bg-head-3

บทความ

จีนศึกษา (วันจันทร์ที่ ๑๙ ธ.ค.๖๕) ขอนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับนายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวถึงการที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้เสร็จสิ้นการเดินทางไปร่วมการประชุมผู้นำจีน-ประเทศอาหรับ การประชุมผู้นำจีน-คณะมนตรีความร่วมมือ

      จีนศึกษา (วันจันทร์ที่ ๑๙ ธ.ค.๖๕) ขอนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับนายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวถึงการที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้เสร็จสิ้นการเดินทางไปร่วมการประชุมผู้นำจีน-ประเทศอาหรับ การประชุมผู้นำจีน-คณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ และการเยือนซาอุดิอาระเบียอย่างเป็นทางการ ในระหว่างวันที่ ๗ - ๑๐ ธ.ค.๖๕ โดยนายหวัง อี้ กล่าวว่า

      การเดินทางครั้งนี้ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เป็นปฏิบัติการทางการทูตระหว่างจีนกับประเทศอาหรับที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและมีระดับสูงที่สุดหลังจากสาธารณรัฐประชาชานจีนสถาปนาขึ้น โดยสื่อมวลชนทั้งจีนและต่างชาติจึงให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการเดินทางครั้งนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเลือกสรรทางยุทธศาสตร์ของทั้งจีนและประเทศอาหรับที่มุ่งมั่นจะส่งเสริมความร่วมมือเพื่อรับมือความท้าทายต่าง ๆ ทั่วโลก ถือเป็นบทใหม่ของความสัมพันธ์ที่จะส่งผลในระยะยาวอย่างลึกซึ้งต่อโครงสร้างสากลและสถานการณ์ระดับภูมิภาค ได้แก่

     ๑. ร่วมมือกันเพื่อสร้างประชาคมจีน-อาหรับที่มีอนาคตร่วมกัน

     นายหวัง อี้ กล่าวว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แนวโน้มโดยทั่วไปของจีนที่เปิดกว้างสู่ตะวันตกและแนวโน้มใหม่ในการพัฒนาของประเทศอาหรับไปทางตะวันออกนั้นสอดคล้องกันและสะท้อนซึ่งกันและกัน ประสบการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่คล้ายคลึงกัน ความฝันในการพัฒนาเดียวกัน และความไว้เนื้อเชื่อใจและการสนับสนุนซึ่งกันและกันทำให้จีนและรัฐอาหรับใกล้ชิดกันมากขึ้น ก่อนการเยือนจีนอย่างเป็นทางการเผยแพร่ "รายงานความร่วมมือจีน-อาหรับในยุคใหม่" ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความปรารถนาอันแรงกล้าของจีนและรัฐอาหรับอย่างครอบคลุมและชัดเจนในการกระชับความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและความร่วมมือที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และจับมือกันเพื่อการพัฒนาร่วมกัน ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เสนอว่าจีนจะทำงานร่วมกับฝ่ายอาหรับเพื่อผลักดัน "การดำเนินการร่วมกันที่สำคัญ ๘ ประการ" ซึ่งครอบคลุมการสนับสนุนการพัฒนา ความมั่นคงด้านอาหาร สุขภาพ นวัตกรรมสีเขียว ความมั่นคงด้านพลังงาน การเจรจาระหว่างอารยธรรม การพัฒนาเยาวชน รวมทั้งความมั่นคงและเสถียรภาพ โดยทั้งสองฝ่ายได้ออก "ปฏิญญาริยาดของการประชุมสุดยอดจีน-อาหรับครั้งแรก" และตกลงที่จะใช้ความพยายามทุกวิถีทางเพื่อสร้างประชาคมจีน-อาหรับที่มีอนาคตร่วมกันสำหรับยุคใหม่ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะกระชับความร่วมมือจีน-อาหรับให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น หลากหลายสาขาผ่านกลไกต่างๆ ภายใต้กรอบฟอรัมความร่วมมือจีน-อาหรับ และทำงานร่วมกันเพื่อรับมือกับความท้าทายในการพัฒนาร่วมกัน "ปฏิญญา" ยังได้เน้นย้ำการยึดมั่นในหลักการจีนเดียว สนับสนุนจุดยืนและข้อกังวลของจีนในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับไต้หวัน ฮ่องกง และซินเจียง และสนับสนุนการสร้าง "หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง" ร่วมกันอย่างเต็มที่

     ๒. การทำงานร่วมกันของความร่วมมือระหว่างจีนและสันนิบาติอาหรับ (Gulf Cooperation Council : GCC)

     นายหวัง อี้ กล่าวว่า GCC เป็นองค์กรระดับภูมิภาคที่มีพลวัตมากที่สุดในตะวันออกกลางและอ่าว เป็นศูนย์กลางทางภูมิศาสตร์ที่เชื่อมระหว่างเอเชีย แอฟริกา และยุโรป ขุมทรัพย์พลังงานที่จัดหาเศรษฐกิจโลก และเป็นพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์สำหรับการพัฒนาพื้นที่สูง อุตสาหกรรมเทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญในเวทีระหว่างประเทศและระดับภูมิภาค

     ๓. สานต่ออดีตและเปิดสู่อนาคต รวมทั้งสร้างสถานการณ์ใหม่ในความสัมพันธ์จีน-ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งซาอุดิอาระเบียเป็นประเทศอาหรับและอิสลามที่สำคัญ เป็นประเทศพลังงานที่สำคัญของโลกและเป็นประเทศอาหรับเพียงแห่งเดียวในกลุ่ม G20

     ๔. เน้นความรักและความชอบธรรม และขยายวงเพื่อนในโลกอาหรับ

     นายหวัง อี้ กล่าวว่า ระหว่างที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เข้าร่วมการประชุมสุดยอดและการเยือนซาอุดิอาระเบีย โดยมีการประชุมทวิภาคีอย่างเข้มข้นกับผู้นำเกือบ ๒๐ ประเทศอาหรับ ได้หารือเกี่ยวกับมิตรภาพ ความไว้วางใจซึ่งกันและกัน รวมทั้งความร่วมมือ โดยแสดงให้เห็นถึงรูปแบบทางการทูตที่เน้นความภักดี เน้นมิตรภาพ ส่งเสริมความยุติธรรมและสร้างคุณธรรม ซึ่งข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าจีนอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องในโลก และความร่วมมือระหว่างจีนและประเทศอาหรับไม่ใช่เพื่อเติมเต็ม "สุญญากาศทางอำนาจ" แต่เป็นการเดินเคียงข้างกันบนพื้นฐานผลประโยชน์ร่วมกัน โดยได้มีการลงนามในเอกสารความร่วมมือเกี่ยวกับการสร้างสรรค์ “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” ร่วมกับประเทศอาหรับเกือบทั้งหมดและสันนิบาตอาหรับ โดยแผนริเริ่มการพัฒนาระดับโลก (Global Development Initiative : GDI) และแผนริเริ่มความมั่นคงระดับโลก (Global Security Initiative : GSI) ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และการเดินทางเยือนตะวันออกกลางของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นรวมทั้งได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ซึ่งบ่งชี้ว่าโลกหลายขั้วกลายเป็นกระแสที่ไม่อาจต้านทานและไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

ประมวลโดย พลโท ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
( ข้อมูลจากเว็บไซต์ https://www.fmprc.gov.cn/wjbzhd/202212/t20221211_10988730.shtml )