ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
๑. การบรรลุเป้าหมายในการขจัดความยากจนโดยสิ้นเชิงก่อนปี ๒๐๒๐ (พ.ศ.๒๕๖๓) ซึ่งประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้กล่าวเมื่อต้นเดือน มี.ค.๖๒ ว่า มาตรฐานของการพ้นจากความยากจนก็คือ ประชากรผู้ยากจนมีความเป็นอยู่ที่พอกินพอใช้ ได้รับการศึกษาขั้นบังคับ ได้รับการรักษาพยาบาลขั้นพื้นฐาน มีบ้านพักที่อยู่อาศัย นอกจากนี้ การแก้ไขปัญหาความยากจนต้องดำเนินการตามสภาพที่เป็นจริง โดยเฉพาะจะดำเนินการขจัดความยากจนควบคู่ไปกับยุทธศาสตร์การสร้างความเจริญในพื้นที่ชนบท ซึ่งมีประเด็นหลัก ๖ ประการ สำหรับใช้เป็นแนวทางที่จะนำไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองของเขตชนบทจีน และเป็นงานสำคัญในการขจัดความยากจนของจีนในปีนี้และปีหน้า ได้แก่
(๑) พื้นที่ชนทบควรมีภาระหน้าที่อันหนักหน่วงในการรักษาความมั่นคงทางอาหารของชาติ
(๒) ผลักดันการปฏิรูปอุปทานทางการเกษตร
(๓) ยืนหยัดการพัฒนาสีเขียว
(๔) การพัฒนาสาธารณูปโภคในเขตชนบท
(๕) เสริมการบริหารในเขตชนบท
(๖) ใช้โอกาสการปฏิรูปด้วยดี
๒. กรอบแนวคิดของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ว่าด้วยการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมนิยมที่มีเอกลักษณ์ของจีน เพื่อให้งานทุกด้านเป็นไปอย่างมั่นคง และประสบความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยต้องเน้นการดำเนินงานหลัก ๓ ประการ ได้แก่
๒.๑ การทุ่มกำลังเต็มที่ในการขับเคลื่อนการพัฒนาที่มีคุณภาพสูง เร่งแก้ไขปัญหาการพัฒนาที่ไม่สมดุล และไม่เต็มที่ ต้องถือคุณภาพของการพัฒนาเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก และคำนึงถึงประสิทธิภาพของการพัฒนาก่อนสิ่งใดอื่น ต้องสนับสนุนการปรับปรุงโครงสร้าง เศรษฐกิจ เคารพและปฏิบัติตามกฎแห่งการพัฒนาเศรษฐกิจ ประกันให้อัตราเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ในระดับที่เหมาะสม
๒.๒ เร่งดำเนินการปฏิรูปและเปิดประเทศ สนับสนุนความตั้งใจในการประดิษฐ์คิดค้นของประชาชน สนับสนุนให้พื้นที่ต่างๆ กล้าบุกเบิกพัฒนา กล้าเผชิญกับปัญหาที่แก้ไขได้ยาก โดยพิจารณาจากสภาพความเป็นจริงของพื้นที่นั้น เพื่อขับเคลื่อนการปฏิรูป เปิดประเทศให้มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง
๒.๓ จะต้องคว้าชัยชนะในการป้องกันและขจัดความเสี่ยงด้านต่างๆ เพื่อบรรลุซึ่งเป้าหมายการสร้างสังคมพอกินพอใช้อย่างรอบด้าน ต้องควบคุมความเสี่ยงและปัญหาด้านต่างๆ ที่แฝงอยู่อย่างมีประสิทธิภาพ ต้องบรรลุเป้าหมายการแก้ไขปัญหายากจนอย่างรอบด้าน ต้องให้สภาพแวดล้อมระบบนิเวศโดยรวมมีคุณภาพที่สูงขึ้น ต้องยึดแนวความคิดทำทุกอย่างเพื่อประชาชน ต้องใช้ความพยายามเต็มที่ เพื่อแก้ไขปัญหาที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างมาก โดยการดำเนินงานทุกอย่างจะต้องพิจารณาจากสภาพความเป็นจริงของจีน ต้องส่งเสริมความยุติธรรม และความเป็นธรรมทางสังคมอย่างรอบด้าน เพื่อให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนนับวันมีคุณภาพดีขึ้นพร้อมไปกับการพัฒนาของประเทศชาติ
