bg-head-3

ประวัติส่วนตัว

ปัญหายุทธศาสตร์ ในสงครามปฏิวัติของจีน* บทที่ ๑ ตอนที่ ๑ กฎแห่งสงครามเป็นกฎที่พัฒนา

 

ปัญหายุทธศาสตร์
ในสงครามปฏิวัติของจีน*
(ธันวาคม ๑๙๓๖)

 

บทที่ ๑
จะค้นคว้าสงครามอย่างไร

 

ตอนที่ ๑
กฎแห่งสงครามเป็นกฎที่พัฒนา

 

          กฎแห่งสงคราม—เป็นปัญหาซึ่งผู้ใดก็ตามที่ชี้นำสงครามจำเป็นต้องค้นคว้าและจำเป็นต้องแก้ให้ตก.

          กฎแห่งสงครามปฏิวัติ—เป็นปัญหาซึ่งผู้ใดก็ตามที่ชี้นำสงครามปฏิวัติจำเป็นต้องค้นคว้าและจำเป็นต้องแก้ให้ตก.    

          กฎแห่งสงครามปฏิวัติของจีน—เป็นปัญหาซึ่งผู้ใดก็ตามที่ชี้นำสงครามปฏิวัติของจีนจำเป็นต้องค้นคว้าและจำเป็นต้องแก้ให้ตก.

          เวลานี้เรากำลังทำสงครามอยู่ สงครามของเราเป็นสงครามปฏิวัติ  สงครามปฏิวัติของเราดำเนินอยู่ในประเทศจีนซึ่งเป็นประเทศกึ่งเมืองขึ้นกึ่งศักดินา.  ด้วยเหตุนี้  เราจึงไม่เพียงแต่ต้องค้นคว้ากฎแห่งสงครามทั่วไปเท่านั้น หากยังต้องค้นคว้ากฎแห่งสงครามปฏิวัติที่เป็นเฉพาะ และยังต้องค้นคว้ากฎแห่งสงครามปฏิวัติของจีนที่เป็นเฉพาะยิ่งขึ้นอีกด้วย.   

          เป็นที่ทราบกันดีว่า ไม่ว่าจะทำการสิ่งใด ถ้าไม่เข้าใจสภาพของสิ่งนั้น ลักษณะของสิ่งนั้นและความเกี่ยวพันระหว่างสิ่งนั้นกับสิ่งอื่นแล้ว ก็จะไม่รู้กฎของสิ่งนั้น ก็จะไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร และก็จะไม่สามารถทำสิ่งนั้นให้ดีได้.

          สงคราม—เป็นรูปแบบการต่อสู้ขั้นสูงสุดชนิดหนึ่งซึ่งเริ่มขึ้นตั้งแต่มีทรัพย์สินส่วนบุคคลและมีชนชั้นเป็นต้นมาที่ใช้แก้ความขัดแย้งในขั้นคลี่คลายขยายตัวที่แน่นอนขั้นหนึ่งระหว่างชนชั้น ระหว่างชนชาติ ระหว่างประเทศ และระหว่างกลุ่มการเมือง.  ถ้าไม่เข้าใจสภาพของสงคราม ลักษณะของสงคราม ความเกี่ยวพันระหว่างสงครามกับสิ่งอื่นแล้ว ก็จะไม่รู้กฎแห่งสงคราม ก็จะไม่รู้ว่าจะชี้นำสงครามอย่างไร และก็จะไม่สามารถรบชนะได้.

          สงครามปฏิวัติ—สงครามชนชั้นที่ปฏิวัติและสงครามประชาชาติที่ปฏิวัติ นอกจากจะมีสภาพและลักษณะของสงครามทั่วไปแล้ว ยังมีสภาพและลักษณะเฉพาะของมันด้วย. ด้วยเหตุนี้ นอกจากกฎแห่งสงครามทั่วไปแล้ว จึงยังมีกฎเฉพาะของมันอยู่บ้าง. ถ้าไม่เข้าใจสภาพและลักษณะเฉพาะเหล่านี้, ไม่เข้าใจกฎเฉพาะของมัน ก็จะไม่สามารถชี้นำสงครามปฏิวัติได้ และก็จะไม่สามารถรบชนะในสงครามปฏิวัติได้.

