ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
๑. เป้าหมายด้านเศรษฐกิจของจีน ในฐานะที่จีนเป็นประเทศเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ ๒ ของโลก และกำลังปรับเปลี่ยนจากประเทศใหญ่ด้านอุตสาหกรรมการผลิต เป็นประเทศเข้มแข็งด้านอุตสาหกรรมการผลิต โดยไม่เน้นให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างรวดเร็วแต่เพียงอย่างเดียว แต่กลับเน้นประสิทธิภาพ ทำให้การอุปโภคบริโภคมีประสิทธิผล ส่งเสริมเศรษฐกิจมีระดับสูงขึ้น และเกิดการเติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ จีนตระหนักว่า การจะทำให้เศรษฐกิจพัฒนาอย่างมีคุณภาพ จำเป็นต้องสร้างพลังขับเคลื่อนใหม่และนวัตกรรม ทั้งนี้ เพื่อสอดรับกับกระแสการปฏิรูปอุตสาหกรรมการผลิตและการปฏิรูปทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีรอบใหม่
๒. แนวทางและวิธีการในการดำเนินการของจีนด้านเศรษฐกิจ ซึ่งในหลายปีที่ผ่านมานี้ จีนได้พัฒนากลไกการตลาดอย่างเต็มที่ โดยออกนโยบายจำนวนหนึ่งเพื่อส่งเสริมการสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งรวมถึงโยบายสนับสนุนทางการคลัง ภาษีอากร และการเงิน โดยส่งเสริมการก่อตั้งกองทุนบุกเบิกพัฒนาธุรกิจ รวมไปถึงกองทุนรับมือความเสี่ยงต่าง ๆ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีที่สำคัญและอยู่ระดับแนวหน้า ส่งเสริมการเปิดกว้างและการแบ่งปันในการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมไปถึงการศึกษาวิจัยขั้นพื้นฐาน เร่งประยุกต์ใช้ผลงานทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในวงกว้างมากยิ่งขึ้น ส่งเสริมให้ธุรกิจต่าง ๆ ดำเนินความร่วมมือระหว่างประเทศที่มีความคิดสร้างสรรค์ เพื่อสร้างเงื่อนไขที่ดีต่อการเสริมสร้างพลังขับเคลื่อนใหม่ในการพัฒนาเศรษฐกิจ อีกทั้งยังทำให้เศรษฐกิจจีนมีความมั่นคงและยืดหยุ่นมากขึ้น
๓. เครื่องมือทางด้านเศรษฐกิจของจีน จากดัชนีเศรษฐกิจต่างๆ ของจีนในช่วง ๗ เดือนแรกของปีนี้ โดยพบว่า เศรษฐกิจจีนได้ดำเนินไปอย่างสมเหตุสมผล และได้รักษาแนวโน้มการพัฒนาที่มั่นคงในภาพรวม ภายใต้ภูมิหลังที่สหรัฐฯ ทำให้ข้อพิพาททางการค้าทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น และสถานการณ์ระหว่างประเทศไม่แน่นอน แต่เศรษฐกิจจีนยังคงแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจและความยืดหยุ่น ทั้งนี้เนื่องจาก
๓.๑ มูลค่าเพิ่มด้านอุตสาหกรรมและดัชนีการผลิตของภาคอุตสาหกรรมการบริการของจีนต่างเพิ่มมากกว่าระยะเดียวกันของปีที่แล้ว ๕.๘% และ ๗.๑% เมืองและตำบลต่างๆ ทั่วประเทศก็มีจำนวนผู้มีงานทำเพิ่มขึ้นรวม ๘,๖๗๐,๐๐๐ คน ซึ่งการบริโภคของพลเมืองเพิ่มมากกว่าระยะเดียวกันของปีที่แล้ว ๒.๓% โดยแนวโน้มการเติบโตอยู่ระดับปานกลาง และหากพิจารณาจากโครงสร้างอุตสาหกรรมการผลิตจะพบว่า การที่ดัชนีการผลิตด้านอุตสาหกรรมบริการเติบโตเร็วกว่ามูลค่าเพิ่มของอุตสาหกรรม ๒.๙% นั้น แสดงให้เห็นว่า แนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมการบริการที่ทันสมัยอยู่ในเกณฑ์ดี และอุตสาหกรรมของจีนมีแนวโน้มยกระดับสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
