เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ปิดฉากการเยือนเอเชียอย่างชื่นมื่นเมื่อวันอาทิตย์ (19) หลังมีการต้อนรับอย่างอบอุ่นและการรับรองจากจีนว่าจะให้ความร่วมมือในการจัดการกับเกาหลีเหนือ และละวางประเด็นขุ่นข้องหมองใจต่างๆ เอาไว้ก่อน อย่างน้อยก็ต่อหน้าสื่อมวลชน
ปักกิ่งนั้นขุ่นเคืองเรื่องที่วอชิงตันคอยต่อว่าเรื่องไม่ช่วยขัดขวางโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเปียงยาง รวมทั้งไม่พอใจอย่างมากที่อเมริกาส่งระบบต่อต้านขีปนาวุธ “THAAD” ไปเตรียมติดตั้งในเกาหลีใต้
จีนยังเคลือบแคลงในเจตนารมณ์ของอเมริกาเกี่ยวกับไต้หวัน ซึ่งจีนอ้างว่าเป็นดินแดนขบถของตน ขณะที่คณะบริหารของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กำลังร่างแพกเกจขายอาวุธล็อตใหม่ให้ไทเป
ระหว่างการประชุมในมหาศาลาประชาคมในกรุงปักกิ่ง ทิลเลอร์สันและประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้ละวางปัญหาเหล่านั้นชั่วคราว อย่างน้อยก็ต่อหน้าผู้สื่อข่าว โดยทางผู้นำจีนได้ชื่นชมว่าทิลเลอร์สันพยายามอย่างมากในการเปลี่ยนสู่ความสัมพันธ์ยุคใหม่ที่ราบรื่น
ประมุขแดนมังกรเสริมว่า ได้ติดต่อกับทรัมป์หลายครั้งทางโทรศัพท์และข้อความ โดยเห็นตรงกันว่าความร่วมมือของสองประเทศนับจากนี้จะอยู่ในทิศทางที่ต่างฝ่ายต่างต้องการและหวังให้มีพัฒนาการเชิงสร้างสรรค์ต่อไป
ด้านทิลเลอร์สันขานรับว่า ทรัมป์ต้องการส่งเสริมความเข้าใจอันดีกับจีน รวมทั้งกำลังหาโอกาสที่จะเดินทางเยือนจีนในอนาคต พร้อมสำทับว่า ทรัมป์ให้ความสำคัญมากต่อการสื่อสารกับสี
ตลอดเวลาที่ผ่านมาทรัมป์คือหุ้นส่วนที่ไม่อาจคาดเดาได้ในสายตาปักกิ่ง อีกทั้งยังโจมตีปักกิ่งไม่ว่างเว้น ตั้งแต่ประเด็นการค้าไปจนถึงเรื่องทะเลจีนใต้ แถมเมื่อเดือนธันวาคมยังคุยโทรศัพท์กับประธานาธิบดี ไช่ อิงเหวิน ของไต้หวัน
ช่วงก่อนที่ทิลเลอร์สันจะเดินทางถึงปักกิ่งเมื่อวันเสาร์ (18) ทรัมป์ยังวิจารณ์ว่าเกาหลีเหนือมีพฤติกรรมเลวร้ายมาก และกล่าวหาจีนว่าไม่พยายามจะแก้ไขวิกฤตจากโครงการอาวุธของโสมแดง
นอกจากนั้น เมื่อวันศุกร์ (17) ระหว่างเยือนโซล ทิลเลอร์สันออกคำเตือนที่เด็ดขาดที่สุดของคณะบริหารทรัมป์ว่า การตอบโต้ทางทหารเป็นทางเลือกหนึ่ง หากเปียงยางคุกคามเกาหลีใต้และกองกำลังอเมริกัน
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนจีนและสหรัฐฯ มีความคืบหน้าอยู่บ้างหรืออย่างน้อยก็ละวางความบาดหมางในประเด็นอื่นๆ ด้วยการผลักดันแผนการพบปะระหว่างสีกับทรัมป์
ทั้งทิลเลอร์สันและ “หวัง อี้” รัฐมนตรีต่างประเทศจีน มีน้ำเสียงประนีประนอมมากขึ้น โดยทิลเลอร์สันกล่าวว่า อเมริกาและจีนจะร่วมมือกันเพื่อทำให้เกาหลีเหนือที่มีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครองกลับตัวกลับใจ
สำนักข่าวของทางการเปียงยางรายงานเมื่อวันอาทิตย์ว่า เกาหลีเหนือตอกย้ำสถานการณ์ตึงเครียดด้วยการทดสอบเครื่องยิงจรวดใหม่ที่สถานีปล่อยจรวดตองชาง-รี ขณะที่ผู้นำสูงสุด “คิม จองอึน” ประกาศว่า ความสำเร็จในการทดสอบคือการแจ้งเกิดของอุตสาหกรรมจรวดโสมแดง
ที่ผ่านมาเกาหลีเหนือทดสอบนิวเคลียร์มาแล้ว 5 ครั้ง และทดสอบยิงขีปนาวุธอีกหลายระลอก ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนมาตรการลงโทษของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) และผู้เชี่ยวชาญและเจ้าหน้าที่รัฐบาลหลายชาติเชื่อว่าเปียงยางกำลังพัฒนาขีปนาวุธติดหัวรบที่ยิงได้ถึงอเมริกา
ดังนั้น วอชิงตันจึงต้องการให้จีน ซึ่งเป็นทั้งเพื่อนบ้านและคู่ค้าหลักของเกาหลีเหนือ ใช้อิทธิพลควบคุมโครงการอาวุธโสมแดง
ด้านจีนยืนยันว่ามุ่งมั่นในการบังคับใช้มาตรการลงโทษของยูเอ็นต่อเกาหลีเหนือ แต่เสริมว่าทุกฝ่ายต้องรับผิดชอบในการผ่อนคลายสถานการณ์และกลับสู่โต๊ะเจรจา
เจ้าหน้าที่แดนมังกรยังย้ำว่า จีนไม่ได้มีอิทธิพลเหนือเกาหลีเหนืออย่างที่วอชิงตันและประเทศอื่นคิด พร้อมแสดงความกังวลว่าเกาหลีเหนือที่ประชาชนยากจนข้นแค้นอาจล่มสลายหากถูกโดดเดี่ยวเต็มรูปแบบ ซึ่งจะผลักดันให้คลื่นผู้ลี้ภัยทะลักเข้าสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน
ที่มา : manager online