเทศของสถาบันแห่งชาติ (มาตรา ๑๒ - มาตรา ๑๙) แต่วันนี้จะนำเสนอเพียง ๒ มาตราคือ
๒.๑ มาตรา ๑๒ สภาประชาชนแห่งชาติต้องตัดสินใจเกี่ยวกับสงครามและสันติภาพตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ รวมทั้งจะใช้หน้าที่และอำนาจอื่น ๆ ในการป้องกันประเทศที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการประจำสภาประชาชนแห่งชาติตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญเป็นผู้ตัดสินใจเกี่ยวกับการประกาศสภาวะสงคราม การตัดสินใจเกี่ยวกับการระดมพลโดยทั่วไปหรือบางส่วนของประเทศ ตลอดจนใช้อำนาจและหน้าที่อื่น ๆ ในการป้องกันประเทศที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ
๒.๒ มาตรา ๑๓ ตามการตัดสินใจของสภาประชาชนแห่งชาติและคณะกรรมการประจำสภาประชาชนแห่งชาติ ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประกาศภาวะสงคราม การออกคำสั่งระดมพล รวมทั้งใช้หน้าที่และอำนาจอื่น ๆ ในการป้องกันประเทศที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ
บทสรุป
ในบทที่ ๑ ได้ระบุถึงเจตนารมย์ของกฎหมายฉบับนี้ ส่วนบทที่ ๒ บัญญัติเกี่ยวกับการใช้อำนาจในการป้องกันประเทศ ซึ่งจะได้นำเสนอมาตรา ๑๔ - มาตรา๑๙ ต่อในวันพรุ่งนี้ครับ
ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
ข้อมูลจากเว็บไซต์
https://dzrb.dzng.com/articleContent/3494_824406.html
http://npc.people.com.cn/n1/2020/1227/c14576-31980018.html