นายกรัฐมนตรีจีนร่วมประกาศแถลงการณ์ร่วมของ SCO โดยตั้งเป้าหมายพัฒนาระบบการค้าพหุภาคีให้มีความเข้มแข็งยิ่งขึ้น เพื่อต่อต้านลัทธิฝ่ายเดียวและลัทธิคุ้มครองการค้าในทุกรูปแบบ ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
๑. การประชุมผู้นำระดับนายกรัฐมนตรีองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Cooperation Organization : SCO) ครั้งที่ ๑๗ ได้ปิดฉากลงที่กรุงดูชานเบ ประเทศทาจิกิสถาน เมื่อวันที่ ๑๒ ต.ค.๖๑ โดยที่ประชุมฯ ได้ประกาศแถลงการณ์ร่วมตั้งเป้าหมายพัฒนาระบบการค้าพหุภาคีให้มีความเข้มแข็งยิ่งขึ้น ต่อต้านลัทธิฝ่ายเดียว และลัทธิคุ้มครองการค้าในทุกรูปแบบ สืบเนื่องจากเมื่อเดือน มิ.ย.๖๑ ที่ผ่านมา การประชุมสุดยอด SCO ได้ประกาศ "แถลงการณ์ร่วมว่าด้วยความสะดวกทางการค้าของผู้นำประเทศภาคีองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้" โดยได้เน้นให้ฝ่ายต่าง ๆ ประสานงานเพื่อให้การค้าระหว่างกันมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น ดังนั้น นายกรัฐมนตรีของประเทศภาคี SCO ต่างเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ แสดงถึงท่าทีที่ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว
๒. ผู้นำจากประเทศต่างๆ โดยเฉพาะนายดมิทรี เมดเวเดฟ นายกรัฐมนตรีรัสเซีย ได้แสดงท่าทีโดยประณามบางประเทศ (ถึงแม้จะไม่ได้ออกชื่อประเทศ แต่ก็มีนัยว่าหมายถึงสหรัฐฯ) อย่างรุนแรงที่ใช้ลัทธิคุ้มครองการค้า ใช้มาตรการลงโทษฝ่ายเดียว และหักหลังทางการเมือง ทั้งนี้ เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นว่า องค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ หรือ SCO มีบทบาทสำคัญมากยิ่งขึ้นในการคุ้มครองลัทธิพหุภาคี โดยในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน (วันที่ ๑๒ ต.ค.๖๑) นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน ได้พบปะกับ นายดมีตรี เมดเวเดฟ นายกรัฐมนตรีรัสเซีย ที่กรุงดูชานเบ เมืองหลวงของทาจิกิสถาน
๒.๑ นายหลี่ เค่อเฉียง กล่าวว่า ปัจจุบันความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับรัสเซียได้พัฒนาจนอยู่ในระดับสูง ก่อนหน้าที่ประมุขทั้งสองประเทศจะพบปะกันในช่วงเข้าร่วมการประชุมฟอรั่มเศรษฐกิจตะวันออก ครั้งที่ ๔ โดยจีนยินดีร่วมมือกับรัสเซียในการส่งเสริมยุทธศาสตร์ทุกด้าน ขยายขอบเขตความร่วมมือให้กว้างขวางมากขึ้น ตลอดจนส่งเสริมการผสมผสานผลประโยชน์ ทุ่มเทแรงกระตุ้นใหม่เพื่อความร่วมมือแบบทวิภาคี
๒.๒ นายดมิทรี เมดเวเดฟ ได้กล่าวว่า ความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมระหว่างรัสเซียกับจีนในด้านต่าง ๆ มีความก้าวหน้าไปอย่างมั่นคง ปีนี้มูลค่าการค้าคาดว่าจะมีมากกว่า ๑๐๐,๐๐ ล้านเหรียญสหรัฐฯ ความร่วมมือด้านพลังงานได้รับการพัฒนาไปอย่างแข็งขัน มีการแลกเปลี่ยนระดับท้องถิ่นมีความใกล้ชิดกันมากขึ้น รวมทั้งจะรอคอยการเจรจาระดับนายกรัฐมนตรีรัสเซีย-จีนที่จะจัดขึ้นในปีนี้ โดยรัสเซียยินดีร่วมมือกับจีนรักษาลัทธิพหุภาคีและการค้าเสรี ตลอดจนสร้างคุณูปการเพื่อสันติภาพ ความมั่นคง และการพัฒนาความเจริญรุ่งเรืองของโลก
๓. ข้อสังเกต ปัจจุบัน SCO มีสมาชิก ๘ ประเทศ คือ จีน อินเดีย คาซัคสถาน คีร์กีซสถาน ปากีสถาน รัสเซีย ทาจิกิสถาน และอุซเบกิสถาน ขณะที่มีประเทศผู้สังเกตการณ์ ๔ ประเทศได้แก่ อัฟกานิสถาน เบลารุส อิหร่าน และมองโกเลีย โดยขอบเขตทางภูมิศาสตร์ของ SCO ได้ขยายครอบคลุมจากขั้วโลกเหนือถึงมหาสมุทรอินเดีย ครอบครองพื้นที่ ๓ ใน ๕ ของยูเรเชีย (ทวีปยุโรปและเอเชีย) มีประชากรในภูมิภาครวมแล้วกว่า ๓,๑๐๐ ล้านคน มีผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) มีมูลค่าสูงกว่า ๑๗ ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ จึงทำให้ SCO กลายเป็นองค์การใหญ่ที่มีอิทธิพลระดับโลก
บทสรุป
ประเด็นสำคัญจากการประชุมผู้นำระดับนายกรัฐมนตรีองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ หรือ SCO ได้แก่กรณีที่นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน ได้เสนอให้ตั้งเขตการค้าเสรี SCO และในแถลงการณ์ร่วมของ SCO ได้เสนอให้ฝ่ายต่าง ๆ พยายามให้การค้าและการลงทุนสะดวกยิ่งขึ้น เพื่อสามารถให้สินค้า เงินทุน บริการ และเทคโนโลยีแลกเปลี่ยนกันได้อย่างเสรีและมีความสะดวก ซึ่งย่อมจะมีอิทธิพลและส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงในการจัดระเบียบของโลก จึงจำเป็นต้องติดตามความเคลื่อนไหวของ SCO อย่างใกล้ชิดต่อไป
ประมวลโดย : พลตรีไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
ข้อมูลจากเว็บไซต์
https://larouchepub.com/pr/2018/181011_li_to_sco_meet.html
http://thai.cri.cn/247/2018/10/13/64s272291.htm
http://thai.cri.cn/247/2018/10/13/121s272293.htm
http://eng.tibet.cn/eng/index/focus/201810/t20181012_6316150.html
http://www.globaltimes.cn/content/1122785.shtml
https://www.baaz.com/trending/story/5bc0bafc713ca07c2dc6a75d