bg-head-3

บทความ

จีนศึกษา วันจันทร์ที่ ๙ มี.ค.๖๓ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ที่เน้นถึงการทำให้ประชาชนในเขตชนบททั้งหมดหลุดพ้นจากความยากจนภายในปี ๒๐๒๐

จีนศึกษา วันจันทร์ที่ ๙ มี.ค.๖๓ ขอนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ที่เน้นถึงการทำให้ประชาชนในเขตชนบททั้งหมดหลุดพ้นจากความยากจนภายในปี ๒๐๒๐ (พ.ศ.๒๕๖๓) รวมไปถึงต้องขจัดผลกระทบจากโควิด-๑๙ ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

๑. ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวเน้นย้ำในที่ประชุมเสวนาเพื่อเอาชนะความยากจน เมื่อวันที่ ๖ มี.ค.๖๓ ณ กรุงปักกิ่งว่า การทำให้ประชาชนในเขตชนบททั้งหมดพ้นจากความยากจนตามมาตรฐานที่ดำเนินอยู่ในปัจจุบันภายในปี ๒๐๒๐ (พ.ศ.๒๕๖๓) ซึ่งถือเป็นสัญญาของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่มีต่อประชาชน และต้องเกิดผลเป็นรูปธรรมตามเวลาที่กำหนด รวมไปถึงต้องขจัดผลกระทบจากโควิด-๑๙ เพื่อเอาชนะการต่อสู้ความยากจนอย่างรอบด้าน ทั้งนี้ จีนประสบความสำเร็จในการต่อสู้กับความยากจน โดยได้ลดจำนวนประชากรยากจนจาก ๙๘,๙๙๐,๐๐๐ คน เมื่อปลายปี ๒๐๑๒ (พ.ศ.๒๕๕๕) เหลือ ๕,๕๑๐,๐๐๐ คน ภายในสิ้นปี ๒๐๑๙ (พ.ศ.๒๕๖๒) ทำให้สัดส่วนประชากรยากจนได้ลดลงจาก ๑๐.๒% เหลือ ๐.๖% และสามารถขจัดความยากจนในพื้นที่ต่างๆ อย่างครอบคลุมในขั้นพื้นฐาน อันแสดงให้เห็นถึงศักยภาพทางการเมืองภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์จีนและระบบสังคมนิยมแบบอัตลักษณ์ของจีน

