การเดินทางของจีน สู่ยุคใหม่” ภายใต้การนำของผู้นำสูงสุด สี จิ้นผิง และได้รับสมญาว่า “คนถือหางเสือเรือ” (掌舵者 จ่าง ตั้ว เจ่อ) ที่จะนำประเทศจีนสู่การฟื้นฟูใหม่ที่ยิ่งใหญ่ (Great Rejuvenation) และความฝันจีนอันยิ่งใหญ่ ที่จะสร้างคุณูปการแก่ทั้งจีนเองและโลก ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
๑. เป้าหมายทางยุทธศาสตร์อันเป็นผลมาจากการประชุมสองสภา ได้แก่ สภาที่ปรึกษาการเมืองแห่งประชาชนจีน (Chinese People's Political Consultative Conference / CPPCC) ระหว่างวันที่ ๓ - ๑๕ มี.ค.๖๑ และการประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติ (National People’s Congress /NPC) ระหว่างวันที่ ๕ - ๒๐ มี.ค.๖๑ ที่มีภารกิจครั้งประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะจากการที่สภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติ ให้การรับรองการปรับแก้รัฐธรรมนูญ โดย “ยกเลิกมาตราจำกัดวาระดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีไม่เกินสองสมัย” ซึ่งปัจจุบันนายสี จิ้นผิง ครองอำนาจใน ๓ ตำแหน่ง คือ เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน (ควบคุมพรรคฯ), ประธานาธิบดี (ควบคุมการบริหารประเทศ) และประธานคณะกรรมาธิการทหารส่วนกลาง (ควบคุมกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน หรือ PLA) ซึ่งนำไปสู่การกำหนดแนวทางหรือวิธีการปฎิบัติ
๒. กำหนดแนวทางหรือวิธีการปฎิบัติ โดย
๒.๑ ดึงสหายสนิทมาเป็นรองประธานาธิบดี นั่นคือ นายหวัง ฉีซาน ซึ่งเป็นมือปราบคอรัปชั่น และมีขีดความสามารถในการเป็นผู้สกัดศึกการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ
๒.๒ มีการปรับโครงสร้างหน่วยงานองค์กรในคณะรัฐบาล เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในงานบริหาร พร้อมกับจัดตั้งเครือข่ายคณะกรรมาธิการทั่วประเทศเพื่อเสริมเขี้ยวเล็บให้กับงานปราบคอรัปชั่น
๒.๓ การปรับแก้กฎหมายพื้นฐานที่สำคัญคือ การเทิดทูน “ความคิด สี จิ้นผิง ว่าด้วยสังคมนิยมแบบอัตลักษณ์จีนสำหรับยุคใหม่” เพื่อเป็นหลักแนะแนวทางการฟื้นฟูใหม่และเรืองอำนาจของประเทศ
๒.๔ มีการโยกย้ายวางหมากผู้นำในคณะมุขมนตรีหรือคณะรัฐบาลใหม่ แม้ผู้นำหลายคนเป็นหน้าเก่า ทว่า ก็นับเป็น “การจัดขบวนทัพ” ในองคาพยพการบริหารประเทศครั้งสำคัญเพื่อออกเดินทางสู่ “ยุคใหม่” ตามกรอบแนวคิดที่ได้บัญญัติไว้ในธรรมนูญพรรคและรัฐธรรมนูญของประเทศที่แก้ไขใหม่
๓. เครื่องมือสำคัญ คือ ความเห็นพ้องกันของประชาชนที่เป็นผู้สร้างประวัติศาสตร์ และวีรบุรุษตัวจริง โดย
ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้เทิดทูนประชาชนว่าเป็นพลังจิตวิญญาณสูงสุดของการต่อสู้ โดยเน้นย้ำถึงความมานะบากบั่นของประชาชนได้นำไปสู่การเปลี่ยนถ่ายครั้งประวัติศาสตร์ของสาธารณรัฐประชาชนจีน จากยุค “ยืนได้มั่น” สู่ยุค “เติบโตมั่งคั่ง” และกำลังเดินทางสู่ยุค “ผงาดแข็งแกร่ง” (站起来,富起来, 强起来) ทั้งนี้ “ยืนได้มั่น” คือยุคเหมา เจ๋อตง “เติบโตมั่งคั่ง” คือยุคปฏิรูปเศรษฐกิจจากยุคเติ้ง เสี่ยวผิง และ “กำลังจะผงาดแข็งแกร่ง” ในยุคของสี จิ้นผิง เพื่อก้าวไปสู่ "การฟื้นฟูใหม่” และ “สองความฝันจีน” คือการสร้างสังคมกินดีอยู่ดีถ้วนหน้าในปี ๒๐๒๐ (พ.ศ.๒๕๖๓) ในวาระครบรอบ ๑๐๐ ปีแห่งการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีน และการสร้างประเทศสังคมนิยมสมัยใหม่ในกลางศตวรรษที่ ๒๑ นี้ ซึ่งตรงกับวาระครบรอบ ๑๐๐ ปี การสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน ถือเป็นหลักชัยของ “ความฝันจีน” และได้ตั้งเป้าก่อนถึงหลักชัยว่า จะบรรลุการสร้างพื้นฐาน “การสร้างชาติสังคมนิยมที่ทันสมัย” (socialist modernization) ในปี ๒๐๓๕ (พ.ศ.๒๕๗๘)
บทสรุป
แม้ว่าจีนได้พบเส้นทางการพัฒนาประเทศในรูปแบบเฉพาะของตนเองแล้วก็ตาม แต่ก็ยังต้องต่อสู้แก้ไขปัญหาความขัดแย้งหลักในสังคม ด้วยการพัฒนาสังคมนิยมแแบบอัตลักษณ์จีน เพื่อบรรลุเป้าหมายตามทิศทางจากการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคฯ ครั้งที่ ๑๙ เมื่อปลายปีที่แล้ว โดยจีนจะร่วมแบ่งปันความรุ่งโรจน์แก่โลกด้วยการเปิดกว้างภาคการผลิตทั่วไปอย่างสมบูรณ์ให้แก่นักลงทุนต่างชาติ ขณะเดียวกัน การเข้าสู่ตลาดในภาคอื่นๆ ได้แก่ โทรคมนาคม ภาคบริการการแพทย์ การศึกษา การดูแลผู้สูงอายุ และพาหนะพลังงานใหม่ ก็กำลังอยู่ในขั้นขยับขยายเพื่อให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามามีส่วนร่วมด้วยการพัฒนาตามโครงการความริเริ่ม “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” (BRI) ที่จะขยายเส้นทางถนนและรถไฟเพื่อกระตุ้นการแลกเปลี่ยนระหว่างพรมแดนในหลากหลายด้านมากขึ้น สร้างแหล่งปัจจัยใหม่ๆที่จะช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจโลก และแบ่งปันความรุ่งโรจน์ร่วมกัน ซึ่งจะเชื่อมโยงเข้ามาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย และเกี่ยวข้องกับประเทศไทยผ่านกรอบความร่วมมือต่างๆ เช่น กรอบความร่วมมือแม่น้ำล้านช้าง-แม่น้ำโขง เป็นต้น
ประมวลโดย : พันเอกไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
ข้อมูลจากเว็บไซต์
https://mgronline.com/china/detail/9610000028722
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2326491234043475&id=655196097839672
http://thai.cri.cn/247/2018/03/23/63s265564.htm
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2162134874017874&id=1625187591045941