bg-head-3

บทความ

จีนศึกษา วันจันทร์ที่ ๒๙ เม.ย.๖๒ : กรณีที่สำนักข่าวของจีนได้รายงานภารกิจของนายกรัฐมนตรีไทยในการพบปะหารือกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง และนายกรัฐมนตรี หลี่ เค่อเฉียง

กรณีที่สำนักข่าวของจีนได้รายงานภารกิจของนายกรัฐมนตรีไทยในการพบปะหารือกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง และนายกรัฐมนตรี หลี่ เค่อเฉียง ในระหว่างการประชุมฟอรั่มความร่วมมือระหว่างประเทศ “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” (BRF) ครั้งที่ ๒ ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

๑. สำนักข่าวซินหวา รายงานว่า เมื่อวันที่ ๒๖ เม.ย.๖๒ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง พบปะและหารือกับพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย ณ มหาศาลาประชาชนในกรุงปักกิ่ง ความว่า
        ๑.๑ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวว่า จีน-ไทยเป็นมิตรประเทศกันมาแต่โบราณ การร่วมสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศสนิทแน่นแฟ้นกันมากขึ้น จีนยังคงสนับสนุนไทยต่อไป ในการรักษาความมั่นคงภายในประเทศ และการขับเคลื่อนการพัฒนาของประเทศ นอกจากนี้ จีนยินดีที่จะส่งเสริมการประสานเชื่อมโยงด้านยุทธศาสตร์การพัฒนากับไทย สร้างสรรค์โครงการความร่วมมือรถไฟจีน-ไทย ระเบียงเศษฐกิจภาคตะวันออก ดำเนินความร่วมมือด้านนวัตกรรมด้วยดี สร้างสรรค์โครงการที่อำนวยประโยชน์แก่ประชาชน และส่งเสริมการพัฒนาความสัมพันธ์อันทรงพลังมากยิ่งขึ้น จีนยังคงสนับสนุนไทยในฐานะประเทศประธานหมุนเวียนอาเซียน ตลอดจนยินดีร่วมมือกับอาเซียนในการสร้าง “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” และประสานการเชื่อมโยงในภูมิภาค เพื่อสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันระหว่างจีน-อาเซียนที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
        ๑.๒ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวแสดงความยินดีที่จีนประสบความสำเร็จในการพัฒนาอย่างมากในช่วง ๗๐ ปี หลังการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน อีกทั้งยังชื่นชมจีนที่มีความสำเร็จด้านการเติบโตทางเศรษฐกิจ การลดความยากจน การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ยิ่งไปกว่านั้น ไทยยังให้ความสำคัญกับมิตรภาพระหว่างไทย-จีนที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ โดยไทยยินดีที่จะส่งเสริมการติดต่อระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูง ส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจการค้า เทคโนโลยีและด้านอื่น ๆ ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ช่วงเวลา ๖ ปี หลังประธานาธิบดีจีนเสนอข้อริเริ่ม “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” จีนได้ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งไทยก็ได้รับประโยชน์เช่นกันจากการก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐาน และการประสานเชื่อมโยงข้อมูลข่าวสาร ไทยยังคงสนับสนุนและร่วมมือกับ “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” ในฐานะประเทศประธานหมุนเวียนอาเซียน ตลอดจนยินดีส่งเสริมความร่วมมือระหว่างจีนและอาเซียนให้มีระดับที่สูงขึ้น

