การท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน โดยเฉพาะในประเทศไทยนั้นกำลังได้รับแรงหนุนจากการใช้ระบบ อี-วอลเลต หรือกระเป๋าเดินทางอิเลคโทรนิคส์ ของกลุ่มนักท่องเที่ยว ที่สามารถใช้จ่ายผ่านผ่านโทรศัพท์มือถือ ได้ทันที โดยไม่ต้องพกเงินสดจำนวนมากเมื่อเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวมีความสะดวกมากขึ้น
โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากจีนนั้น ได้มีการใช้ระบบอี-วอลเลต ในระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวอย่างมาก เช่นผ่านแอพพลิเคชั่น “อาลี เปย์” ของอาลีบาบา
โดยในประเทศไทยก็มีการใช้ระบบนี้ให้บริการนักท่องเที่ยวจีนมาระยะหนึ่งแล้ว โดยจากรายงานการสำรวจแนวโน้มการบริโภค และการท่องเที่ยวของชาวจีนในต่างประเทศประจำปี 2017 ของบริษัทนีลเซ็นพบว่า นักท่องเที่ยวจีน ใช้จ่ายในไทยต่อทริปเพิ่มขึ้นเป็น 65,000 บาทต่อคน
การใช้บริการ อี-วอลเลต ของ อาลีเปย์ นั้น ยังได้เสริมศักยภาพการทำดิจิทัลมาร์เกตติ้ง ในด้านการท่องเที่ยวของไทยในประเทศจีนอีกด้วย ทำให้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ มีนักท่องเที่ยวจีนเยือนประเทศไทยมากขึ้น
โดยส่วนใหญ่คนจีนจะเดินทางตามคำแนะนำของแอปพลิเคชั่นที่ใช้กันในเฉพาะประเทศจีนเช่น อาลีเปย์ ซึ่งทำให้ร้านค้าต่างๆในประเทศไทยก็ได้ประโยชนย์จากการทำ ดิจิทัลมาร์เกตติ้งจากอาลีเพย์เช่นเดียวกัน
โดย ถ้าหากร้านค้าร่วมลงทะเบียนทำธุรกิจในการรับชำระค่าสินค้าและบริการกับอาลีเพย์ เพราะข้อมูลของร้านค้าจะปรากฏอยู่ในแอปพลิเคชันของอาลีเพย์โดยอัตโนมัติ
ทั้งนี้ อาลีเปย์ ยังจะขยายการให้บริการในภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่อง โดยนอกเหนือจากในประเทศไทย สิงคโปร์ และมาเลเซียแล้ว อาลีเปย์ก็เตรียมขยายบริการไปยังกัมพูชา พม่า ลาว และฟิลิปปินส์ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจีนที่มากขึ้นด้วย
ที่มา สปริงนิวส์ออนไลน์