ขอนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการจัดทำยุทธศาสตร์ของจีนเพื่อการพัฒนาประเทศ โดยการสร้างสังคมกินดีอยู่ดีอย่างรอบด้าน (全面建成小康社会) เพื่อบรรลุเป้าหมายในการต่อสู้สำหรับ ๑๐๐ ปีแห่งการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีน (ก่อตั้งเมื่อวันที่ ๑ กรกฎาคม ๑๙๒๑ หรือ พ.ศ.๒๔๖๔) อันเป็นเหตุการณ์แรกที่จะก้าวไปสู่การเริ่มต้นเส้นทางใหม่ที่ยาวไกลในการสร้างประเทศให้ทันสมัยแบบสังคมนิยมอย่างรอบด้าน เพื่อรุกต่อไปยังเป้าหมายในการต่อสู้สำหรับ ๑๐๐ ปีแห่งการสถาปนาประเทศจีน (สถาปนาเมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม ๑๙๔๙ หรือ พ.ศ.๒๔๙๒) อันเป็นเหตุการณ์ที่สอง ดังนั้น เมื่อวิเคราะห์สถานการณ์ทั้งภายในและระหว่างประเทศ รวมถึงเงื่อนไขการพัฒนาของประเทศจีนโดยสรุปแล้ว ช่วงเวลาตั้งแต่ปี ค.ศ.๒๐๒๐ (พ.ศ.๒๕๖๓) ถึงกลางคริสต์ศตวรรษนี้ (从二○二○年到本世纪中叶) ตามแนวคิดของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง สามารถแบ่งออกเป็นสองระยะ กล่าวคือ
๑. ระยะที่หนึ่ง ตั้งแต่ปี ค.ศ.๒๐๒๐ – ๒๐๓๕ (พ.ศ.๒๕๖๓ - ๒๕๗๘) จากพื้นฐานในการสร้างสังคมอยู่ดีมีสุขทุกด้าน จะต้องต่อสู้อีก ๑๕ ปี เพื่อบรรลุเป้าหมายการสร้างประเทศโดยส่วนใหญ่ให้ทันสมัยแบบสังคมนิยม เมื่อถึงครานั้น
๑.๑ กำลังทางเศรษฐกิจและกำลังทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีของประเทศจีน จะยกระดับขึ้นมากแบบก้าวกระโดด รวมถึงจะสามารถขยับตนเข้าไปอยู่ในแถวหน้าของกลุ่มประเทศนวัตกรรม
๑.๒ ประชาชนมีส่วนร่วมและมีสิทธิ์ในการพัฒนาอย่างเท่าเทียม โดยได้รับการคุ้มครองอย่างเต็มที่ มีการใช้ระบบกฎหมายปกครองประเทศ ระบบทุกด้านสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ระบบการบริหารประเทศและความสามารถในการบริหารโดยส่วนใหญ่ได้รับการพัฒนาให้ทันสมัย
๑.๓ สังคมมีอารยธรรมสูงขึ้นถึงระดับใหม่ Soft Power ด้านวัฒนธรรมของประเทศจีนเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อิทธิพลของวัฒนธรรมจีนแผ่ขยายเข้าไปในวงกว้างขึ้น
๑.๔ ประชาชนกินดีอยู่ดีมากขึ้น อัตราส่วนของกลุ่มคนรายได้ปานกลางเพิ่มสูงขึ้นอย่างชัดเจน ความแตกต่างระหว่างการพัฒนาในเมืองกับชนบทและความแตกต่างระหว่างคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยนั้นลดลงอย่างเห็นได้ชัด บรรลุเป้าหมายในการทำให้การบริการสาธารณะโดยส่วนใหญ่เท่าเทียมกัน ประชาชนทั้งผองมีฐานะร่ำรวยร่วมกันและก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง รูปแบบการบริหารสังคมสมัยใหม่โดยส่วนใหญ่ก่อตัวขึ้น สังคมเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งชีวิตชีวา มีความสมานฉันท์ และมีระเบียบ สิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศดีขึ้นอย่างแท้จริง ตลอดจนบรรลุเป้าหมายที่ทำให้ประเทศจีนสวยงาม
๒. ระยะที่สอง ตั้งแต่ปี ค.ศ.๒๐๓๕ – กลางคริสต์ศตวรรษนี้ หรือ ๒๐๕๐ (พ.ศ.๒๕๗๘ - ๒๕๙๓) จากพื้นฐานในการสร้างประเทศจีนโดยส่วนใหญ่ให้ทันสมัย จะต้องต่อสู้อีก ๑๕ ปี เพื่อสร้างประเทศจีนให้เป็นประเทศที่เข้มแข็งและทันสมัยแบบสังคมนิยม ซึ่งมีความเข้มแข็งและมั่งคั่ง พรั่งพร้อมด้วยประชาธิปไตยและอารยธรรม ตลอดจนมีความสมานฉันท์และความสวยงาม เมื่อถึงครานั้น
๒.๑ อารยธรรมของประเทศจีนในด้านต่างๆ จะยกระดับสูงขึ้นทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นวัตถุ การเมือง จิตวิญญาณ สังคม และระบบนิเวศ
๒.๒ ระบบการบริหารประเทศและความสามารถในการบริหารโดยส่วนใหญ่ได้รับการพัฒนาให้ทันสมัย จนกลายเป็นประเทศที่นำหน้าผู้อื่นในด้านศักยภาพรวมและบทบาทระหว่างประเทศ
๒.๓ บรรลุเป้าหมายในการทำให้ประชาชนทั้งปวงมีฐานะร่ำรวยร่วมกัน ประชาชนของประเทศจีนจะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่สุขสบายยิ่งขึ้น รวมถึงชนชาติจีนจะยืนเด่นเป็นสง่าอย่างฮึกเหิมท่ามกลางหมู่มวลประชาชาติทั่วโลก
บทสรุป
จากการสร้างสังคมกินดีอยู่ดีอย่างรอบด้านไปสู่การบรรลุเป้าหมายในการสร้างประเทศให้ทันสมัย รวมถึงการนำไปสู่การสร้างประเทศให้เข้มแข็งและทันสมัยแบบสังคมนิยมอย่างรอบด้าน สิ่งนี้คือการวางแผนทางยุทธศาสตร์สำหรับการพัฒนาประเทศแบบสังคมนิยมที่มีเอกลักษณ์ของจีนในยุคใหม่ (从全面建成小康社会到基本实现现代化,再到全面建成社会主义现代化强国,是新时代中国特色社会主义发展的战略安排。) ซึ่งประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้เน้นย้ำว่า จะต้องยืนหยัดต่อสู้อย่างไม่ท้อถอย และต้องมีจิตใจอดทนไม่ย่อท้อ เพื่อร่วมจารึกประวัติศาสตร์แห่งเส้นทางใหม่อันยาวไกลในการสร้างประเทศให้ทันสมัยแบบสังคมนิยมอย่างสง่างาม
ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
ข้อมูลจากเว็บไซต์
http://cpc.people.com.cn/n1/2017/1028/c64094-29613660.html