๒. สำนักข่าวซินหวา รายงานว่า เมื่อวันที่ ๒๖ เม.ย.๖๒ นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน ได้พบปะและหารือกับ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เรือนรับรองเตี้ยวอี๋ว์ไถ ในกรุงปักกิ่ง ความว่า
        ๒.๑ นายหลี่ เค่อเฉียง กล่าวว่า จีนสนับสนุนไทยให้เดินบนหนทางการพัฒนาที่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงของประเทศ อีกทั้งยินดีที่จะเสริมสร้างความเชื่อถือทางการเมืองกับไทย กระชับการไปมาหาสู่กันระหว่างผู้นำระดับสูง ดำเนินความร่วมมือเพื่อผลงานที่เป็นรูปธรรมอย่างลึกซึ้ง ยกระดับการเชื่อมโยงระหว่างข้อริเริ่ม “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” และยุทธศาสตร์การพัฒนาของไทย และผลักดันโครงการรถไฟจีน-ไทยให้เดินหน้าไปอย่างมีคุณภาพ นอกจากนี้ จีนยังสนับสนุนไทยที่ในฐานะประเทศประธานหมุนเวียนอาเซียน และยินดีที่เห็นไทยแสดงบทบาทสำคัญมากขึ้นในการกระชับความร่วมมือภายในภูมิภาค ตลอดจนพร้อมที่จะเพิ่มการประสานงานกับไทยเพื่อจัดการประชุมความร่วมมือเอเชียตะวันออกในปีนี้ และส่งเสริมความสัมพันธ์จีน-อาเซียนให้ก้าวไปสู่ระดับที่สูงขึ้น
        ๒.๒ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวว่า ไทยชื่นชมวิสัยทัศน์อันยาวไกลของผู้นำจีนเป็นอย่างสูง ซึ่งทำให้จีนบรรลุการพัฒนาแบบก้าวกระโดด ในด้านการพัฒนาความสัมพันธ์กับประเทศรอบข้าง จีนใช้ท่าทีสร้างสรรค์มาโดยตลอด นอกจากนี้ ข้อริเริ่ม “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” ยังมีส่วนช่วยส่งเสริมการพัฒนาในภูมิภาค โดยทุกฝ่ายยินดีที่จะแสดงบทบาทอย่างแข็งขันภายใต้กรอบ “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง”

บทสรุป

สื่อของจีนได้นำเสนอข่าว พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไทยในการเดินทางไปเข้าร่วมการประชุม BRF ครั้งที่ ๒ ที่กรุงปักกิ่งว่า นายกรัฐมนตรีไทยแสดงความชื่นชมข้อริเริ่ม “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” ที่เสนอโดยประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน รวมไปถึงความมั่นใจอันเด็ดเดี่ยวของรัฐบาลจีนในการเดินหน้าโครงการที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของจีนในการบรรลุการพัฒนาอย่างยั่งยืน และการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยอาศัยการยกระดับความร่วมมือระหว่างทวีปและการยกระดับการเชื่อมต่อระหว่างกัน นอกจากนี้ การที่จีนเชิญชวนประชาคมโลกให้ร่วมสร้าง “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” อย่างแข็งขัน โดยเน้นการร่วมหารือ ร่วมสร้างสรรค์และร่วมแบ่งปัน ทำให้ทุกฝ่ายที่มีส่วนร่วมรู้สึกว่า “ตนเองมีส่วนเป็นเจ้าของ” ขณะเดียวกัน ยังได้กำหนดกรอบความร่วมมือที่ยั่งยืน และนำเสนอแผนพหุภาคีที่จะร่วมรับมือกับความท้าทายที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในโลกปัจจุบัน

ประมวลโดย : พลตรีไชยสิทธิ์ ตันตยกุล

ข้อมูลจากเว็บไซต์

http://www.xinhuanet.com/english/asiapacific/2019-04/26/c_138013405.htm

http://thai.cri.cn/20190426/fade64d2-c9cc-de97-6cb8-faa04cba25bb.html 

http://www.xinhuanet.com/english/2019-04/26/c_138013522.htm 

http://thai.cri.cn/20190427/5e1158e2-c371-caa9-e2c5-64c0ffd2dc45.html 

http://thai.cri.cn/20190426/57113481-5fa4-e59f-32d9-e82f79af7486.html 

http://www.27c.net/n3/2019/0427/c90000-9572895.html