ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและเสรีภาพ
(๗) จักรพรรดินิยมญี่ปุ่นกำลังเร่งเตรียมจะรุกรานภาคใต้กำแพงยักษ์ของจีน. เพื่อที่จะประสานกับสงครามกลุ่มโจรซึ่งฮิตเล่อร์และมุสโสลินีกำลังเร่งตระเตรียมอยู่ในตะวันตก ในตะวันออก ญี่ปุ่นก็กำลังใช้ความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเตรียมเงื่อนไขที่จะล้มล้างประเทศจีนลงในรวดเดียวตามจังหวะก้าวที่ได้กำหนดไว้—อันได้แก่เงื่อนไขทางการทหาร ทางการเมือง, ทางเศรษฐกิจและทางความคิดภายในประเทศ เงื่อนไขทางการทูตระหว่างประเทศ และการอุ้มชูอิทธิพลที่นิยมญี่ปุ่นในประเทศจีน. การโฆษณาชวนเชื่อที่เรียกว่า “การร่วมมือกันระหว่างจีนกับญี่ปุ่น” และการผ่อนคลายในจังหวะก้าวทางการทูตบางประการนั้น เป็นสิ่งสืบเนื่องมาจากความจำเป็นในทางยุทธวิธีแห่งนโยบายรุกรานของญี่ปุ่นในคืนก่อนจะเกิดสงครามนั่นเอง.ประเทศจีนกำลังใกล้เข้าสู่จุดสำคัญที่จะตัดสินความเป็นความตายของตน สงครามต่อต้านและกู้ชาติของจีนนั้นจะต้องเตรียมการด้วยอัตราความเร็วเสมือนวิ่งกันทีเดียว. เราไม่คัดค้านการตระเตรียม แต่คัดค้านทฤษฎีการเตรียมเป็นระยะยาวนาน คัดค้านปรากฏการณ์ที่ข้าราชการพลเรือนและข้าราชการทหารไม่เอาการเอางาน หมกมุ่นอยู่แต่การแสวงหาความผาสุกสนุกสนานอันเป็นปรากฏการณ์ที่แสดงว่าชาติใกล้จะล่มจม สิ่งเหล่านี้แท้ที่จริงแล้วเป็นการช่วยศัตรูทั้งนั้น ซึ่งจะต้องกวาดล้างให้หมดสิ้นไปโดยเร็ว.
(๘) การเตรียมป้องกันประเทศในทางการเมือง การทหาร, เศรษฐกิจและการศึกษา ล้วนเป็นเงื่อนไขอันจำเป็นสำหรับสงครามต่อต้านและกู้ชาติ ล้วนเป็นสิ่งที่จะรอช้าไม่ได้แม้แต่ขณะเดียว. และการช่วงชิงให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตยและเสรีภาพทางการเมืองนั้น เป็นห่วงโซ่ใจกลางในการประกันให้สงครามต่อต้านได้รับชัยชนะ. การทำสงครามต่อต้านนั้นจำเป็นต้องมีสันติภาพและความสามัคคีกันทั่วทั้งประเทศ ถ้าไม่มีประชาธิปไตยและเสรีภาพแล้ว ก็ไม่อาจจะทำให้สันติภาพที่ได้มาแล้วมั่นคงได้ และไม่อาจจะกระชับความสามัคคีภายในประเทศให้แน่นแฟ้นได้. การทำสงครามต่อต้านนั้นจำเป็นต้องมีการปลุกระดมประชาชน ถ้าไม่มีประชาธิปไตยหและเสรีภาพแล้ว ก็ไม่มีทางที่จะทำการปลุกระดมได้. ถ้าไม่มีสันติภาพและความสามัคคีที่มั่นคงถาวร และไม่มีการปลุกระดมประชาชนแล้ว อนาคตของสงครามต่อต้านก็จะซ้ำรอยอบิสซีเนีย. การที่อบิสซีเนียพ่ายแพ้ไปนั้น ที่สำคัญก็เพราะการปกครองของระบอบศักดินาไม่อาจจะทำให้ความสามัคคีภายในมั่นคงได้และไม่อาจจะปลุกเร้าความกระตือรือร้นของประชาชนได้. ในประเทศจีน การที่จะสร้างแนวร่วมประชาชาติต่อต้านญี่ปุ่นที่แท้จริงและแข็งแกร่งและการทำให้ภาระหน้าที่ของแนวร่วมนี้บรรลุผลสำเร็จนั้น ถ้าไม่มีประชาธิปไตยแล้ว ก็ไม่มีทางที่จะเป็นไปได้.
