นายไพศาล พืชมงคล อุปนายกและเลขาธิการ สมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน เปิดเผยว่าขณะนี้อธิบดีกรมเอเชียของกระทรวงการต่างประเทศไทย-จีน ได้ลงนามใน MOU ว่าด้วยการยกเลิกการลงวีซ่าระหว่างไทย-จีนแล้ว รอรัฐบาลเห็นชอบให้ลงนามในระดับกระทรวงก็จะส่งผลให้ประชาชนของทั้งสองประเทศสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวระหว่างกันโดยไม่ต้องลงวีซ่าได้ คาดว่านักท่องเที่ยวจีนจะเดินทางมาไทยเป็นจำนวนมาก
นายไพศาล พืชมงคล กล่าวว่าสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน ได้ริเริ่มผลักดันให้ยกเลิกการลงวีซ่าระหว่างกันตั้งแต่ครั้งคณะผู้แทนสมาคมฯ ได้เดินทางเยือนประเทศจีน และได้เข้าเยี่ยมคารวะ ฯพณฯ อ้ายผิง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวิเทศสัมพันธ์พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน ซึ่งทั้งสองฝ่ายยินดีที่จะเสนอต่อรัฐบาลของทั้งสองประเทศให้พิจารณาเรื่องนี้ และหลังจากนั้นนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้เจรจาเรื่องนี้กับนายกรัฐมนตรีหลี่เค่อเสียงตามข้อเสนอของสมาคมฯ ในขณะที่ฝ่ายจีนก็ได้รับข้อเสนอจากพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีนด้วย นายกรัฐมนตรีของทั้งสองฝ่ายได้เห็นชอบในหลักการและมอบให้กระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองฝ่ายหารือกันต่อไป ในการหารือในระดับกระทรวงได้ตกลงเห็นชอบร่วมกัน โดยมอบให้กรมเอเชียของทั้งสองประเทศพิจารณาหารือในรายละเอียดของร่าง MOU ระหว่างกัน และล่าสุดกรมเอเชียของทั้งสองประเทศได้ลงนามความตกลงใน MOU ว่าด้วยการยกเลิกวีซ่าระหว่างไทย-จีนแล้ว และรอความเห็นชอบจากรัฐบาลไทยที่จะลงนามในระดับกระทรวงต่อไป
นายไพศาล พืชมงคล กล่าวว่าในวันนี้ สมาคมฯ ได้มีหนังสือถึงหัวหน้า คสช. เพื่อเสนอให้พิจารณาเห็นชอบให้กระทรวงการต่างประเทศลงนามใน MOU กับกระทรวงการต่างประเทศจีน ซึ่งในเรื่องนี้เมื่อได้รับความเห็นชอบแล้วได้รับแจ้งจากสถานทูตจีนประจำประเทศไทยว่าทางสถานทูตจีนจะประชาสัมพันธ์เรื่องนี้อย่างกว้างขวางในประเทศจีน
นายไพศาล พืชมงคล กล่าวว่าการยกเลิกการลงวีซ่าระหว่างกันเป็นทิศทางใหญ่ของการไปมาหาสู่ของประชาชนของแต่ละประเทศ ในขณะนี้ประเทศไทยได้ยกเลิกการลงวีซ่ากับประเทศรัสเซียไปก่อนเพื่อนแล้ว ต่อมาก็ได้ยกเลิกการลงวีซ่ากับประเทศญี่ปุ่น และทุกประเทศในอาเซียน ดังนั้นหากไทย-จีน ตกลงยกเลิกการลงวีซ่าระหว่างกันก็จะยิ่งทำให้ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวและนักลงทุนจากประเทศจีนเดินทางมามากขึ้นและสะดวกขึ้น ซึ่งจะรอฟังผลการตัดสินใจของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะ คสช. ต่อไป.
