bg-head-3

บทความ

จีนศึกษา (วันจันทร์ที่ ๔ เม.ย.๖๕) ขอนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับนายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวจีน เมื่อวันที่ ๒๘ มี.ค.๖๕ หลังเข้าร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรีต่างประเทศขององค์การความร่วมมืออิสลามครั้งที่ ๔

จีนศึกษา (วันจันทร์ที่ ๔ เม.ย.๖๕) ขอนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับนายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวจีน เมื่อวันที่ ๒๘ มี.ค.๖๕ หลังเข้าร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรีต่างประเทศขององค์การความร่วมมืออิสลามครั้งที่ ๔๘ (伊斯兰合作组织外长理事会第四十八次会议) ที่กรุงอิสลามาบัด ประเทศปากีสถาน อีกทั้งเยือนประเทศปากีสถาน อัฟกานิสถาน​ อินเดีย และเนปาล​ ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

๑. การเดินทางเยือนเอเชียใต้ครั้งนี้ อยู่ในช่วงที่วิกฤตยูเครนมีผลกระทบแพร่หลายอย่างต่อเนื่อง สันติภาพและการพัฒนาของโลกเผชิญกับการท้าทายใหม่ ประเทศต่างๆ ในเอเชียใต้จึงปรารถนาที่จะรักษาสันติภาพและความสงบสุขของภูมิภาค เร่งรัดการฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยต่างให้ความสำคัญกับฐานะและบทบาทของจีน หวังจะส่งเสริมการแลกเปลี่ยนเชิงยุทธศาสตร์และส่งเสริมความร่วมมือที่อำนวยประโยชน์ต่อกันให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นกับประเทศจีน ดังนั้น การเยือนครั้งนี้เป็นการรวมมิตรภาพดั้งเดิมระหว่างจีนและประเทศในเอเชียใต้ เพิ่มความเข้าใจซึ่งกันและกัน ความไว้วางใจซึ่งกันและกันเชิงยุทธศาสตร์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ทั้งทิศทางและขอบเขตความร่วมมือในวงกว้างและการพัฒนาร่วมกันภายใต้สถานการณ์ใหม่ โดยจีนยินดีที่จะทำงานร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างแข็งขันในการดำเนินการตามมติที่สำคัญของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และผู้นำของประเทศต่างๆ ด้วยการปฏิบัติจริง สนับสนุนผลประโยชน์หลักของกันและกันรวมทั้งข้อกังวลหลัก ทำงานร่วมกันเพื่อส่งเสริมการพัฒนาและการฟื้นฟู รวมทั้งปรับปรุงการดำรงชีวิตของผู้คน ร่วมกันรักษาความมั่นคงและสภาพแวดล้อมการพัฒนาระดับภูมิภาค และประสานงาน ตอบสนองต่อความท้าทายของการเปลี่ยนแปลงระหว่างประเทศและเปิดกว้างขึ้นเพื่ออนาคตที่มั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองที่ดียิ่งขึ้นสำหรับภูมิภาค

๒. การที่รัฐมนตรีต่างประเทศจีนได้รับคำเชิญเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศองค์การความร่วมมืออิสลาม เป็นการสืบทอดประวัติศาสตร์ความเป็นมิตรที่ดีของสองฝ่าย ทั้งยังเป็นการแสดงความปรารถนาที่จะส่งเสริมความร่วมมือกันในอนาคตด้วย โดยจีนกับประเทศกลุ่มอิสลามได้บรรลุข้อตกลงสำคัญในหลายประเด็นในระหว่างการเยือนครั้งนี้ กล่าวคือ

๒.๑ รัฐบาลจีนและปากีสถาน รวมทั้งผู้นำทางทหารได้บรรลุข้อตกลงครั้งสำคัญครั้งใหม่ในการกระชับความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างทั้งสองประเทศภายใต้สถานการณ์ระหว่างประเทศและระดับภูมิภาคในปัจจุบัน จีนยินดีกับการมีส่วนร่วมอย่างลึกซึ้งของปากีสถานในรูปแบบการพัฒนาใหม่ของจีน ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะรวมโครงการขนส่งและโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของระเบียงเศรษฐกิจจีน-ปากีสถาน ขยายไปสู่สาขาที่กว้างขึ้น เช่น อุตสาหกรรม การเกษตร และดิจิทัล และส่งเสริมระเบียงเศรษฐกิจเพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ครอบคลุม ยั่งยืนและมีคุณภาพสูงมากขึ้น

๒.๒ ในการเยือนอัฟกานิสถาน นับเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลจีนส่งคณะผู้แทนระดับสูงไปเยือนอัฟกานิสถาน ภายหลังมีการก่อตั้งรัฐบาลชั่วคราวของอัฟกานิสถานขึ้น โดยมีเป้าหมาย ๓ ประการ ได้แก่ สืบทอดมิตรภาพของประชาชนสองประเทศ รับทราบสภาพการบริหารจัดการของรัฐบาลชั่วคราวอัฟกานิสถาน และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นโดยตรงกับอัฟกานิสถานเพื่อส่งเสริมความเข้าใจต่อกัน สร้างพื้นฐานความเชื่อถือกัน

๒.๓ ในการเยือนอินเดียนั้น ทั้งจีนและอินเดียเห็นพ้องกันต่อความสัมพันธ์ทวิภาคีจากมุมมองระยะยาว และสนับสนุนการพัฒนาของกันและกันด้วยแนวคิดแบบ win-win

๒.๔ ในการเยือนเนปาล ทำให้มีความเข้าใจและสนับสนุนซึ่งกันและกันอย่างมิตรภาพอันเป็นรากฐานของความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างทั้งสองประเทศ

 

บทสรุป นายหวัง อี้ เน้นว่า วิกฤตการณ์ในยูเครนเกิดขึ้นในยุโรป แต่ผลกระทบกระจายไปทั่วโลก​ สงครามและการคว่ำบาตรไม่ใช่ทางออกที่ดี​ประชาคมระหว่างประเทศควรมุ่งมั่นต่อสันติภาพและส่งเสริมการเจรจา โดยรักษาวัตถุประสงค์และหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติและปกป้องอธิปไตย ความเป็นอิสระ รวมทั้งบูรณภาพแห่งดินแดนของทุกประเทศ ในขณะเดียวกันก็ต้องมีการปฏิบัติที่เท่าเทียมกันในเรื่องนี้ และไม่ควรมีสองมาตรฐาน จำเป็นต้องสนับสนุนแนวคิดด้านความมั่นคงร่วมกัน อย่างรอบด้าน ตลอดจนการปกป้องสิทธิของทุกประเทศในการดำเนินนโยบายต่างประเทศที่เป็นอิสระ และต่อต้านแรงกดดันทางการเมือง รวมทั้งการเลือกข้างที่ถูกบังคับ อีกทั้งต่อต้านการเผชิญหน้าของค่ายและความวุ่นวาย โดยเอเชียปฏิเสธที่จะเป็นกระดานหมากรุกสำหรับมหาอำนาจที่จะเผชิญหน้ากัน และประเทศในเอเชียไม่เคยเป็นเบี้ยของมหาอำนาจที่จะเผชิญหน้ากัน

ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
( ข้อมูลจากเว็บไซต์ http://cn.chinadaily.com.cn/a/202203/29/WS62425d97a3101c3ee7acdd2f.html )