จีนศึกษา วันจันทร์ที่ ๒๔ พ.ค.๖๔ ข้อเสนอ ๕ ข้อ ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในสุนทรพจน์ เรื่อง “ร่วมกันทำงานเพื่อสร้างประชาคมมนุษย์ด้านสุขภาพที่มีอนาคตร่วมกัน” (“携手共建人类卫生健康共同体——在全球健康峰会上的讲话”) จากการประชุมสุดยอดด้านสุขภาพโลกผ่านระบบทางไกล เมื่อวันที่ ๒๑ พ.ค.๖๔ ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
๑. ข้อแรก เราต้องถือประชาชนและชีวิตประชาชนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด การต้านโควิด-๑๙ นั้นเป็นสิ่งที่ทำเพื่อประชาชนและต้องพึ่งพาอาศัยประชาชน ภาคปฏิบัติพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าหากต้องการเอาชนะโรคระบาดอย่างสิ้นเชิงต้องเน้นความปลอดภัยในชีวิตและสุขภาพของประชาชน ต้องแสดงออกถึงความรับผิดชอบและความกล้าหาญทางการเมือง ตลอดจนใช้มาตรการพิเศษรับมือสิ่งท้าทายที่ไม่ธรรมดา นอกจากนี้ยังต้องใช้ความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อดูแลผู้ติดเชื้อทุกคนและช่วยชีวิตผู้ป่วยทุกราย ต้องเคารพคุณค่าและศักดิ์ศรีของมนุษย์ทุกคน ขณะเดียวกันต้องพยายามลดผลกระทบที่มีต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนและรักษาระเบียบสังคมโดยรวม
๒. ข้อที่สอง ต้องใช้นโยบายตามหลักวิทยาศาสตร์ ใช้มาตรการรับมืออย่างประสานกันและเป็นระบบ เมื่อเผชิญกับโรคระบาดใหม่นี้ เราต้องส่งเสริมสนับสนุนเจตนารมณ์ทางวิทยาศาสตร์ ใช้แนวทางที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของวิทยาศาสตร์และดำเนินการตามหลักวิทยาศาสตร์ การต่อสู้กับโควิด-๑๙ นั้นเป็นการสู้รบอย่างรอบด้านจึงต้องใช้มาตรการรับมืออย่างเป็นระบบโดยให้มีการประสานงานกันระหว่างการใช้มาตรการรับมือแบบอาศัยยารักษาโรคและไม่อาศัยยารักษาโรค มีการประสานงานกันระหว่างการใช้มาตรการเป็นประจำในการป้องกันควบคุมโรคอย่างตรงจุดและการรับมือเหตุฉุกเฉิน ทั้งยังมีการประสานงานกันระหว่างการป้องกัน ควบคุมโรคระบาด ตลอดจนการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจ สมาชิกกลุ่มประเทศ G20 ต้องใช้นโยบายเศรษฐกิจมหภาคที่มีความรับผิดชอบ เสริมการประสานงานกันเพื่อรักษาความปลอดภัยและความคล่องตัวของห่วงโซ่อุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทานโลก ต้องสนับสนุนประเทศกำลังพัฒนาโดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศเปราะบางที่กำลังเผชิญกับความยากลำบากมากด้วยวิธีการผ่อนชำระหนี้และให้การสนับสนุนด้านการพัฒนา
๓. ข้อที่สาม เราต้องร่วมแรงร่วมใจส่งเสริมความสามัคคีและความร่วมมือ การระบาดของโควิด-๑๙ ครั้งนี้เตือนเราอีกครั้งว่า มนุษย์มีอนาคตร่วมกัน เมื่อเผชิญกับโรคระบาด เช่น โควิด-๑๙ เราต้องยึดแนวคิดสร้างประชาคมมนุษย์ด้านสุขภาพ มีความสามัคคีและร่วมมือกัน ก้าวผ่านช่วงเวลาอันยากลำบากนี้ไปด้วยกัน ทั้งยังต้องคัดค้านความมุ่งหมายใดที่จะทำให้โรคระบาดกลายเป็นปัญหาทางการเมืองหรือใช้ตราหน้าและใส่ร้ายประเทศอื่นอย่างเด็ดเดี่ยว การเล่นเกมการเมืองไม่มีส่วนช่วยใดต่อการต้านโรคระบาดในประเทศ มีแต่จะสร้างความวุ่นวายแก่ความร่วมมือระหว่างประเทศในการต้านโรคระบาด ทั้งยังจะสร้างความเสียหายแก่ประชาชนประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกมากขึ้นด้วย
