กรณีที่จีนติดตั้งระบบ “สกายเน็ต”(Skynet) ใน ๑๖ เมือง ทำให้สามารถช่วยตำรวจตามจับคนร้ายได้โดยผ่านเทคโนโลยีรู้จำใบหน้า (Facial-recognition technology) ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
๑. รัฐบาลจีนได้นำกล้องวงจรปิดประสานเข้ากับเทคโนโลยีการตรวจจับ และรู้จำใบหน้าแบบอัตโนมัติ จนกลายเป็นระบบ “สกายเน็ต”เพื่อช่วยหน่วยงานรักษาความปลอดภัยสาธารณะทำงานได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นโดบในรายงานระบุว่า ระบบสกายเน็ตสามารถตรวจหาผู้ต้องสงสัยและบุคคลสูญหายได้จากภาพของกล้องวงจรปิดตามท้องถนน โดยสามารถวิเคราะห์ภาพใบหน้าได้ ๔๐ ลักษณะได้อย่างไม่จำกัดมุมมองและแสงสว่าง ซึ่งมีความแม่นยำสูงถึงร้อยละ ๙๙.๘ ปัจจุบันได้รับการติดตั้งตามเมืองต่างๆ จำนวน ๑๖ แห่งแล้ว
๒. ระบบกล้องอัจฉริยะนี้สามารถแสกนใบหน้า และเปรียบเทียบกับฐานข้อมูลอาชญากรขนาดใหญ่ของจีนได้ด้วยความเร็ว ๓,๐๐๐ ล้านคนต่อวินาที ซึ่งแปลว่าสามารถเปรียบเทียบกับฐานข้อมูลชาวจีนทั้งประเทศได้ในวินาทีเดียว ซึ่งในช่วง ๒ ปีที่ผ่านมา ระบบสกายเน็ตได้ช่วยให้ตำรวจตามจับคนร้ายได้มากถึง ๒,๐๐๐ ราย และในปีที่ผ่านมา ระบบสกายเน็ตได้ช่วยให้ตำรวจตามหาเด็กหญิงวัย ๖ ปีที่พลัดหลงไปได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้รูปถ่ายซึ่งถ่ายไว้หลายปีแล้วเพียงใบเดียวเท่านั้น
๓. ผลงานที่สำคัญของระบบ “สกายเน็ต” ในประเทศจีน ซึ่งเมื่อต้นเดือน มี.ค.๖๑ ที่ผ่านมา ในการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติและการประชุมสภาที่ปรึกษาการเมืองแห่งประชาชนจีน ณ มหาศาลาประชาชน กรุงปักกิ่ง รัฐบาลจีนก็ได้ใช้เทคโนโลยีสกายเน็ตในการรักษาความปลอดภัย โดยคณะผู้แทนและแขกที่จะร่วมประชุมจะต้องเดินผ่านกล้องตรวจจับใบหน้าที่ได้รับการปรับปรุงให้สามารถจับภาพ วิเคราะห์และเปรียบเทียบกับใบหน้าผู้ต้องสงสัยได้ภายในเวลา ๒ วินาที ด้วยระบบสกายเน็ตที่มีฐานข้อมูลผู้ถูกขึ้นบัญชีดำเป็นรายบุคคล
บทสรุป
ขณะที่รัฐบาลจีนจะเดินหน้าพัฒนา "ระบบสกายเน็ต เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของหน่วยงานความมั่นคงสาธารณะนั้น รัฐบาลสิงคโปร์ก็ใช้ "ระบบสกายเน็ต" เป็นระบบเครือข่ายจับความเคลื่อนไหวรถทุกคันในแบบนาทีต่อนาที เพื่อปรับปรุงการจราจรในการเรียกเก็บเงินค่าผ่านทาง (Electronic Road Pricing : ERP) โดยใช้เทคโนโลยีที่สามารถระบุตำแหน่งด้วยดาวเทียมในการชี้ตำแหน่งที่ถูกต้องแม่นยำของยวดยานพาหนะ และคำนวนหาระยะทางในการเดินทางตามสภาพที่เป็นจริง จึงอาจกล่าวได้ว่า "ระบบสกายเน็ต" มีประโยชน์ต่อการพัฒนาระบบความมั่นคงให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ประมวลโดย : พันเอกไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
ข้อมูลจากเว็บไซต์
https://www.businessinsider.com.au/china-facial-recognition-technology-works-in-one-second-2018-3
https://mgronline.com/china/detail/9610000032190
https://www.blognone.com/node/68299