นายไพศาล พืชมงคล อุปนายกและเลขาธิการ สมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน เปิดเผยว่าในระหว่างการเดินทางเยือนกรุงปักกิ่ง-หวู่ฮั่น-กวางโจว ของคณะผู้แทนสมาคมฯ ระหว่างวันที่ 25 พฤศจิกายน – 1 ธันวาคม 2556 ทางฝ่ายจีนได้จัดให้คณะผู้แทนสมาคมฯ เดินทางเยือนกระท่อมของขงเบ้งที่เทือกเขาโงลังกั๋ง และเยี่ยมชมพื้นที่อันเป็นสมรภูมิเซ็กเพ็กหรือภูผาแดงด้วย
นายไพศาล พืชมงคล กล่าวว่าเมื่อคณะผู้แทนสมาคมฯ เดินทางถึงเมืองหวู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ฝ่ายเจ้าภาพได้จัดให้คณะผู้แทนเดินทางไปยังเมืองเซียงหยาง หรือเมืองซงหยงในสมัยสามก๊ก โดยจัดให้พักที่เรือนรับรองหนานหูโฮเต็ล ซึ่งตั้งอยู่ติดริมทะเลสาบติดกับกำแพงเมืองซงหยง โดยในวันรุ่งขึ้นคือวันที่ 28 พฤศจิกายน 2556 ช่วงเช้า เจ้าภาพได้จัดให้คณะเดินทางไปยังเทือกเขาโงลังกั๋ง เพื่อเยี่ยมชมกระท่อมของขงเบ้งที่เล่าปี่เคยมาเยือนถึง 3 ครั้ง ทิวทัศน์ก่อนถึงเขาโงลังกั๋งและป่าสนแถวเขาโงลังกั๋งร่มรื่นและหนาวเย็นพอประมาณ ตรงกับที่เจ้าพระยาพระคลัง (หน) เคยบรรยายไว้ว่า ถึงฤดูร้อนก็ไม่ร้อน ถึงเทศกาลหน้าหนาวก็ไม่หนาว ระดับความสูงค่อยๆ ยกระดับขึ้น กระทั่งถึงเขามังกรหลับอันเป็นพื้นที่บ้านของขงเบ้ง มีสิ่งก่อสร้างรายเรียงอยู่ 3 พื้นที่ พื้นที่แรกเป็นพื้นที่ศาลเจ้าขงเบ้ง ที่จักรพรรดิจีนรุ่นหลังได้สร้างจำลองบ้านพักขงเบ้งตามแบบสถาปัตย์ในราชวงศ์หมิง พื้นที่ที่สองเป็นพื้นที่ที่ทางการจีนได้สร้างบ้านจำลองของขงเบ้งตามแบบสถาปัตย์ในราชวงศ์ชิง และพื้นที่ที่สามเป็นพื้นที่ที่ทางการจีนได้สร้างกระท่อมจำลองตามแบบดั้งเดิมในสมัยราชวงศ์ฮั่น แสดงให้เห็นพื้นที่ตั้งแต่รั้วบ้าน เข้าสู่กระท่อมรับรองหน้า ซึ่งมีที่พักด้านข้างสองแถวตามแบบการก่อสร้างของจีน จากกระท่อมรับรองด้านหน้าเข้าไปด้านในเป็นกระท่อมที่พักของขงเบ้ง ซึ่งส่วนกลางเป็นห้องรับรองหรือนั่งเล่นอ่านหนังสือ ด้านขวามือเป็นห้องนอน ห้องซ้ายมือเป็นห้องซ้อมดนตรีและอ่านหนังสือ นอกอาคารด้านหลังออกไปเป็นเจดีย์โบราณ ซึ่งเคยเป็นที่อาจารย์ของขงเบ้งพำนักอาศัยอยู่ สภาพภูมิทำเลที่ตั้งเป็นไปตามข้อยกเว้นชั้นเลิศของภูมิสถาปัตย์หรือฮวงจุ้ย ตามที่ได้มีการพรรณนาไว้ในหนังสือสามก๊กฉบับเรืองวิทยาคม
หลังจากเยือนกระท่อมของขงเบ้งแล้ว ฝ่ายจีนได้นำคณะผู้แทนเดินทางไปยังพื้นที่ซึ่งเคยเป็นสมรภูมิเซ็กเพ็กที่โจโฉแตกทัพเรือในสมัยสามก๊กหรือที่เรียกว่าภูผาแดง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ตั้งกองทัพของจิวยี่ ส่วนพื้นที่ที่เคยเป็นที่ตั้งค่ายหลวงของจิวยี่นั้นได้เป็นพื้นที่พัฒนาจัดสรรหมดแล้ว พื้นที่ที่เจ้าภาพนำไปดูเป็นพื้นที่ที่นักปราชญ์จีนคนสำคัญคือตงโพวได้มาเยือน และได้แต่งบทกวีมากมาย จนกระทั่งพื้นที่นี้ถูกขนานนามว่า “ตงโพวสือปี้” ซึ่งสถาปัตยกรรมในการก่อสร้างทั้งหมดเป็นสถาปัตยกรรมในสมัยราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง ตั้งอยู่บนจุดที่เป็นกึ่งกลางคุ้งน้ำของแม่น้ำแยงซี โดยมีพื้นที่เกิดใหม่ที่เกิดจากดินทับถมทั้งสองด้าน ด้านละกว่า 2 กิโลเมตร ไกลลิบออกไปเป็นแม่น้ำแยงซี และฝั่งตรงกันข้ามก็เป็นพื้นที่ถมทับอีกหลายกิโลเมตร จึงถึงทิวเขาที่โจโฉเคยตั้งทัพบก ทัพเรือ ทำให้เห็นว่าแม่น้ำแยงซีเกียงในยุคนั้นที่เคยถูกใช้เป็นสมรภูมิมีความกว้างประมาณ 8-10 กิโลเมตร ดังนั้นในสมัยสามก๊กจึงเรียกว่าเป็นทะเล.