แนวคิดของแจ๊ค หม่า ต่อกรณีสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ กับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
๑. แจ็ค หม่า ผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มอาลีบาบา กล่าวในการประชุมนักลงทุนประจำปีของบริษัทเทคโนโลยีจีน ในเมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง เมื่อวันอังคารที่ ๑๘ ก.ย.๖๑ ว่าสงครามการค้าระหว่างจีน - สหรัฐฯ คงยืดเยื้อเป็นเวลา ๒๐ ปี ซึ่งการคาดการณ์ของแจ็ค หม่า เกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศว่าจะมีการเรียกเก็บภาษีจากการนำเข้าของจีนมูลค่า ๒๐๐,๐๐๐ ล้านเหรียญสหรัฐ และรัฐบาลจีนตอบโต้ด้วยการกำหนดภาษี มูลค่าประมาณ ๖๐,๐๐๐ ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยแจ็ค หม่า ได้กล่าวถึงการพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตว่า ข้อพิพาททางการค้าในปัจจุบันระหว่างสองฝ่ายมุ่งเน้นไปที่การผลิตแบบเดิม ๆ ขณะที่อุตสาหกรรมการผลิตในอนาคตจะเป็น 'Made In Internet และการค้าจะไม่เป็นเรื่องตู้คอนเทนเนอร์ แต่เป็นชิ้น ๆ ของบรรจุภัณฑ์ ดังนั้น กฎการค้าใหม่เป็นสิ่งจำเป็น และในระยะยาวสงครามการค้าแบบดั้งเดิมจะไม่มีอีกแล้ว
๒. วิสัยทัศน์ของ แจ็ค หม่าต่อการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น
๒.๑ ขณะที่ความตึงเครียดทางการค้าอาจส่งผลกระทบต่อบริษัทจีนและบริษัทต่างชาติในทันทีและในทางลบ ดังนั้น แจ็ค หม่า จึงเรียกร้องให้ผู้ประกอบการเตรียมตัวสำหรับความขัดแย้งกันซึ่งน่าจะกินเวลาราว ๒๐ ปีเนื่องจากเป็นปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขได้ภายในสองเดือนหรือสองปี ซึ่งทุกบริษัทที่ยิ่งใหญ่ มีประสบการณ์เผชิญวงจรพิบัติตามฤดูกาล และด้วยภัยวิกฤตแบบนี้ จึงจะพิสูจน์ความเป็นบริษัทที่ยิ่งใหญ่จริงได้ โดยเมื่อปีที่แล้ว แจ็ค หม่า ได้พบกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ และสัญญาว่าจะสร้างงานในสหรัฐฯ นับล้าน ๆ แห่งที่เชื่อมโยงกับธุรกิจขนาดเล็กที่ขายสินค้าบนแพลตฟอร์มอาลีบาบา ซึ่งข้อเสนอนี้มีพื้นฐานอยู่บนสมมติฐานของการค้าทวิภาคีที่มีเหตุผลและเป็นไปตามวัตถุประสงค์ อันหมายความว่า ในสภาพการณ์แบบนี้ ไม่มีทางที่จะปฏิบัติตามคำสัญญานี้ได้ แต่อย่างไรก็ตาม แจ็ค หม่า จะยังคงพยายามอย่างหนักเพื่อส่งเสริมการพัฒนาบรรยากาศทางการค้าจีน – สหรัฐฯ ต่อไป
๒.๒ แจ๊ค หม่า ได้กล่าวปาฐกถาในการประชุมประจำปีครั้งที่ ๙ ของอาลีบาบา กรุ๊ป เมื่อวันพุธที่ ๑๙ ก.ย.๖๑ โดยมุ่งประเด็นไปที่การผลิตแบบใหม่และชี้ว่า ในช่วง ๑๐ – ๑๕ ปีจากนี้ไป ภาคการผลิตทั้งหมดจะเผชิญความยากลำบากมากอย่างที่มิใครอาจจินตนาการถึง พวกเราต้องตระเตรียมด้านความคิดอย่างพียงพอ บางคนถึงกับบอกว่าการผลิตแบบเก่ากำลังตาย แต่ส่วนตัวของแจ็ค หม่า ยังเชื่อว่าการผลิตไม่มีวันสูญสิ้น มีเพียงการผลิตที่ล้าหลังเท่านั้นที่จะอยู่ไม่ได้ ทั้งนี้ เนื่องจากในการผลิตแบบเก่าขึ้นกับอิเลคทรอนิกส์ เป็นรูปแบบที่ใช้ทรัพยากรสิ้นเปลืองมาก ส่วนการผลิตแบบใหม่ขึ้นกับดาต้า ภาคการผลิตที่จะประสบความสำเร็จในอนาคตจะใช้ประโยชน์จากอินเทอร์เน็ต ผู้ประกอบการในภาคการผลิตใหม่จะเป็น Big Data จะเป็น Cloud อย่างแน่นอน และการผลิตใหม่จะเปลี่ยนโฉมใหม่ตลาดผู้บริโภค เปลี่ยนโฉมใหม่ห่วงโห่ซับพลาย เปลี่ยนแปลงการดำเนินกิจการและการบริการของภาคการค้าและภาคผลิต นี่คือการปฏิวัติด้านเทคโนโลยีอีกครั้ง