          สงครามปฏิวัติของจีน—ไม่ว่าจะเป็นสงครามภายในประเทศหรือสงครามประชาชาติ ล้วนแต่ดำเนินไปในสภาพแวดล้อมเฉพาะของจีนทั้งสิ้น ซึ่งเมื่อเทียบกับสงครามทั่วไปและสงครามปฏิวัติทั่วไปแล้ว ก็ยังมีสภาพเฉพาะและลักษณะเฉพาะของมันเอง.  ด้วยเหตุนี้ นอกจากกฎแห่งสงครามทั่วไปและกฎแห่งสงครามปฏิวัติทั่วไปแล้ว จึงยังมีกฎเฉพาะของมันอยู่อีกบางข้อ.  ถ้าไม่เข้าใจสิ่งเหล่านี้แล้ว ก็จะไม่สามารถรบชนะในสงครามปฏิวัติของจีนได้.

          ฉะนั้น เราจึงควรค้นคว้ากฎแห่งสงครามทั่วไป; และก็ควรค้นคว้ากฎแห่งสงครามปฏิวัติ; และในที่สุด เราก็ยังควรค้นคว้ากฎแห่งสงครามปฏิวัติของจีนอีกด้วย.

          ความเห็นของบุคคลจำพวกหนึ่งเป็นความเห็นที่ไม่ถูกต้อง, เราได้โต้ความเห็นชนิดนี้ตกไปนานแล้ว; พวกเขากล่าวว่า, เพียงแต่ค้นคว้ากฎแห่งสงครามทั่วไปก็พอแล้ว กล่าวอย่างเป็นรูปธรรมก็คือ เพียงแต่ทำตามข้อบังคับการทหารที่รัฐบาลปฏิกิริยาของจีนหรือโรงเรียนการทหารปฏิกิริยาของจีนได้จัดพิมพ์ขึ้นก็พอแล้ว.  พวกเขาไม่รู้ว่า ข้อบังคับเหล่านี้เป็นเพียงกฎแห่งสงครามทั่วไป และก็ลอกแบบมาจากต่างประเทศทั้งนั้น, ถ้าเราลอกแบบเอามาใช้อย่างเป็นพิมพ์เดียวกันโดยไม่เปลี่ยนรูปแบบและเนื้อหาของมันเลยแม้แต่น้อยแล้ว ก็จะเป็นการตัดตีนให้เข้ากับเกือกและจะต้องรบแพ้เป็นแน่.  เหตุผลของพวกเขามีว่า สิ่งที่ได้มาด้วยการหลั่งเลือดในอดีตทำไมจะใช้ไม่ได้? พวกเขาไม่รู้ว่า เราควรเคารพความจัดเจนที่ได้มาด้วยการหลั่งเลือดในอดีตก็จริงอยู่ แต่ยังควรเคารพความจัดเจนที่ได้มาด้วยการหลั่งเลือดของเราเองด้วย.

          ความเห็นของบุคคลอีกจำพวกหนึ่งก็เป็นความเห็นที่ไม่ถูก, และเราก็ได้โต้ความเห็นชนิดนี้ตกไปนานแล้วเช่นเดียวกัน; พวกเขากล่าวว่า เพียงแต่ค้นคว้าความจัดเจนจากสงครามปฏิวัติของรัสเซียก็พอแล้ว กล่าวอย่างเป็นรูปธรรมก็คือ เพียงแต่ทำตามกฎการชี้นำสงครามกลางเมืองของสหภาพโซเวียตและข้อบังคับการทหารที่องค์การการทหารสหภาพโซเวียตได้ประกาศใช้ก็พอแล้ว.  พวกเขาหารู้ไม่ว่า กฎและข้อบังคับของสหภาพโซเวียตนั้น ได้รวมเอาลักษณะเฉพาะของสงครามกลางเมืองของสหภาพโซเวียตและของกองทัพแดงสหภาพโซเวียตเข้าไว้ ถ้าเราลอกแบบเอามาใช้อย่างเป็นพิมพ์เดียวกัน โดยไม่ยอมให้มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ แล้ว ก็จะเป็นการตัดตีนให้เข้ากับเกือกและจะต้องรบแพ้เช่นเดียวกัน.   เหตุผลของคนเหล่านี้มีว่า สงครามของสหภาพโซเวียตเป็นสงครามที่ปฏิวัติ, และสงครามของเราก็เป็นสงครามที่ปฏิวัติ ทั้งสหภาพโซเวียตก็ได้ชัยชนะมาแล้ว ทำไมยังจะต้องมีการเลือกเฟ้นกันอีก? พวกเขาหารู้ไม่ว่า เราควรเคารพความจัดเจนจากสงครามของสหภาพโซเวียตเป็นพิเศษเพราะเป็นความจัดเจนจากสงครามปฏิวัติในยุคใกล้ที่สุดและได้มาภายใต้การชี้นำของเลนินและสตาลินก็จริงอยู่; แต่เรายังควรเคารพความจัดเจนจากสงครามปฏิวัติของจีน เพราะว่าการปฏิวัติของจีนและกองทัพแดงของจีนยังมีสภาพที่เป็นเฉพาะอยู่อีกมากมาย.

