bg-head-3

บทความ

จีนศึกษา วันพฤหัสบดีที่ ๑๙ ก.ย.๖๒ การใช้ระบบการ “สแกนใบหน้า” เพื่ออำนวยความสะดวกต่อการใช้ชีวิตประจำวันของคนจีน

ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

๑. นับตั้งแต่เดือน พ.ค.๖๒ เป็นต้นมา สถานสงเคราะห์ผู้สูงอายุ ๑๐ แห่งในเขตพื้นที่ถนนปาเจียว ณ กรุงปักกิ่ง ประสบความสำเร็จกับระบบการ “สแกนใบหน้า” เพื่อรับประทานอาหาร ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาของผู้สูงอายุที่มักจะลืมบัตร และมีรอยนิ้วมือไม่ชัดเจน รวมถึงปัญหาการตอบสนองของเครื่องอ่านข้อมูล ซึ่งเมื่อผ่านเทคโนโลยีชั้นสูงที่มีอยู่แล้วนั้น ทำให้ผู้สูงอายุสามารถสัมผัสเพลิดเพลินกับการบริการที่ชาญฉลาดและสะดวกสบาย จนถึงทุกวันนี้จะมีคนชราประมาณสองถึงสามร้อยคนไปรับประทานอาหารที่สถานสงเคราะห์ โดยเป็นที่เข้าใจว่า ผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า ๖๐ ปี ที่มีภูมิลำเนาที่อาศัยอยู่ในชุมชน หรืออาศัยอยู่ในชุมชนนี้เป็นเวลานานสามารถไปรับประทานอาหารที่สถานสงเคราะห์ได้

๒. เมื่อวันที่ ๑๗ ก.ค.๖๒ ร้านหนังสือซินหัวประกาศอย่างเป็นทางการ เกี่ยวกับการเข้าถึงระบบชำระเงินผ่านจือฟู่เป่าโดยการสแกนใบหน้า และต่อไปจะมีการเปิดตัวใช้งานในร้านหนังสือมากกว่า ๑๔,๐๐๐ แห่งในประเทศจีน ซึ่งมณฑลเจ้อเจียงนำมาใช้เป็นมณฑลแรก โดยเป็นที่เข้าใจกันว่า นี่เป็นความพยายามครั้งใหม่สำหรับความร่วมมือระหว่างจือฟู่เป่าและร้านหนังสือซินหัว ซึ่งในปัจจุบันระบบสแกนใบหน้าแมลงปอของจือฟู่เป่า ได้รับการติดตั้งและใช้งานในร้านหนังสือซินหัวเกือบ ๔๐ แห่งในมณฑลเจ้อเจียง

๓. เมื่อวันที่ ๑ ก.ย.๖๒ นักศึกษาใหม่ของวิทยาลัยวิศวกรรมเจียงซีในเมืองซินยวีกำลังรายงานตัวผ่านระบบการสแกนใบหน้าอัจฉริยะ โดยวิทยาลัยวิศวกรรมเจียงซีใช้เทคนิคใหม่ของเทคโนโลยีใหม่ อาทิ อินเทอร์เน็ต สมาร์ทคลาวด์ เป็นต้น เพื่อให้นักศึกษาใหม่ได้ผ่านขั้นตอนการขึ้นทะเบียนรายงานตัวได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย ในขณะที่นักศึกษาใหม่ทั้งหลายจะใช้เวลายืนอยู่หน้ากล้องเพียง ๕ วินาที ข้อมูลบัญชีรายชื่อที่เกี่ยวข้อง ข้อมูลชั้นเรียน ข้อมูลตัวเลขต่างๆ จะสามารถสร้างได้ทางออนไลน์ทั้งหมด และนักศึกษาสามารถใช้ APP Smart Campus ทางโทรศัพท์มือถือเพื่อขึ้นทะเบียนรายงานตัวและจ่ายค่าเล่าเรียนได้อีกด้วย

๔. นับตั้งแต่วันที่ ๑๕ ก.ย.๖๒ เป็นต้นมา ผู้โดยสารที่ลืมพกบัตรประชาชน สามารถเช็คอินขึ้นเครื่องบิน พร้อมฝากกระเป๋าเดินทางด้วยระบบสแกนใบหน้าได้ในท่าอากาศยาน ๒๐๓ แห่งของจีน ดังกรณีตัวอย่างที่ท่าอากาศยานผู่ตงนครเซี่ยงไฮ้ พบว่า การทำเช็คอินขึ้นเครื่องบินด้วยระบบการ “สแกนใบหน้า” โดยแบ่งเป็น ๓ ขั้นตอน คือ
        (๑) ผู้โดยสารต้องมีแอพลิเคชั่นทางวีแชตที่ชื่อ “การรับรองขึ้นเครื่องบินพลเรือนชั่วคราว”
        (๒) กรอกข้อมูลส่วนบุคคลตามขั้นตอน แล้วทำการสแกนใบหน้าเพื่อทำการยื่นเรื่อง จากนั้นภายใน ๖๐ วินาทีก็จะได้คิวอาร์โค๊ดเพื่อป้องกันการหลอกลวงทางอิเล็กทรอกนิกส์
        (๓) สแกนคิวอาร์โค๊ดดังกล่าวต่อหน้าเครื่องสแกนของ “ระบบการรับรองขึ้นเครื่องบินชั่วคราว” ก็สามารถทำการเช็คอินได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้ คิวอาร์โค๊ดดังกล่าวยังสามารถนำไปใช้ในการฝากกระเป๋าเดินทางได้ด้วย ซึ่งคิวอาร์โค๊ดดังกล่าวจะมีอายุใช้งาน ๑๕ วัน

บทสรุป
จนถึงขณะเวลานี้ ความเคลื่อนไหวในการชำระเงินผ่านระบบการ “สแกนใบหน้า” ของคนในสังคมจีนได้มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนอาจกล่าวได้ว่า วันที่ผู้คนจะออกจากประตูโดยไม่ต้องพกกระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์มือถือนั้น เริ่มใกล้เข้ามาทุกขณะแล้ว แม้กระทั่งเวลาที่ต้องการจะปลดทุกข์เป็นการส่วนตัวในห้องน้ำสาธารณะ ก็จะพบกับอุปกรณ์ “สแกนใบหน้า” เพื่อรับกระดาษที่ได้ถูกติดตั้งไว้ในห้องน้ำ โดยเมื่อประชาชนที่เข้ามาในห้องน้ำและได้ดำเนินการ “สแกนใบหน้า” เพียง ๓ วินาที เครื่องก็จะปล่อยกระดาษออกมาให้โดยอัตโนมัติ เป็นต้น

ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
ข้อมูลจาก
http://www.xinhuanet.com/english/2019-06/11/c_138134450.htm 
http://thai.cri.cn/20190628/a506a662-cc48-12d3-6b90-3ad01bfbb6b6.html 
http://thai.cri.cn/20190721/56578ad5-6cb6-a1c9-f7b2-3ab7c87849ca.html  

http://thai.cri.cn/20190720/15b29d41-e4d3-6093-7fd5-643a18827b54.html   
http://thai.cri.cn/20190917/2b2c1664-8edd-40d0-43c2-27d38d78a431.html 
http://thai.cri.cn/20190904/6776298c-4e8e-bf1d-781d-480e21b948de.html