การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนกับโปรตุเกสครบรอบ ๔๐ ปี ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
๑. เมื่อวันที่ ๘ ก.พ.๖๒ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน และนายมาร์เซโล เรเบลโล เดอ ซัลซา ประธานาธิบดีโปรตุเกส ได้แลกเปลี่ยนสารแสดงความยินดีระหว่างกัน เนื่องในโอกาสครบรอบ ๔๐ ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต (ปี ๑๙๗๙ หรือ พ.ศ.๒๕๒๒) ระหว่างสองประเทศ กล่าวคือ
๑.๑ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เน้นว่า จีนและโปรตุเกสเป็นมิตรกันมาช้านาน และในโอกาส ๔๐ ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ทั้งสองประเทศควรเคารพซึ่งแก่และกัน ปฏิบัติต่อกันอย่างเป็นธรรม เอื้อประโยชน์ต่อกัน และได้รับชนะร่วมกัน ตลอดจนร่วมกันผลักดันการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างสองประเทศให้เป็นไปอย่างมั่นคง ซึ่งจีนให้ความสำคัญอย่างมากในการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ทั้งนี้ ยินดีที่จะใช้ความพยายามร่วมกัน โดยถือโอกาสครบรอบ ๔๐ ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ เพื่อส่งเสริมให้ความสัมพันธ์ฉันหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์รอบด้านระหว่างสองประเทศก้าวไปสู่ระดับใหม่ และสร้างความผาสุกให้แก่กับประชาชนทั้งสองประเทศมากขึ้น
๑.๒ ประธานาธิบดี มาร์เซโล เรเบลโล เดอ ซัลซา เน้นว่า ตั้งแต่โปรตุเกสและจีนสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต สองฝ่ายปฏิบัติต่อกันอย่างกลมกลืน รักษาจุดร่วม สงวนจุดต่าง และมีชัยชนะร่วมกัน ผ่านทางการปรึกษาหารืออย่างเป็นธรรม และการรวบรวมความรับรู้ร่วมกัน ทั้งสองฝ่ายได้เปลี่ยนผ่านอำนาจการปกครองมาเก๊าด้วยความสำเร็จและราบรื่น นับเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่ประชาคมโลก
๒. ประธานาธิบดีของทั้งสองประเทศได้พบปะหารือกันครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ ๔ ธ.ค.๖๑ ในขณะที่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้เดินทางไปเยือนโปรตุเกสอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ ๔ – ๕ ธ.ค.๖๑ ซึ่งในการพบปะกันดังกล่าว ผู้นำทั้งสองฝ่ายได้เน้นถึงการผลักดันความร่วมมือฉันมิตรจีน-โปรตุเกส ให้ประสบผลสำเร็จอย่างต่อเนื่อง เพื่อเปิดหน้าใหม่แห่งการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคี กล่าวคือ
๒.๑ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้ชื่นชมโปรตุเกสที่ยืนหยัดต่อนโยบายจีนเดียว อีกทั้งยินดีจับมือกับโปรตุเกสเพื่อสร้างความเข้าใจ และการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับผลประโยชน์สำคัญ รวมไปถึงปัญหาที่รับความสนใจอย่างมาก โดยทั้ง ๒ ฝ่ายต้องกระชับการไปมาสู่กันของผู้นำระดับสูง เสริมสร้างการแลกเปลี่ยนระหว่างรัฐบาล องค์กรนิติบัญญัติ พรรคการเมือง องค์กรท้องถิ่น และประชาชนของทั้ง ๒ ประเทศ เพื่อเพิ่มพูนความเชื่อถือทางการเมือง ปูรากฐานทางการเมืองให้มั่นคงสำหรับมิตรภาพจีน-โปรตุเกส ตลอดจน ทั้ง ๒ ฝ่ายควรจับโอกาสที่รัฐบาลสองประเทศได้ลงนามบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับการร่วมสร้าง “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” (Belt and Road Initiative : BRI) และกระชับความร่วมมือภายใต้กรอบ “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” อย่างเต็มที่ พร้อมทั้งส่งเสริมการเชื่อมโยงกันในทุกด้าน