          ยังมีความเห็นของบุคคลอีกจำพวกหนึ่งก็เป็นความเห็นที่ไม่ถูก และเราก็ได้โต้ความเห็นชนิดนี้ตกไปนานแล้วเช่นเดียวกัน; พวกเขากล่าวว่า ความจัดเจนจากสงครามปราบขุนศึกภาคเหนือระหว่างปี ๑๙๒๖ ถึงปี ๑๙๒๗ นั้นดีที่สุด เราควรศึกษาความจัดเจนเหล่านี้ กล่าวอย่างเป็นรูปธรรมก็คือ, ให้ศึกษาการรุดตรงเข้าไปและยึดเอาเมืองใหญ่ ๆ ในสงครามปราบขุนศึกภาคเหนือ.  พวกเขาหารู้ไม่ว่า ความจัดเจนจากสงครามปราบขุนศึกภาคเหนือนั้นควรศึกษา แต่ไม่ควรลอกแบบเอามาใช้อย่างตายตัว เพราะว่าสภาพสงครามของเราในเวลานี้ได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว.  เราควรจะนำแต่สิ่งที่ยังใช้ได้เหมาะสมกับสภาพเวลานี้จากสงครามปราบขุนศึกภาคเหนือมาใช้เท่านั้น และกำหนดสิ่งที่เป็นของเราเองขึ้นตามสภาพเวลานี้.

          จากนี้จะเห็นได้ว่า สภาพสงครามที่ต่างกันย่อมกำหนดกฎการชี้นำสงครามที่ต่างกัน คือแตกต่างกันทั้งในด้านเวลา, สถานที่และลักษณะ.  กล่าวจากเงื่อนไขด้านเวลา สงครามและกฎการชี้นำสงครามล้วนแต่พัฒนาทั้งนั้น และขั้นประวัติศาสตร์แต่ละขั้นต่างก็มีลักษณะพิเศษของมัน ด้วยเหตุนี้ กฎแห่งสงครามจึงต่างก็มีลักษณะพิเศษของมัน จะนำไปใช้กับขั้นที่ต่างกันอย่างตายตัวไม่ได้.  มองจากลักษณะของสงคราม, สงครามปฏิวัติและสงครามปฏิปักษ์ปฏิวัติ  ต่างก็มีลักษณะพิเศษที่ต่างกันของมัน ด้วยเหตุนี้  กฎแห่งสงครามจึงต่างก็มีลักษณะพิเศษของมัน จะนำเอาไปใช้แทนซึ่งกันและกันอย่างตายตัวไม่ได้.  มองจากเงื่อนไขด้านสถานที่ แต่ละประเทศ, แต่ละประชาชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศใหญ่ ประชาชาติใหญ่ ต่างก็มีลักษณะพิเศษของมันเองทั้งนั้น ด้วยเหตุนี้ กฎแห่งสงครามจึงต่างก็มีลักษณะพิเศษของมัน จะนำเอาไปใช้แทนกันอย่างตายตัวไม่ได้เช่นกัน.  ในการค้นคว้ากฎการชี้นำสงครามในขั้นประวัติศาสตร์ที่ต่างกันแต่ละขั้น ในลักษณะที่ต่างกัน ในสถานที่และประชาชาติที่ต่างกันนั้น, ควรจะเพ่งหนักไปในทางลักษณะพิเศษของมัน และเพ่งหนักไปในด้านการพัฒนาของมัน คัดค้านลัทธิกลไกในปัญหาสงคราม.