(๙) ประเทศจีนจะต้องเริ่มดำเนินการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงทางประชาธิปไตยในสองด้านดังต่อไปนี้ทันที. ด้านที่ ๑, ทางระบอบการเมืองจะต้องเปลี่ยนจากระบอบการปกครองเผด็จการที่ปฏิกิริยาโดยพรรคเดียวและชนชั้นเดียวของก๊กมินตั๋งมาเป็นระบอบการปกครองประชาธิปไตยที่ร่วมมือกันจากทุกพรรคและทุกชนชั้น. ในด้านนี้ จะต้องเริ่มต้นจากการเปลี่ยนวิธีที่ละเมิดหลักประชาธิปไตยในการเลือกตั้งและการเรียกประชุมสมัชชาประชาราษฎร์ ดำเนินการเลือกตั้งแบบประชาธิปไตยและให้หลักประกันแก่สมัชชาในการประชุมกันโดยเสรี, ตลอดเรื่อยไปจนถึงการร่างรัฐธรรมนูญประชาธิปไตยที่แท้จริง, เรียกประชุมรัฐสภาประชาธิปไตยที่แท้จริง เลือกตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยที่แท้จริง และดำเนินนโยบายประชาธิปไตยที่แท้จริง. ด้วยการกระทำเช่นนี้เท่านั้น จึงจะสามารถสร้างความมั่นคงให้แก่สันติภาพภายในประเทศ ยุติการเป็นอริต่อกันด้วย การใช้กำลังอาวุธภายในประเทศ และกระชับความสามัคคีภายในประเทศให้แน่นแฟ้นอย่างแท้จริงได้ เพื่อทั้งชาติจะได้ร่วมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวต่อต้านศัตรูภายนอก. อาจจะมีสภาพการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น คือยังไม่ทันที่การปฏิวัติเปลี่ยนแปลงของเราจะเสร็จสิ้น จักรพรรดินิยมญี่ปุ่นก็เริ่มเข้าตี. ดังนั้น, เพื่อที่จะต่อต้านการเข้าตีของญี่ปุ่นได้ทุกเมื่อและรบชนะมันอย่างถึงที่สุด เราจึงต้องดำเนินการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และต้องเตรียมพร้อมที่จะให้การปฏิวัติเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ขั้นถึงที่สุดในระหว่างดำเนินสงครามต่อต้าน. ประชาชนทั่วประเทศและผู้รักชาติของพรรคและกลุ่มการเมืองต่างๆ จะต้องละทิ้งความเฉยเมยเช่นที่แล้วมาในปัญหาสมัชชาประชาราษฎร์และการร่างรัฐธรรมนูญเสีย และรวมศูนย์กำลังไว้ที่การเคลื่อนไหวเพื่อสมัชชาประชาราษฎร์และการเคลื่อนไหวเพื่อรัฐธรรมนูญที่เป็นรูปธรรมและมีความหมายในการป้องกันประเทศนี้ จะต้องวิพากษ์ก๊กมินตั๋งซึ่งเป็นพรรคกุมอำนาจอย่างหนัก ผลักดันและกระตุ้นให้ก๊กมินตั๋งละทิ้งการเผด็จการโดยพรรคเดียวและชนชั้นเดียวเสีย และปฏิบัติตามความเห็นของประชาชน. ภายในไม่กี่เดือนข้างหน้าของปีนี้, จะต้องจัดให้มีการเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยอย่างกว้างขวางทั่วประเทศ เป้าหมายเฉพาะหน้าของการเคลื่อนไหวนี้จะต้องอยู่ที่การทำให้การแปรสมัชชาประชาราษฎร์และรัฐธรรมนูญให้เป็นแบบประชาธิปไตยบรรลุผลสำเร็จ. ด้านที่ ๒ คือเสรีภาพในการพูดการเขียน การชุมนุมและการจัดตั้งสมาคมของประชาชน. ถ้าไม่มีเสรีภาพเหล่านี้ ก็ไม่อาจจะทำให้การปฏิวัติเปลี่ยนแปลงทางประชาธิปไตยในระบอบการเมืองปรากฏเป็นจริงขึ้นได้ ก็ไม่อาจจะปลุกระดมประชาชนให้เข้าร่วมในสงครามต่อต้านและได้รับชัยชนะในการพิทักษ์ปิตุภูมิและกู้ดินแดนที่เสียไปกลับคืนมาได้. ภายในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ การเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยของประชาชนทั่วประเทศจะต้องช่วงชิงให้ภาระหน้าที่นี้สำเร็จลุล่วงในขั้นต่ำที่สุด ซึ่งรวมทั้งการปล่อยนักโทษการเมืองและเลิกห้ามพรรคการเมือง ฯลฯ ด้วย.การปฏิวัติเปลี่ยนแปลงทางประชาธิปไตยในระบอบการเมืองและสิทธิเสรีภาพของประชาชนเป็นส่วนสำคัญในหลักนโยบายของแนวร่วมประชาชาติต่อต้านญี่ปุ่น ขณะเดียวกันก็เป็นเงื่อนไขที่จำเป็นในการสร้างแนวร่วมประชาชาติต่อต้านญี่ปุ่นที่แท้จริงและแข็งแกร่งด้วย.
(๑๐) ศัตรูของเรา—จักรพรรดินิยมญี่ปุ่น พวกทรยศชาติ, พวกนิยมญี่ปุ่นและพวกทรอตสกี้ ได้ใช้ความพยายามอย่างสุดกำลังในการทำลายจังหวะก้าวทุกก้าวของประเทศจีนที่ทำไปเพื่อสันติภาพและเอกภาพ เพื่อประชาธิปไตยและเสรีภาพ, และเพื่อสงครามต่อต้านญี่ปุ่น. ในอดีต ระหว่างที่เราพยายามช่วงชิงให้ได้มาซึ่งสันติภาพและเอกภาพนั้น พวกมันได้ใช้ความพยายามอย่างสุดกำลังในการยุแหย่ให้เกิดสงครามกลางเมืองและให้เกิดการแตกแยก. ในปัจจุบันและในอนาคตอันใกล้ เมื่อเราพยายามช่วงชิงให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตยและเสรีภาพ พวกมันก็จะมาทำลายอีกอย่างไม่ต้องสงสัย. เป้าหมายใหญ่ของพวกมันก็คือ ทำให้เราไม่สามารถได้รับผลสำเร็จในการปฏิบัติภาระหน้าที่ทำสงครามต่อต้านญี่ปุ่นเพื่อพิทักษ์ปิตุภูมิ และทำให้พวกมันบรรลุจุดมุ่งหมายในแผนการรุกรานเพื่อล้มล้างประเทศจีน. ต่อแต่นี้ไป ในการต่อสู้เพื่อช่วงชิงประชาธิปไตยและเสรีภาพ เราไม่เพียงแต่จะต้องพยายามทำงานโฆษณาปลุกเร้าใจและวิจารณ์ในหมู่พวกหัวรั้นก๊กมินตั๋งและพวกที่ล้าหลังในหมู่ประชาชน หากยังจะต้องทำการเปิดโปงอย่างเต็มที่และต่อสู้อย่างเด็ดเดี่ยวกับแผนกโลบายของจักรพรรดินิยมญี่ปุ่น พวกนิยมญี่ปุ่นและพวกทรอตสกี้ซึ่งทำตัวเป็นสุนัขรับใช้ของมันในการรุกรานประเทศจีนด้วย.