๒.๒ ประธานาธิบดี มาร์เซโล เรเบลโล เดอ ซัลซา ได้กล่าวถึงการไปมาหาสู่กันระหว่างโปรตุเกสและจีน ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ถือเป็นรากฐานความเข้าใจกันสำหรับการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคี อันจะนำไปสู่การกระชับการแลกเปลี่ยน และความร่วมมือกับจีนในด้านเศรษฐกิจการค้า การเงิน วัฒนธรรม และบุคลากร ตลอดจนยินดีต้อนรับธุรกิจจากจีนให้มาขยายการลงทุนในโปรตุเกส
๓. ข้อสังเกต ในเดินทางเยือนโปรตุเกสอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ในระหว่างวันที่ ๔ – ๕ ธ.ค.๖๑ ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในข้อตกลงร่วมกัน ๑๗ ฉบับ ภายใต้กรอบความร่วมมือโครงการความริเริ่ม “หนึ่งแถบ หนึ่งเว้นทาง” เพื่อสร้างสรรค์สิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานที่สมบูรณ์ รวมทั้งการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีของมหาวิทยาลัยและองค์กรวิจัยหลายแห่ง ตลอดจนครอบคลุมถึงความร่วมมือในขอบเขตต่างๆ อาทิ รถยนต์ไฟฟ้า พลังงาน การเงิน เป็นต้น
บทสรุป
แม้ว่าจีนกับโปรตุเกสจะอยู่ห่างกันไกล แต่ทั้งสองประเทศมีความใกล้ชิดทางด้านการเมือง เศรษฐกิจการค้า โดยเฉพาะการที่มาเก๊าซึ่งเคยอยู่ภายใต้การปกครองของโปรตุเกสได้กลับมาอยู่ภายใต้การปกครองของจีนภายใต้แนวคิดหนึ่งประเทศสองระบบ เมื่อปี ๑๙๙๙ (พ.ศ.๒๕๔๒) โดยเป็นเขตบริหารพิเศษคล้ายคลึงกับฮ่องกง (ซึ่งเคยอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษและได้กลับสู่การปกครองของจีนในปี ๑๙๙๗ หรือ พ.ศ.๒๕๔๐) และมาเก๊าจะคงรูปแบบเศรษฐกิจและวิถีชีวิตแบบเดิมไปได้อีก ๕๐ ปี คือ ตั้งแต่ปี ๑๙๙๙ –๒๐๔๙ (พ.ศ.๒๕๔๒ – ๒๕๙๒) ต่อมาเมื่อปี ๒๐๐๕ (พ.ศ.๒๕๔๘) ทั้งสองประเทศได้ยกระดับความสัมพันธ์ต่อกันในเชิงหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน โดยเฉพาะการที่จีนเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของโปรตุเกสในเอเชีย และในยามที่โปรตุเกสตกอยู่ในวิกฤตเงินยูโรเมื่อช่วง ๑๐ ปีที่ผ่านมา จีนได้พยายามให้ความช่วยเหลือในด้านการลงทุน จนทำให้โปรตุเกสเป็นหนึ่งในประเทศที่สำคัญต่อการลงทุนของจีนในสภาพยุโรป นอกจากนี้ การที่แฟนฟุตบอลชาวจีนมีความประทับใจในลีลาการเล่นของคริสเตียโน โรนัลโด้ ศูนย์หน้าระดับโลกของโปรตุเกส ก็จะช่วยสนับสนุนต่อการดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศได้แนวทางหนึ่ง ท่ามกลางกระแสความนิยมในกีฬาฟุตบอลของชาวจีน
ประมวลโดย : พลตรีไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
ข้อมูลจากเว็บไซต์
http://thai.cri.cn/20190209/7f7f3e7d-d8c0-5de2-ddee-fdcf56293dc6.html
http://thai.cri.cn/20181205/642e9d6e-2865-88b0-7327-5681cf42fb04.html
http://thai.cri.cn/20181204/8b8d5c9c-70f3-41ef-142d-5729f50f16de.html
https://www.tripsavvy.com/is-macau-part-of-china-1535534
http://eng.chinamil.com.cn/view/2019-02/09/content_9422915.htm