          ยังไม่เพียงแต่เท่านี้.  กล่าวสำหรับผู้บังคับบัญชาคนหนึ่ง, เมื่อเริ่มแรก เขาสามารถบังคับบัญชากระบวนกองกำลังขนาดเล็กได้ ต่อมาก็สามารถบังคับบัญชากระบวนกองกำลังขนาดใหญ่ได้  เช่นนี้ กล่าวสำหรับเขาก็เป็นการก้าวหน้าไปแล้ว, พัฒนาไปแล้ว.  ท้องที่แห่งหนึ่งกับท้องที่อีกหลาย ๆ แห่งก็ต่างกัน. เมื่อเริ่มแรก ปฏิบัติการรบได้ในท้องที่แห่งใดแห่งหนึ่งที่ตนคุ้น ต่อมาก็ปฏิบัติการรบได้ในท้องที่หลาย ๆ แห่ง เช่นนี้, กล่าวสำหรับผู้บังคับบัญชาคนหนึ่ง ก็เป็นการก้าวหน้าไปอีกแล้ว พัฒนาไปอีกแล้วเช่นกัน.  เนื่องจากการพัฒนาทางเทคนิค, ยุทธวิธีและยุทธศาสตร์ทั้งของฝ่ายข้าศึกและฝ่ายเรา  ฉะนั้น, สภาพในแต่ละขั้นของสงครามจึงแตกต่างกันด้วย.  ในขั้นต่ำบัญชาการได้ ครั้นถึงขั้นสูงก็บัญชาการได้ เช่นนี้ กล่าวสำหรับผู้บังคับบัญชาคนหนึ่งแล้ว ก็ยิ่งเป็นการก้าวหน้าและพัฒนาไปอีก.  ถ้าสามารถบังคับบัญชาได้เฉพาะแต่กระบวนกองกำลังที่แน่นอน ท้องที่ที่แน่นอนและขั้นที่แน่นอนของการพัฒนาของสงครามแล้ว ก็เรียกว่ามิได้ก้าวหน้า และมิได้พัฒนา.  มีคนชนิดหนึ่ง เกาะแน่นอยู่แต่ในความสามารถเฉพาะอย่างและทรรศนะในกะลาครอบของตน มิได้ก้าวหน้าไปอีก เช่นนี้ แม้ว่าจะมีบทบาทต่อการปฏิวัติอยู่บ้างในที่แห่งหนึ่งและในช่วงระยะเวลาหนึ่งก็ตาม แต่ก็มิได้มีบทบาทใหญ่โตอะไร.  เราต้องการผู้ชี้นำสงครามที่มีบทบาทอันใหญ่โต.  กฎการชี้นำสงครามทั้งปวงพัฒนาไปตามการพัฒนาของประวัติศาสตร์ พัฒนาไปตามการพัฒนาของสงคราม;  สิ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลงเลยนั้นไม่มี. 


*  นิพนธ์ของสหายเหมาเจ๋อตุงเรื่องนี้ เขียนขึ้นเพื่อสรุปความจัดเจนจากสงครามปฏิวัติภายในประเทศครั้งที่ ๒ เวลานั้นเคยแสดงเป็นปาฐกถาที่มหาวิทยาลัยกองทัพแดงซึ่งตั้งอยู่ที่ภาคเหนือส่านซี.  ผู้นิพนธ์กล่าวว่า หนังสือเล่มนี้เขียนเสร็จเพียง ๕ บท ยังมีปัญหาการรุกทางยุทธศาสตร์ งานการเมือง และปัญหาอื่น ๆ เนื่องจากเกิดกรณีซีอานไม่มีเวลาเขียนต่อ จึงได้ชะงักไป.  เรื่องนี้เป็นผลจากการโต้แย้งครั้งใหญ่ภายในพรรคในปัญหาการทหารเมื่อสมัยสงครามปฏิวัติภายในประเทศครั้งที่ ๒ และแสดงถึงความเห็นที่แนวทางหนึ่งคัดค้านอีกแนวทางหนึ่ง.  เกี่ยวกับการโต้แย้งในทางแนวทางนี้ ที่ประชุมจุนยี่ของศูนย์กลางพรรคเมื่อเดือนมกราคม ปี ๑๙๓๕ แล้ว, สหายเหมาเจ๋อตุงก็ได้แสดงปาฐกถาเรื่อง “ว่าด้วยยุทธวิธีคัดค้านจักรพรรดินิยมญี่ปุ่น” ในเดือนธันวาคมทันที เป็นการแก้ปัญหาทางแนวทางการเมืองของพรรคในสมัยสงครามปฏิวัติภายในประเทศครั้งที่ ๒ อย่างเป็นระบบ.  ในปีต่อมา คือปี ๑๙๓๖ สหายเหมาเจ๋อตุงได้นิพนธ์เรื่องนี้ขึ้นอีก โดยได้อธิบายปัญหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับด้านยุทธศาสตร์ในสงครามปฏิวัติของจีนอย่างเป็นระบบ.