(๑๑) เพื่อสันติภาพ ประชาธิปไตยและสงครามต่อต้าน, และเพื่อสร้างแนวร่วมประชาชาติต่อต้านญี่ปุ่น พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ให้หลักประกัน ๔ ข้อแก่ก๊กมินตั๋งในโทรเลขถึงที่ประชุมเต็มคณะสมัยที่ ๓ ของคณะกรรมการกลางพรรคก๊กมินตั๋งดังต่อไปนี้: (๑) รัฐบาลในฐานที่มั่นปฏิวัติส่านซี-กานซู่-หนิงเซี่ย ซึ่งนำโดยพรรคคอมมิวนิสต์จะเปลี่ยนชื่อเป็นรัฐบาลเขตพิเศษแห่งสาธารณรัฐจีน กองทัพแดงจะเปลี่ยนชื่อเป็นกองทัพปฏิวัติประชาราษฎร์ และจะรับการชี้นำของรัฐบาลกลางแห่งนานกิงกับคณะกรรมการการทหารของรัฐบาลนี้; (๒) ในเขตของรัฐบาลเขตพิเศษจะดำเนินระบอบประชาธิปไตยที่ถึงที่สุด; (๓) จะยุติเข็มมุ่งที่โค่นก๊กมินตั๋งด้วยกำลังอาวุธ; (๔) จะยุติการริบที่ดินของเจ้าของที่ดิน. หลักประกันเหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็นและยอมให้ได้. เพราะว่ามีแต่กระทำเช่นนี้เท่านั้นจึงจะสามารถเปลี่ยนภาวะความเป็นอริต่อกันระหว่างอำนาจรัฐทั้งสองภายในประเทศได้ และสามัคคีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ร่วมกันต่อสู้กับศัตรู โดยอาศัยความเปลี่ยนแปลงในส่วนเปรียบเทียบความสำคัญทางการเมืองของความขัดแย้งทางประชาชาติกับความขัดแย้งภายในประเทศ. นี่เป็นการอ่อนข้อที่มีหลักการและมีเงื่อนไข การอ่อนข้อชนิดนี้ก็เพื่อให้ได้มาซึ่งสันติภาพ, ประชาธิปไตยและสงครามต่อต้านซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องการของทั่วทั้งประชาชาติ. แต่การอ่อนข้อนั้นมีขอบเขต. การรักษาการนำของพรรคคอมมิวนิสต์ไว้ในเขตพิเศษและในกองทัพแดง, และการรักษาความเป็นอิสระและเสรีภาพในการวิจารณ์ของพรรคคอมมิวนิสต์ไว้ในความสัมพันธ์ระหว่างพรรคคอมมิวนิสต์กับก๊กมินตั๋ง เหล่านี้คือขอบเขตของการอ่อนข้อ ถ้าเลยจากขอบเขตนี้แล้ว ก็ยอมให้ไม่ได้ การอ่อนข้อนั้นเป็นการอ่อนข้อของทั้งสองพรรค คือก๊กมินตั๋งละทิ้งนโยบายสงครามกลางเมือง เผด็จการและไม่ต่อต้านศัตรูภายนอก พรรคคอมมิวนิสต์ละทิ้งนโยบายที่เป็นอริต่อกันระหว่างอำนาจรัฐทั้งสอง. เราเอาสิ่งหลังไปแลกกับสิ่งแรก ร่วมมือกับก๊กมินตั๋งอีกครั้ง, ต่อสู้เพื่อกอบกู้ประเทศชาติ. ถ้าว่านี่เป็นการยอมจำนนของพรรคคอมมิวนิสต์แล้ว นั่นก็เป็นลัทธิอา Q๑๔ และเป็นการใส่ร้ายป้ายสีโดยเจตนาร้ายเท่านั้นเอง.
