นายหลิว เฮ่อ ทูตพิเศษของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กรรมการกรมการเมือง คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะฝ่ายจีนในการเจรจาด้านเศรษฐกิจกับสหรัฐฯ ได้เดินทางไปเยือนสหรัฐฯ ตามคำเชิญของรัฐบาลสหรัฐฯ ระหว่างวันที่ ๑๕ – ๑๙ พ.ค.๖๑ โดยได้พบกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อวันที่ ๑๗ พ.ค.๖๑ ที่ทำเนียบขาว ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
๑. ท่าทีของนายหลิว เฮ่อ ผู้แทนฝ่ายจีน
๑.๑ กล่าวต่อนายโดนัลด์ ทรัมป์ว่า ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง และมาดามเผิง ลี่หยวน ฝากความปรารถนาดีมายังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และมาดามเมลาเนีย ทรัมป์
๑.๒ ได้กล่าวถึงการมาเยือนสหรัฐฯ ในครั้งนี้เป็นไปตามข้อตกลงของผู้นำทั้งสองประเทศ มีวัตถุประสงค์ที่จะแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างสองประเทศในระดับลึกกับเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ จีนยินดีร่วมมือใช้ความพยายามกับสหรัฐฯ ในการจัดการและแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจและการค้าที่ทั้งสองฝ่ายต่างให้ความสำคัญอย่างเหมาะสมบนพื้นฐานความเสมอภาคเท่าเทียมกันและเกื้อกูลกัน การประกันให้ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างสองประเทศเป็นปัจจัยที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศมีความมั่นคงและพัฒนาคืบหน้าต่อไป
๑.๓ กล่าวเน้นว่า ภายใต้การนำของผู้นำทั้งสองประเทศ การพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหรัฐฯ ได้ประสบความสำเร็จที่สำคัญ ขณะนี้การพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศกำลังอยู่ในช่วงที่สำคัญมาก ทั้งสองฝ่ายควรปฏิบัติตามข้อตกลงของผู้นำสองประเทศ โดยหันหน้าเข้าหากัน เคารพซึ่งกันและกัน และร่วมมือกันใช้ความพยายาม เพื่อขับเคลื่อนให้การพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเป็นไปอย่างมั่นคงและราบรื่น
๒. ท่าทีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ
๒.๑ กล่าวขอบคุณ และฝากนายหลิว เฮ่อส่งความปรารถนาดีของประธานาธิบดีสหรัฐฯ และภริยาถึงประธานาธิบดี สี จิ้นผิงและภริยา
๒.๒ ได้กล่าวตอบผู้แทนฝ่ายจีนว่า การที่สหรัฐฯ-จีนรักษาความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจการค้าที่ดีนั้นมีความสำคัญยิ่ง การพัฒนาเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และจีนต่างมีแนวโน้มที่ดี ตลาดของทั้งสองประเทศมีศักยภาพมาก การดำเนินความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้าของทั้งสองประเทศมีอนาคตกว้างไกล รวมทั้งหวังว่า คณะทำงานด้านเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศจะร่วมมือกันใช้ความพยายาม เร่งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและการค้าที่มีอยู่ สหรัฐฯ และจีนควรเสริมความร่วมมือด้านการค้า การลงทุนในภาคพลังงานและการผลิต ขยายการค้าและการอนุมัติเข้าตลาดของสินค้าเกษตร ตลอดจนเสริมการคุ้มครองสิทธิทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อทำประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมแก่ประชาชนของทั้งสองประเทศ
๒.๓ ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวเน้นว่า โดยส่วนตัวแล้วได้ถนอมความสัมพันธ์อันดีกับนายสี จิ้นผิง ทั้งในฐานะผู้นำประเทศ และมิตรภาพส่วนตัว และยินดีแลกเปลี่ยนกับนายสี จิ้นผิงอย่างใกล้ชิดต่อไป เพื่อร่วมมือกันขับเคลื่อนการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ
๓. ข้อสังเกต ก่อนหน้าพบกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายหลิว เฮ่อ ผู้แทนฝ่ายจีนได้พบกับนายเฮนรี่ คิสซิงเจอร์ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ และสมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ หลายคน เมื่อวันที่ ๑๖ พ.ค.๖๑ ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
๓.๑ นายหลิว เฮ่อ กล่าวถึง การพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประสบความสำเร็จที่สำคัญ รวมทั้งการมาเยือนสหรัฐฯ ในครั้งนี้เป็นไปตามข้อตกลงของผู้นำทั้งสองประเทศ โดยจะแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในระดับลึกกับสหรัฐฯในประเด็นความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาที่เหมาะสม ตลอดจนสนับสนุนให้ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างสองประเทศพัฒนาต่อไปอย่างเป็นปกติ
๓.๒ ส่วนนายเฮนรี่ คิสซิงเจอร์ กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหรัฐฯ ว่ามีความสำคัญยิ่ง เพราะเกี่ยวพันถึงสันติภาพ และความเจริญรุ่งเรืองของโลก การจัดการปัญหาต่างๆ ในความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหรัฐฯ ต้องใช้แนวคิดยุทธศาสตร์ และมีวิสัยทัศน์ยาวไกล ทั้งสองประเทศต้องเสริมการแลกเปลี่ยนทางยุทธศาสตร์ เพิ่มประโยชน์ร่วมกันอย่างต่อเนื่อง ควบคุมข้อขัดแย้งต่างๆ อย่างเหมาะสม ในขณะเดียวกัน ต้องแสดงบทบาทชี้นำในการจัดการปัญหาระดับภูมิภาคและระดับโลก
บทสรุป
การเยือนสหรัฐฯ ของนายหลิว เฮ่อ ในครั้งนี้ ประสบความสำเร็จอย่างดียิ่งจากการประชุมปรึกษาหารือเศรษฐกิจการค้า โดยสหรัฐฯ และจีน ได้ประกาศแถลงการณ์ร่วมเมื่อวันที่ ๑๙ พ.ค.๖๑ ที่จะไม่ทำสงครามการค้าต่อกัน (ซึ่งจะนำเสนอข้อมูลต่อในวันพรุ่งนี้) ในขณะที่นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีนที่อยู่ระหว่างเยือนฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่กรุงปารีส เมื่อวันที่ ๑๖ พ.ค.๖๑ เกี่ยวกับสถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีว่า สหรัฐฯ ควรทะนุถนอมโอกาสความมีสันติภาพที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ไม่ใช่เดินสวนทางกัน หลังจากที่กองทัพสหรัฐฯ ได้เปิดการซ้อมรบร่วมกับกองทัพเกาหลีใต้ ภายใต้รหัส แม็กซ์ ธันเดอร์ (Max Thunder) เมื่อวันศุกร์ที่ ๑๑ พ.ค.๖๑ จนทำให้เกาหลีเหนือประกาศยกเลิกการประชุมระดับสูงกับผู้แทนเกาหลีใต้ในวันพุธที่ ๑๖ พ.ค.๖๑ และส่งผลให้แผนการประชุมสุดยอดระหว่างนายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่มีกำหนดจัดขึ้นที่ประเทศสิงคโปร์ในวันที่ ๑๒ มิ.ย.๖๑ อยู่บนความไม่แน่นอน
ประมวลโดย : พันเอกไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
ข้อมูลจากเว็บไซต์
http://thai.cri.cn/247/2018/05/18/223s267230.htm
http://thai.cri.cn/247/2018/05/17/223s267205.htm
http://thai.cri.cn/247/2018/05/17/223s267208.htm
http://thai.cri.cn/247/2018/05/16/63s267171.htm
http://thai.cri.cn/247/2018/05/14/223s267115.htm