bg-head-3

บทความ

จีนศึกษา วันพฤหัสบดีที่ ๑๙ ก.ค.๖๑ : ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง และนายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน ได้พบปะและเข้าร่วมการเจรจาผู้นำจีน-สหภาพยุโรป

ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง และนายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน ได้พบปะกับนายโดนัลด์ ฟรันต์ซีเชก ตุสก์ (Donald Franciszek Tusk) ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป และนาย ฌอง โคลด จุงเกอร์ (Jean-Claude Juncker) ประธานคณะกรรมการสหภาพยุโรปที่เดินทางเข้าร่วมการเจรจาผู้นำจีน-สหภาพยุโรป ครั้งที่ ๒๐ เมื่อวันที่ ๑๖ ก.ค.๖๑ ณ กรุงปักกิ่ง ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

๑. ท่าทีในการพบปะหาระหว่างประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กับนาย โดนัลด์ ฟรันต์ซีเชตุสก์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป และนาย ฌอง โคลด จุงเกอร์ ประธานคณะกรรมการสหภาพยุโรป
        ๑.๑ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวว่า จีนกับสหภาพยุโรปต่างเป็นผู้พัฒนาสันติภาพของโลก สร้างคุณูปการต่อการพัฒนาของทั่วโลก ผู้รักษาระเบียบสากล จีนยินดีอยู่บนพื้นฐานเคารพซึ่งกันและกัน ยุติธรรมเที่ยงธรรม ร่วมมือกันเพื่อได้รับประโยชน์ทั้งสองฝ่าย และยังพยายามผลักดันความสัมพันธ์หุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ในทุกด้าน ระหว่างจีนกับยุโรปให้ก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น ส่งเสริมการพัฒนาของสังคมเศรษฐกิจ และสร้างความผาสุกแก่ประชาชนทั้งสองฝ่าย
        ๑.๒ ส่วนนายโดนัลด์ ฟรันต์ซีเชก ตุสก์ และนาย ฌอง โคลด จุงเกอร์ กล่าวว่า ความร่วมมือหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ในทุกด้านระหว่างยุโรปกับจีนมีความหมายสำคัญอย่างยิ่ง สหภาพยุโรปขอบคุณจีนที่สนับสนุนกระบวนการรวมยุโรปเป็นหนึ่งเดียวกัน ยินดีร่วมมือกับจีนขยายความร่วมมือในด้านต่างๆ กระชับการติดต่อประสานงานในกิจการระหว่างประเทศให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น สหภาพยุโรปกับจีนต่างใช้ความพยายามพัฒนาระบอบพหุภาคี รักษาระเบียบสากลที่มีกฎเกณฑ์เป็นพื้นฐาน จัดการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ให้อยู่บนพื้นฐานเคารพซึ่งกันและกัน ใช้การปรึกษาหารือแบบพหุภาคีเพื่อปรับปรุงระบบการค้าแบบพหุภาคี

๒. ท่าทีของนายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีนกับประธานคณะกรรมาธิการยุโรป และประธานคณะกรรมการสหภาพยุโรป ที่ได้ร่วมกันให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวที่มหาศาลาประชาชน ณ กรุงปักกิ่ง
        ๒.๑ ทั้งสองฝ่ายได้ชื่นชมการเจรจาร่วมกัน ที่ได้แสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์ทางการเมืองระหว่างจีนกับสหภาพยุโรป หวังที่จะกระชับความสัมพันธ์หุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ในทุกด้านให้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งการกำหนดทิศทางร่วมกันในขั้นตอนต่อไป
        ๒.๒ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องต้องกันว่า ภายใต้สถานการณ์ระหว่างประเทศในปัจจุบัน จีนกับยุโรปควรส่งเสริมการติดต่อและความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ รักษาระบอบพหุภาคี ผลักดันเศรษฐกิจไร้พรมแดนและอิสระในด้านการค้าและการลงทุนทั่วโลก ร่วมกันสร้างเศรษฐกิจโลกที่เปิดสู่ภายนอก ส่งเสริมสันติภาพ ความมั่นคงและการพัฒนาของโลก
        ๒.๓ ทั้งสองฝ่ายสนับสนุนความร่วมมือทางเศรษฐกิจ และการค้าระหว่างจีนกับยุโรปให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นทั้งสองฝ่ายยังบรรลุความเข้าใจร่วมกันอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับการส่งเสริมการติดต่อเชื่อมโยงกัน การไปมาหาสู่กันระหว่างเจ้าหน้าที่ และการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม ตลอดจนความร่วมมือแบบพหุภาคี เป็นต้น