(๑๒) พรรคคอมมิวนิสต์เห็นด้วยกับลัทธิไตรราษฎร์หรือไม่? คำตอบของเราคือ เห็นด้วย.๑๕ ลัทธิไตรราษฎร์มีการเปลี่ยนแปลงทางประวัติศาสตร์ของมัน. ลัทธิไตรราษฎร์ที่ปฏิวัติของท่านซุนยัตเซ็นนั้น เนื่องจากท่านซุนได้ปฏิบัติอย่างเด็ดเดี่ยวโดยร่วมมือกับพรรคคอมมิวนิสต์ จึงเป็นที่เลื่อมใสของประชาชนและกลายเป็นธงแห่งการปฏิวัติที่มีชัยในปี ๑๙๒๔ ถึงปี ๑๙๒๗. แต่แล้วในปี ๑๙๒๗ ก๊กมินตั๋งก็ผลักไสพรรคคอมมิวนิสต์ออกมา (การเคลื่อนไหวสะสางพรรค๑๖ และสงครามแอนตี้คอมมิวนิสต์) ดำเนินนโยบายที่ตรงกันข้าม ยังผลให้การปฏิวัติประสบความล้มเหลวและทำให้ชาติตกอยู่ฐานะอันตราย ดังนั้น ลัทธิไตรราษฎร์จึงหมดความเลื่อมใสจากประชาชนไป. บัดนี้ ชาติกำลังอยู่ในวิกฤตกาลที่ร้ายแรงยิ่งนัก ก๊กมินตั๋งไม่อาจจะดำเนินการปกครองอย่างเก่าต่อไปอีกโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงแล้ว ด้วยเหตุนี้ ประชาชนทั่วประเทศและบุคคลผู้รักชาติในพรรคก๊กมินตั๋งจึงมีความเรียกร้องต้องการอย่างเร่งด่วนในการให้พรรคทั้งสองร่วมมือกันอีก. ฉะนั้นการปรับปรุงเจตนารมณ์ของลัทธิไตรราษฎร์ครั้งใหม่ ให้พรรคทั้งสองร่วมมือกันใหม่ภายใต้ลัทธิประชาชาติที่ช่วงชิงให้ได้มาซึ่งเอกราชและการปลดแอกซึ่งเป็นกรณียกิจต่อภายนอก ภายใต้ลัทธิประชาสิทธิ์ที่ให้ประชาธิปไตยและเสรีภาพปรากฏเป็นจริงขึ้นและภายใต้ลัทธิประชาชีพที่เพิ่มพูนความผาสุกแก่ประชาชนซึ่งเป็นกรณียกิจต่อภายใน โดยนำประชาชนปฏิบัติตามอย่างเด็ดเดี่ยวนั้น จึงเป็นการสอดคล้องอย่างเต็มที่กับความต้องการทางประวัติศาสตร์ของการปฏิวัติของจีน และควรที่สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ทุกคนจะเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง. ชาวพรรคคอมมิวนิสต์จะไม่ละทิ้งอุดมคติแห่งสังคมนิยมและลัทธิคอมมิวนิสต์ของตนอย่างเด็ดขาด พวกเขาจะบรรลุสู่ขั้นสังคมนิยมและลัทธิคอมมิวนิสต์โดยผ่านขั้นปฏิวัติประชาธิปไตยชนชั้นนายทุน. พรรคคอมมิวนิสต์จีนมีหลักนโยบายการเมืองและเศรษฐกิจของตนเอง. หลักนโยบายขั้นสูงสุดของพรรคคอมมิวนิสต์จีนนั้นคือสังคมนิยมและลัทธิคอมมิวนิสต์ ซึ่งแตกต่างกับลัทธิไตรราษฎร์. ทั้งหลักนโยบายของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในระยะการปฏิวัติประชาธิปไตยก็ถึงที่สุดกว่าหลักนโยบายของพรรคหรือกลุ่มการเมืองใด ๆ ในประเทศ. แต่อย่างไรก็ดี หลักนโยบายการปฏิวัติประชาธิปไตยของพรรคคอมมิวนิสต์กับหลักนโยบายลัทธิไตรราษฎร์ซึ่งประกาศในที่ประชุมสมัชชาผู้แทนทั่วประเทศของพรรคก๊กมินตั๋งครั้งที่ ๑ นั้น โดยพื้นฐานแล้วก็ไม่ขัดกัน. ด้วยเหตุนี้ เราจึงไม่เพียงแต่ไม่ปฏิเสธลัทธิไตรราษฎร์ หากยังยินดีที่จะปฏิบัติตามลัทธิไตรราษฎร์อย่างเด็ดเดี่ยว ทั้งยังขอร้องให้ก๊กมินตั๋งปฏิบัติตามร่วมกันกับเรา, และเรียกร้องให้ประชาชนทั่วประเทศปฏิบัติตามด้วย. เราเห็นว่า พรรคคอมมิวนิสต์ ก๊กมินตั๋งและประชาชนทั่วประเทศควรต้องร่วมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันต่อสู้เพื่อเป้าหมายใหญ่ ๓ ประการ คือเอกราชของชาติ ประชาธิปไตยและเสรีภาพ, และความผาสุกของประชาราษฎร์.