๓.๒ เมื่อพิจารณาจากด้านการอุปโภคบริโภคพบว่า การลงทุนในด้านอุตสาหกรรมการผลิตไฮเทคและการลงทุนในอุตสาหกรรมบริการไฮเทคได้เติบโตขึ้นเร็วกว่าการลงทุนด้านอื่นๆ ๕.๔% และ ๖.๒% ตามลำดับ ซึ่งมูลค่าการค้าปลีกสินค้าทางอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นกว่า ๒๐% โดยมีสัดส่วนเพิ่มในยอดมูลค่าการค้าปลีกสินค้าบริโภค ๒.๑% แสดงให้เห็นว่าโครงสร้างอุปโภคบริโภคของจีนได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น
๓.๓ การนำเข้าส่งออกของจีนได้เติบโตขึ้น ๔.๒% แสดงให้เห็นว่ามาตรการต่างๆ ที่มุ่งให้การค้ามีความหลากหลายและมีความสะดวกมากยิ่งขึ้นนั้น มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ผลกระทบจากข้อพิพาททางการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ ได้รับการควบคุม ทั้งนี้ ในช่วง ๗ เดือนแรกปีนี้ การใช้ทุนต่างชาติจริงของจีนได้เพิ่มมากกว่าระยะเดียวกันของปีที่แล้ว ๗.๓% และในจำนวนนี้ การใช้ทุนต่างชาติของอุตสาหกรรมการผลิตไฮเทคได้เพิ่มมากกว่าระยะเดียวกันของปีที่แล้ว ๔๓.๑% แสดงว่าบรรยากาศการประกอบธุรกิจของจีนได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ จีนยังได้เสริมการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาให้มากขึ้น และด้วยเหตุนี้ จึงทำให้จีนยังคงเป็นประเทศร้อนแรงที่น่าลงทุนของบรรดานักธุรกิจต่างชาติ
๔. ข้อสังเกต รศ.ดร.สมภพ มานะรังสรรค์ อธิการบดีสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ และนักเศรษฐศาสตร์ที่มีชื่อเสียงของไทย ได้วิเคราะห์ว่า การที่จีนใช้กลไกตลาดผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจซึ่งอยู่ภายใต้การชี้นำจากนโยบายทางเศรษฐกิจและการตลาดที่ถูกต้อง ดึงดูดทุนทั้งในและต่างประเทศจำนวนมาก ส่วนการลงทุนส่วนใหญ่รัฐบาลมุ่งเน้นไปในด้านการสร้างสรรค์สิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐาน ซึ่งมีบทบาทส่งเสริมต่อการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างมาก นอกจากนี้ การที่จีนส่งเสริมการปฏิรูปทางการเงินและปรับปรุงระบบการเงินอย่างต่อเนื่อง ทำให้จีนมีตลาดทุนที่เข้มแข็งมาก
บทสรุป
ไม่ว่าสถานการณ์ระหว่างประเทศเปลี่ยนแปลงอย่างไร ท่าทีของจีนที่ชัดเจนประการหนึ่งที่สำคัญคือ การที่จะยืนหยัดปฏิบัติภารกิจของตนให้ดีอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ โดยการดำเนินการปฏิรูปให้ลงลึกและเปิดกว้างให้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งจะเสริมความยืดหยุ่นระหว่างกระบวนการพัฒนา โดยการให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนประเทศด้วยนวัตกรรมใหม่ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และหลายปีที่ผ่านมานี้ จีนได้รับผลงานที่น่าชื่นชมในด้านการวิจัยทางวิทยาศาสตร์จำนวนมาก เช่น เทคโนโลยีชีวภาพ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการประยุกต์ใช้อินเตอร์เน็ต เป็นต้น ซึ่งเป็นผลดีต่อการพัฒนาประเทศของจีน
ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
ข้อมูลจาก
http://www.stats.gov.cn/english/
http://thai.cri.cn/20190816/55f1447e-12b9-ce1e-2c3b-a1c0e8c2e5c0.html
http://thai.cri.cn/20190815/1223da19-bd68-eabd-7896-8bd6983bc707.html
http://thai.cri.cn/20190826/b548a567-9e8b-505e-d819-90b8409c98e7.html
http://thai.cri.cn/20190821/4eed8241-2e30-ae94-2135-18d1180d5310.html
http://www.xinhuanet.com/english/2019-08/29/c_138348922.htm