๔. ข้อที่สี่ เราต้องยึดหลักความเที่ยงธรรมและเสมอภาคเท่าเทียม ลดความเหลื่อมล้ำทางวัคซีน เมื่อหนึ่งปีก่อนข้าพเจ้าเสนอว่า วัคซีนต้องเป็นผลิตภัณฑ์สาธารณะของโลก แต่ทุกวันนี้ปัญหาความไม่สมดุลในการฉีดวัคซีนกลับโดดเด่นขึ้น เราต้องคัดค้านชาตินิยมด้านวัคซีน หาทางแก้ไขปัญหาความสามารถในการผลิตและปัญหาการแบ่งปันวัคซีนเพื่อให้ประเทศกำลังพัฒนาเข้าถึงและซื้อวัคซีนได้ ประเทศหลักในการพัฒนาและผลิตวัคซีนต้องแบกรับภาระหน้าที่ในการจัดหาวัคซีนมากขึ้นแก่ประเทศกำลังพัฒนาที่ต้องการอย่างเร่งด่วน สนับสนุนวิสาหกิจในประเทศร่วมวิจัยกับประเทศที่มีความสามารถในด้านที่เกี่ยวข้องและมอบหมายให้ทำการผลิต องค์กรการเงินพหุภาคีต้องให้การสนับสนุนด้านเงินทุนแบบเปิดกว้างแก่การจัดซื้อวัคซีนของประเทศกำลังพัฒนา ตลอดจนองค์การอนามัยโลกต้องเร่งขับเคลื่อนการดำเนินโครงการวัคซีนระดับโลก (COVAX)
๕. ข้อที่ห้า ยึดมั่นหลักการปรับปรุงแก้ไขทั้งภายในและภายนอก เพื่อให้ระบบบริหารจัดการสมบูรณ์ยิ่งขึ้น การแพร่ระบาดของโควิด-๑๙ ได้ทดสอบอย่างรวมศูนย์ต่อระบบบริหารจัดการด้านสาธารณสุขโลก ต้องส่งเสริมและแสดงบทบาทของสหประชาชาติและองค์การอนามัยโลกให้มากขึ้น ปรับปรุงระบบป้องกันและควบคุมโรคของโลกให้ดีขึ้น เพื่อป้องกันและรับมือโรคต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตให้ดีขึ้น ต้องยึดมั่นหลักการร่วมปรึกษาหารือ ร่วมพัฒนาสร้างสรรค์ และร่วมแบ่งปัน รับฟังความเห็นของประเทศกำลังพัฒนาอย่างเต็มที่ เพื่อสะท้อนความต้องการที่สมเหตุสมผลของประเทศกำลังพัฒนาให้ดีขึ้น ต้องเสริมทักษะการกำกับดูแล เตือนภัย และการรับมือภาวะฉุกเฉิน เสริมทักษะการรักษาพยาบาลและช่วยชีวิตในขณะเผชิญโรคร้ายแรง เสริมทักษะการสำรองวัสดุเพื่อรับมือภาวะฉุกเฉิน เสริมทักษะการมีหลักประกัน เสริมทักษะด้านการรับมือข้อมูลข่าวสารเท็จ และเสริมทักษะการสนับสนุนประเทศกำลังพัฒนา
บทสรุป
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เน้นย้ำว่า จีนจะให้ความช่วยเหลือระหว่างประเทศมูลค่า ๓,๐๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในอีก ๓ ปีข้างหน้า เพื่อสนับสนุนประเทศกำลังพัฒนาต้านโควิด-๑๙ รวมทั้งฟื้นการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม โดยจีนได้จัดหาวัคซีนโควิด-๑๙ แก่ทั่วโลกรวม ๓๐๐ ล้านโดสและจะส่งมอบวัคซีนมากขึ้นต่อไปอีก นอกจากนี้ จีนสนับสนุนธุรกิจผลิตวัคซีนจีนให้ถ่ายโอนเทคโนโลยีแก่ประเทศกำลังพัฒนาเพื่อร่วมกันดำเนินการผลิต โดยจีนได้ประกาศสนับสนุนการยกเว้นสิทธิบัตรวัคซีนโควิด-๑๙ รวมทั้งสนับสนุนองค์การการค้าโลกและองค์กรระหว่างประเทศทำข้อตกลงนี้โดยเร็ว ตลอดจนจีนริเริ่มเปิดฟอรั่มระหว่างประเทศเพื่อความร่วมมือในการผลิตวัคซีน เพื่อให้ประเทศ ธุรกิจ และฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยและพัฒนาวัคซีน ร่วมกันปรึกษาหารือเกี่ยวกับการผลักดันให้โลกจัดสรรวัคซีนอย่างสมเหตุสมผลและยุติธรรม
ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
https://www.mfa.gov.cn/web/zyxw/t1877663.shtml
และข้อมูลจากภาคภาษาไทย ศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุและโทรทัศน์ส่วนกลางแห่งประเทศจีน-CMG