(๑๓) คำขวัญสาธารณรัฐประชาธิปไตยกรรมกรชาวนาที่แล้วมาของเราผิดหรือ? ไม่ผิด. ในเมื่อชนชั้นนายทุนโดยเฉพาะอย่างยิ่งชนชั้นนายทุนใหญ่ได้ถอนตัวออกจากการปฏิวัติ, ทั้งยังไปพึ่งจักรพรรดินิยมและอิทธิพลศักดินา กลายเป็นศัตรูของประชาชนแล้ว พลังดันของการปฏิวัติก็เหลือแต่ชนชั้นกรรมาชีพ ชาวนาและชนชั้นนายทุนน้อยในเมือง; พรรคการเมืองที่ปฏิวัติก็เหลือแต่พรรคคอมมิวนิสต์; และความรับผิดชอบในการจัดตั้งการปฏิวัติก็จำต้องตกเป็นภาระของพรรคคอมมิวนิสต์ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่ปฏิวัติแต่พรรคเดียว. มีแต่พรรคคอมมิวนิสต์เท่านั้นที่ได้ชูธงปฏิวัติสูงเด่นต่อไป รักษาประเพณีสืบเนื่องแห่งการปฏิวัติไว้ เสนอคำขวัญสาธารณรัฐประชาธิปไตยกรรมกรชาวนาขึ้น และทำการต่อสู้ด้วยความลำบากยากเข็ญเพื่อคำขวัญนี้มาเป็นเวลาหลายปี. คำขวัญสาธารณรัฐประชาธิปไตยกรรมกรชาวนานี้ ไม่ขัดกับภาระหน้าที่ในการปฏิวัติประชาธิปไตยชนชั้นนายทุน หากเป็นการปฏิบัติภาระหน้าที่ในการปฏิบัติประชาธิปไตยชนชั้นนายทุนอย่างเด็ดเดี่ยว. ในการต่อสู้ที่เป็นจริงของเรา ไม่มีนโยบายข้อใดที่ไม่สอดคล้องกับภาระหน้าที่นี้. นโยบายของเรารวมทั้งริบที่ดินของเจ้าที่ดินและดำเนินระบอบทำงานวันละ ๘ ชั่วโมง ก็มิได้เลยจากขอบเขตระบอบทรัพย์สินส่วนบุคคลซึ่งอยู่ในปริมณฑลของทุนนิยม และมิได้ดำเนินสังคมนิยม. ส่วนประกอบที่รวมอยู่ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยใหม่นั้นมีอะไรบ้าง? ตอบว่าประกอบด้วยชนชั้นกรรมาชีพ ชาวนา ชนชั้นนายทุนน้อยในเมือง ชนชั้นนายทุนและบุคคลทั้งปวงภายในประเทศที่เห็นด้วยกับการปฏิวัติประชาชาติและประชาธิปไตย สาธารณรัฐประชาธิปไตยใหม่เป็นพันธมิตรระหว่างชนชั้นเหล่านี้ในการปฏิวัติประชาชาติและประชาธิปไตย. ลักษณะพิเศษในที่นี้ก็คือ รวมเอาชนชั้นนายทุนไว้ด้วย ทั้งนี้เพราะว่า ในสภาพแวดล้อมปัจจุบันนี้ มีความเป็นไปได้ที่ชนชั้นนายทุนจะเข้าร่วมต่อต้านญี่ปุ่นอีก ฉะนั้น พรรคการเมืองชนชั้นกรรมาชีพจึงไม่ควรปฏิเสธพวกเขา หากควรรับเอาพวกเขา ฟื้นฟูความเป็นพันธมิตรในการต่อสู้ร่วมกันกับพวกเขา เพื่อเป็นประโยชน์แก่การรุดหน้าของการปฏิวัติของจีน. เพื่อที่จะยุติการปะทะกันด้วยกำลังอาวุธภายในประเทศ พรรคคอมมิวนิสต์ยินดีจะยุตินโยบายริบที่ดินของเจ้าที่ดินด้วยการใช้ความรุนแรง และเตรียมที่จะแก้ปัญหาที่ดินโดยวิถีนิติบัญญัติหรือวิธีการอย่างอื่นที่เหมาะสมในกระบวนการของการสร้างสาธารณรัฐประชาธิปไตยใหม่. ดินแดนของจีนจะเป็นของคนญี่ปุ่นหรือเป็นของคนจีน—นี่เป็นปัญหาอันดับแรกที่รอให้เราไปแก้. ในเมื่อการแก้ปัญหาที่ดินของชาวนาจะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขเบื้องแรกเพื่อพิทักษ์ประเทศจีนแล้ว ก็เป็นการจำเป็นทีเดียวที่จะต้องเปลี่ยนวิธีการริบที่ดินด้วยการใช้ความรุนแรงมาเป็นวิธีการใหม่ที่เหมาะสม.