๒. แนวทางการดำเนินการต่อเนื่องของจีนจากปี ๒๐๑๙ (พ.ศ.๒๕๖๒)  
     ๒.๑ ในการประชุมงานด้านเศรษฐกิจส่วนกลางของจีน เมื่อกลางเดือน ธค.๖๒ ได้มีการประกาศเน้นย้ำว่า ปี ๒๐๒๐ จีนต้องบรรลุงานขจัดความยากจนอย่างรอบด้านตามเวลาที่กำหนดไว้ โดยการวางนโยบายและเงินทุนให้น้ำหนักไปยังพื้นที่ยากจนอันได้แก่ เขตปกครองตนเองทิเบต, ๔  แคว้นที่อยู่ทางภาคใต้ของเขตปกครองตนเองซินเจียง, ชุมชนชาวทิเบตในมณฑลเสฉวน หยุนหนาน(ยูนนาน) กานซู่ ชิงไห่ และแคว้นปกครองตนเองชนเผ่าหุยหลินเซี่ย มณฑลกานซู่, แคว้นปกครองตนเองชนเผ่าอี๋เหลียงซาน มณฑลเสฉวน, และแคว้นปกครองตนเองชนเผ่าลีซูนู่เจียง มณฑลหยุนหนาน (ยูนนาน) ซึ่งถือเป็นพื้นที่ยากจนที่สุดของจีน อีกทั้งยังต้องดำเนินมาตรการขจัดความยากจนด้วยรูปแบบการพัฒนาอุตสาหกรรมและย้ายที่อยู่อาศัยจากถิ่นทุรกันดารอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งควบคุมมาตรฐานของประชาชนที่พ้นจากความยากจน ทำให้ผลสำเร็จด้านการขจัดความยากจนที่มีอยู่แล้วดำเนินต่อไป นอกจากนี้ ต้องสร้างระบบเพื่อติดตามและช่วยเหลือประชาชนที่พ้นจากความยากจนแล้ว เพื่อไม่ให้กลับมายากจนอีก รวมถึงประชาชนผู้ยากจนรายใหม่
     ๒.๒ ดำเนินโครงการลดความยากจนด้วยอีคอมเมิร์ซ โดยให้ครอบคลุมทุกอำเภอที่ยากจน และการขจัดความยากจนให้ดำเนินไปอย่างมีผลสำเร็จ ซึ่งมีกระทรวงพาณิชย์จีนเป็นหน่วยงานรับผิดชอบ ทั้งนี้ ได้มีบริษัทจำนวน ๒๑ แห่งติดต่อกับอำเภอที่ยากจนกว่า ๖๐๐ อำเภอ ด้วยการขยายช่องทางช่วยขจัดความยากจน และให้บริการประชากรผู้ยากจนกว่า ๑๐ ล้านคน ทำให้มีประชากรกว่า ๓ ล้านคนสามารถมีรายได้เพิ่มขึ้น รวมถึงการให้ความช่วยเหลือต่อเนื่องภายหลังจากการย้ายถิ่นฐาน (Poverty alleviation) เพื่อให้อำเภอที่ยากจนหลุดพ้นจากความยากจนตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ ด้วยการประกันชีวิตความเป็นอยู่ขั้นพื้นฐานของประชากรที่ยากจนแบบพิเศษ
     ๒.๓ ในการประชุมคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน เมื่อวันที่ ๕ ก.พ.๖๓ คณะรัฐมนตรีจีนได้ประกาศเอกสารหมายเลข ๑ ว่าด้วยการทำงานด้านการเกษตร ชนบทและเกษตรกรให้ดี เพื่อบรรลุสังคมพอกินพอใช้อย่างรอบด้านตามเวลาที่กำหนดไว้ โดยต้องยืนหยัดขจัดความยากจนอย่างตรงจุด ต้องคุ้มครองเรื่องการศึกษาภาคบังคับ การรักษาพยาบาลขั้นพื้นฐานและการมีที่อยู่อาศัย รวมถึงแก้ไขปัญหาความปลอดภัยของน้ำดื่มน้ำใช้อีกด้วย
     ๒.๔ คณะกรรมการการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน ได้ประกาศเมื่อวันที่ ๓ มี.ค.๖๓ ว่า จนถึงปัจจุบัน จีนได้ทำการอพยพประชากรเขตยากจนจำนวน ๙.๓ ล้านคนไปยังที่อยู่ใหม่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ ระหว่างช่วงแผนพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจระยะ ๕ ปี ฉบับที่ ๑๓ จีนมีโครงการช่วยเหลือผู้ยากจนในเขตทุรกันดารที่ไม่เหมาะกับการใช้ชีวิต ให้โยกย้ายถิ่นที่อยู่อาศัย ซึ่งครอบคลุมถึงประชากรประมาณ ๑๐ ล้านคน โดยจีนได้สร้างเขตที่พักใหม่เป็นจำนวนรวม ๓๙,๐๐๐ แห่ง ซึ่งรวมถึงเขตที่พักขนาดใหญ่เกือบ ๕๐ แห่ง และบ้านพักกว่า ๒.๖ ล้านหลัง

บทสรุป

 
การที่จะบรรลุเป้าหมายในการทำให้ประชาชนในเขตชนบททั้งหมดหลุดพ้นจากความยากจนได้นั้น รัฐบาลจีนได้มุ่งปรับปรุงสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานและการบริการที่ขาดแคลนในชนบทให้ดีตามมาตรฐานสังคมพอกินพอใช้อย่างรอบด้าน โดยตอบสนองความต้องการด้านผลิตผลทางการเกษตร และส่งเสริมการเพิ่มรายได้อย่างต่อเนื่องของเกษตรกร รวมทั้งส่งเสริมการบริหารจัดการขั้นพื้นฐานในชนบท และใช้มาตรการชดเชยสิ่งที่ขาดแคลนในชนบท ฯลฯ ในขณะที่สถานการณ์ของจีนในปีนี้ ยังต้องเผชิญหน้ากับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ ที่เป็นแรงกดดันต่อการรักษาอัตราเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน ซึ่งเหตุการณ์ฉุกเฉินในครั้งนี้ ได้สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาที่ล่อแหลมโดยเฉพาะในภาคการเกษตร พื้นที่ชนบทและเกษตรกร ที่ต้องมีการปรับปรุงการบริการในชนบทให้ดี ด้วยการยกระดับการสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานในชนบท

ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล

ข้อมูลจากเว็บไซต์