๓. ข้อสังเกต นับตั้งแต่ต้นปีนี้เป็นต้นมา สหรัฐฯ ได้ก่อสงครามการค้ากับสหภาพยุโรป แคนาดา อินเดีย และจีน โดยอ้างว่าเพื่อรักษาความมั่นคงของประเทศ ในขณะที่มีนักวิชาการจีนได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า สงครามการค้าไม่เพียงแต่ทำให้สหรัฐฯ สูญเสียพันธมิตร แต่ยังทำให้ภาพลักษณ์ของสหรัฐฯ เสียอีกด้วย ทั้งนี้ การที่สหรัฐฯ ยังเป็นประเทศทรงอิทธิพลของโลกใน ๒ เสาหลัก โดยเสาหลักที่หนึ่งคือ ศักยภาพของประเทศยิ่งใหญ่ อิทธิพลด้านเทคโนโลยี การทหารและวัฒนธรรมอยู่อันดับหนึ่งของโลก ส่วนเสาหลักที่สองคือ เครือข่ายประเทศพันธมิตร แต่สงครามการค้าครั้งนี้ทำให้ประเทศต่างๆ เกิดความไม่เชื่อใจต่อสหรัฐฯ นอกจากนี้ ประเทศยิ่งใหญ่รวมทั้ง เยอรมัน ฝรั่งเศส ต่างเห็นว่าเหตุการณ์นี้เป็นการทวนกระแสการพัฒนาของโลก ไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจโลก สำหรับสโลแกนที่ว่า “สหรัฐฯ ต้องมาก่อน” นั้น โดยมีข้อถกเถียงกันว่า แล้วประเทศอื่นๆ จะทำอย่างไรดี ที่จะไม่เป็นการปฏิบัติเพื่อประโยชน์ประเทศตนเอง ด้วยการทำลายประเทศอื่น

บทสรุป

ในขณะที่จีนได้คัดค้านต่อการที่สหรัฐฯ ซึ่งกำลังเร่งทำสงครามการค้าในระดับที่สูงขึ้นและเน้นการโต้กลับ โดยจีนจะยังคงผลักดันการเปิดตลาดต่อไป และจีนจะปฏิบัติภารกิจของตนเอง ในการแสวงหาการพัฒนาเศรษฐกิจในคุณภาพสูง เพื่อสนองความต้องการด้านชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนที่นับวันยิ่งเพิ่มสูงขึ้น ขณะเดียวกัน ยังได้แสดงบทบาทของประเทศใหญ่ที่มีความรับผิดชอบ พร้อมผลักดันการสร้างสรรค์ประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน โดยเฉพาะเมื่อเดือน ต.ค.๖๐ ในการประชุมสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ ๑๙ ได้มีการกำหนดแผนยุทธศาสตร์เกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติของจีนต่อสงครามทางการค้าที่สหรัฐฯ ก่อขึ้นในรอบนี้ โดยจีนได้เตรียมความพร้อมต่อสงครามการค้าครั้งนี้อย่างเต็มที่ และจีนยังคงมีความเชื่อมั่นว่า จะเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะได้ในที่สุด แม้ว่าจะต้องใช้ระยะเวลานาน และมีความยากลำบากก็ตาม

ประมวลโดย : พันเอกไชยสิทธิ์ ตันตยกุล

ข้อมูลจากเว็บไซต์

http://www.china-embassy.org/eng/zgyw/t1577726.htm

http://thai.cri.cn/247/2018/07/17/121s269065.htm

http://thai.cri.cn/247/2018/07/17/121s269063.htm

http://thai.cri.cn/247/2018/07/13/225s268964.htm

http://thai.cri.cn/247/2018/07/17/64s269076.htm

http://filipino.cri.cn/301/2018/07/17/2s157075.htm