การเสนอคำขวัญสาธารณรัฐประชาธิปไตยกรรมกรชาวนาในอดีตกับการละทิ้งคำขวัญนี้ในปัจจุบัน ล้วนแต่ถูกต้องทั้งสิ้น.
(๑๔) เพื่อที่จะสร้างแนวร่วมประชาชาติทำการต่อสู้กับศัตรูร่วมกัน จะต้องแก้ความขัดแย้งบางประการภายในประเทศอย่างเหมาะสม หลักการก็คือ จะต้องเป็นประโยชน์ต่อการเสริมความเข้มแข็งและขยายแนวร่วมประชาชาติต่อต้านญี่ปุ่นให้กว้างออกไป มิใช่ทำให้อ่อนกำลังและหดเล็กลง. ในขั้นการปฏิวัติประชาธิปไตย ความขัดแย้งและการต่อสู้ระหว่างชนชั้น ระหว่างพรรค และระหว่างกลุ่มการเมืองภายในประเทศนั้น เป็นสิ่งที่ไม่มีทางจะหลีกเลี่ยงได้ แต่ก็สามารถและควรยุติการต่อสู้ที่ไม่เป็นประโยชน์แก่การสามัคคีเพื่อต่อต้านญี่ปุ่น (สงครามกลางเมือง การเป็นอริกันระหว่างพรรคการเมือง การแข็งอำนาจในท้องที่ การที่ฝ่ายหนึ่งใช้การกดขี่ทางการเมืองและการกดขี่ทางเศรษฐกิจแบบศักดินา อีกฝ่ายหนึ่งใช้นโยบายลุกฮือขึ้นสู้และเสนอข้อเรียกร้องทางเศรษฐกิจที่สูงเกินไปซึ่งไม่เป็นประโยชน์แก่การต่อต้านญี่ปุ่น ฯลฯ) และสงวนการต่อสู้ที่เป็นประโยชน์แก่การสามัคคีเพื่อต่อต้านญี่ปุ่นไว้ (เสรีภาพในการวิจารณ์ ความเป็นอิสระของพรรคการเมือง, การปรับปรุงเงื่อนไขทางการเมืองและเงื่อนไขทางเศรษฐกิจของประชาชนให้ดีขึ้น ฯลฯ).
(๑๕) ภายใต้ภาระหน้าที่ใหญ่ในการต่อสู้เพื่อแนวร่วมประชาชาติต่อต้านญี่ปุ่นและสาธารณรัฐประชาธิปไตยที่เป็นเอกภาพ ภาระหน้าที่ของกองทัพแดงและฐานที่มั่นต่อต้านญี่ปุ่นคือ (1) เพื่อให้เข้ากับสภาพสงครามต่อต้านญี่ปุ่น กองทัพแดงควรจะปรับปรุงจัดตั้งเป็นกองทัพปฏิวัติประชาราษฎร์โดยทันที และยกระดับการศึกษาทางการทหาร การเมืองและวัฒนธรรมให้สูงขึ้นอีกขั้นหนึ่ง ทำให้เป็นกระบวนกองกำลังตัวอย่างในสงครามต่อต้านญี่ปุ่น. (2) ฐานที่มั่นควรจะจัดให้เป็นองค์ประกอบส่วนหนึ่งของทั่วประเทศ ดำเนินระบอบประชาธิปไตยในเงื่อนไขใหม่ จัดกองรักษาความสงบขึ้นใหม่, กวาดล้างพวกขายชาติและพวกก่อกวน ทำให้เป็นเขตตัวอย่างในการต่อต้านญี่ปุ่นและในความมีประชาธิปไตย. (3) ดำเนินการสร้างสรรค์ทางเศรษฐกิจที่จำเป็นในเขตฐานที่มั่น และปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น. (4) ดำเนินการสร้างสรรค์ทางวัฒนธรรมที่จำเป็น.