บทสรุป
ในช่วง ๕ ปีที่ผ่านมา พบว่าเศรษฐกิจจีนขึ้นสู่ขั้นบันไดใหม่ โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือ GDP เพิ่มขึ้นจาก ๕๔ ล้านล้านหยวนเป็น ๘๒.๗ ล้านล้านหยวน เฉลี่ยแล้วเพิ่มขึ้น ๗.๑% ต่อปี และเศรษฐกิจจีนเติบโตจาก ๑๑.๔% เป็นประมาณ ๑๕% ของเศรษฐกิจโลก ซึ่งมีส่วนช่วยต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลกมากกว่า ๓๐% ทั้งนี้ ปีนี้เป็นปีที่ครบรอบ ๗๐ ปี แห่งการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งต้องบรรลุผลสำร็จตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ ๑๓ ระยะ ๕ ปี (ค.ศ.๒๐๑๖ - ๒๐๒๐) และพัฒนาพิมพ์เขียวสำหรับการพัฒนาประเทศในอนาคต ที่มุ่งเน้นในประเด็นสำคัญ ได้แก่
(๑) การยึดถือแนวทางการพัฒนาประเทศตามแนวคิดสังคมนิยมที่มีเอกลักษณ์ของจีนยุคใหม่
(๒) การยึดมั่นต่อการพัฒนาที่มีประชาชนเป็นสำคัญ
(๓) มุ่งสู่ยุทธศาสตร์การพัฒนาชนบท
(๔) มุ่งสร้างเอกภาพในการพัฒนาโดยปรับแก้และยกเลิกข้อกำหนดการปฏิบัติที่เป็นอุปสรรค
(๕) ต้องยึดถือการสร้างสรรค์ตามข้อริเริ่ม “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative: BRI)”
(๖) การยึดถือแนวทางการปกครองประเทศโดยหลักกฎหมายหรือนิติรัฐ
(๗) การสร้างสรรค์การพัฒนาประเทศโดยมีระบบการศึกษาที่เข้มแข็ง
(๘) มุ่งทำให้ประชาชนหลุดพ้นจากความยากจน โดยเฉพาะประชาชนในชนบท
(๙) มุ่งจัดระบบการสาธารณสุขและการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพ
(๑๐) มุ่งดำเนินนโยบายด้านการผลิตและบริโภคสีเขียว โดยเฉพาะการพัฒนาการใช้พลังงานหมุนเวียน และส่งเสริมระบบนิเวศวิทยาทางธรรมชาติ
ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
แหล่งข้อมูล
๑. ผู้จัดการออนไลน์ ข้อมูลจากเว็บไซต์
https://mgronline.com/china/detail/9610000023887
https://mgronline.com/china/detail/9610000023398
๒. สำนักข่าว CRI ของจีน ข้อมูลจากเว็บไซต์
http://thai.cri.cn/20190320/c968c772-7c9f-41b1-1857-f3d2c59e9a22.html
http://thai.cri.cn/20190307/7c4165bd-88ff-2afe-cb22-ceb35caf7bdb.html
http://thai.cri.cn/247/2018/03/05/242s264949.htm
http://thai.cri.cn/247/2018/03/20/225s265457.htm
http://thai.cri.cn/247/2018/03/20/223s265461.htm
http://thai.cri.cn/247/2018/03/20/233s265452.htm
๓. สำนักข่าวซินหัวของจีน ข้อมูลจากเว็บไซต์
https://www.facebook.com/XinhuaNewsAgency.th/posts/1723312291218119/