๒.๓ สงครามการค้าโลกจากความขัดแย้งทางการค้า เกิดจากการปฏิวัติเทคโนโลยีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในกระบวนการเติบโตของจีนและสหรัฐฯ การพัฒนาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯที่ยาวนานถึง ๓๐ – ๔๐ ปี ขยายใหญ่มาถึงขนาดนี้ หากไม่มีความขัดแย้งก็เป็นเรื่องที่ผิดปกติ เมื่อเกิดความขัดแย้งขึ้นก็จะยืดเยื้อยาวนาน ซึ่งไม่มีผู้ประกอบรายใดที่ไม่เคยผ่านวิกฤตปัญหา ท่ามกลางความขัดแย้งทางการค้าจะทำให้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กเดือดร้อนกันมาก แต่ในยามวิกฤตนี้เอง จะมีผู้ประกอบกลุ่มหนึ่งหันมาหาความคิดใหม่ แนวคิดใหม่ เกิดกลุ่มผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ
๓. ข้อสังเกต สำหรับการประชุมประจำปีและการแสดงสินค้าเทคโนโลยีครั้งที่ ๙ ภายใต้หัวข้อ Empower Digital China ของอาลีบาบา ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑๙ – ๒๐ ก.ย.๖๑ ณ นครหางโจว ซึ่งเป็นเมืองเอกของมณฑลเจ้อเจียง และการปาถฐาของแจ็ค หม่า ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานกรรมการบริหารอาลีบาบาถือเป็นการปฐกถาครั้งสุดท้ายในฐานะประธานกรรมการบริหาร สืบเนื่องจาก แจ็ค หม่า ในวัย ๕๔ ปี ได้ประกาศแผนการปลดเกษียณตัวเองในอีก ๑๒ เดือนข้างหน้า คือในวันที่ ๑๐ ก.ย. ปี ๒๐๑๙ (พ.ศ.๒๕๖๒) โดยจะลงจากตำแหน่งประธานกรรมการบริหารบริษัท และแดเนียล จาง ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่ง CEO แห่งอาลีบาบา จะขึ้นมานั่งเก้าอี้แทน แจ็ค หม่า
บทสรุป
แจ็ค หม่า กล่าวถึงความเชื่อของในส่วนตัวเกี่ยวกับการเผชิญสงครามการค้าครั้งนี้ว่า ใครจะใหญ่จะกร่างก็ปล่อยเขาไปเถิด สงครามการค้าครั้งนี้ไม่อาจแก้ไขได้ภายในช่วงเวลาอันสั้น ๒ -๓ เดือน หรือ ๒ – ๓ ปี การตระเตรียมด้านความคิดระยะยาวถึง ๒๐ ปี ดังนั้น ต้องมุ่งมั่นจริงจังดูแลจัดการเรื่องของตัวเองให้ดี ในขณะที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ยังคงเปิดฉากสงครามการค้าโดยประกาศขึ้นภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีน เป็นมูลค่า ๒๐๐,๐๐๐ ล้านเหรียญสหรัฐ โดยจีนได้โต้ตอบอย่างรวดเร็วด้วยมาตรการภาษีเช่นกัน ด้วยการเพิ่มอัตราภาษีการค้าต่อสินค้าอเมริกัน มูลค่า ๖๐,๐๐๐ ล้านเหรียญสหรัฐ ดังนั้น ข้อคิดของแจ็ค หม่า เกี่ยวกับวิสัยทัศน์ต่อการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะต่อการปฏิวัติด้านเทคโนโลยี ที่จะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงการดำเนินกิจการและการบริการของภาคการค้าและภาคผลิต
ประมวลโดย : พันเอกไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
ข้อมูลจากเว็บไซต์
https://money.cnn.com/2018/09/18/technology/jack-ma-trade-war/index.html
https://mgronline.com/china/detail/9610000094442