นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีของจีน ได้พบกับนายเจรามี ฮันต์ ( Jeremy Hunt) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอังกฤษคนใหม่ ที่เดินทางมาเข้าร่วมการเจรจาทางยุทธศาสตร์ระหว่างจีน-อังกฤษ ครั้งที่ ๙ เมื่อวันที่ ๓๐ ก.ค.๖๑ ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
๑. ท่าทีในการพบปะและหารือระหว่างกัน
๑.๑ นายหลี่ เค่อเฉียง ได้ประเมินความคืบหน้าของความสัมพันธ์ระหว่างจีน-อังกฤษ และความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ระหว่างสองประเทศ โดยกล่าวว่า จีนจะสร้างบรรยากาศการประกอบธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น แก่วิสาหกิจต่างชาติในจีนซึ่งรวมถึงวิสาหกิจของอังกฤษในจีนด้วย และแสดงความคาดหวังว่า อังกฤษจะให้หลักประกันที่ดียิ่งขึ้นแก่วิสาหกิจจีน ที่ไปลงทุนในอังกฤษ
๑.๒ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษกล่าวว่า ยินดีที่ได้มีโอกาสเยือนจีนซึ่งเป็นประเทศแรกหลังจากเข้ารับตำแหน่ง อังกฤษกำลังรอคอยการพบปะเจรจาระหว่างนายกรัฐมนตรีอังกฤษ- จีนนัดใหม่ ซึ่งจะจัดขึ้นในปีหน้า และยินดีเพิ่มพูนความไว้วางใจทางการเมืองกับจีนให้ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น อีกทั้งจะส่งเสริมการเชื่อมต่อทางยุทธศาสตร์ระหว่างทั้งสองฝ่ายอีกด้วย
๒. ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ ๒๓ ก.ค.๖๑ นายเกิ่งส่วง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนได้แถลงข่าวที่กรุงปักกิ่ง ต่อกรณีการมาเยือนจีนอย่างเป็นทางการของนายเจเรมี ฮันท์ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ เพื่อร่วมการเจรจายุทธศาสตร์จีน-อังกฤษครั้งที่ ๙ ในวันที่ ๓๐ ก.ค.๖๑ โดยมีกำหนดการที่สำคัญในการพบกับนายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน และนายหยาง เจี๋ยฉือ กรรมการกรมการเมืองคณะกรรมการกลางพรรคฯ และผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกิจการต่างประเทศ คณะกรรมการกลางพรรคฯ นอกจากนี้ นายหวังอี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน จะเป็นประธานร่วมกับนายเจเรมี ฮันท์ ในการเจรจายุทธศาสตร์จีน-อังกฤษ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ และประเด็นร้อนระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ
๓. ข้อสังเกต สำหรับหารือในประเด็นร้อนดังกล่าว โดยเฉพาะจากกรณีที่สหรัฐแถลงว่า จะเรียกเก็บภาษีศุลกากรต่อสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มมูลค่า ๕๐๐,๐๐๐ ล้านเหรียญสหรัฐฯ นั้น จีนได้ประเมินว่า สหรัฐฯ ยังคงมีความมุ่งมั่นที่จะก่อสงครามทางการค้า ในขณะที่จีนได้แสดงท่าทีอย่างชัดเจนและแน่วแน่ว่าไม่อยากให้เกิดสงครามการค้า แต่ก็ไม่ได้แสดงความหวาดกลัว นอกจากนี้ หากสถานการณ์ทำให้มีความจำเป็นต้องสู้ จีนก็จะสู้ โดยจะใช้ปฏิบัติการอย่างเต็มที่ ด้วยท่าทีและจุดยืนใส ๒ ประการของจีนคือ
๓.๑ จีนจะเดินหน้าสร้างความเติบโตทางเศรษฐกิจต่อไป โดยรัฐบาลจีนมีความสามารถและความมั่นใจที่จะคุ้มครองประโยชน์ของประชาชนจีน
๓.๒ จีนจำเป็นต้องแจ้งให้สหรัฐฯ ทราบว่า ควรจะคงไว้ซึ่งความยับยั้งชั่งใจ ในการจัดการและแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องด้วยท่าทีที่เป็นไปตามเหตุผลที่แท้จริง
บทสรุป
ท่าทีที่สำคัญของจีนในการเจรจาหารือทางยุทธศาสตร์กับอังกฤษดังกล่าวนั้น เป็นไปตามแนวทางที่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ที่ได้กล่าวต่อเจ้าชายแอนดรูว์ อัลเบิร์ต คริสเตียน เอ็ดเวิร์ด ดยุกแห่งยอร์ก สหราชอาณาจักร ขณะเยือนกรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ ๒๙ พ.ค.๖๑ ว่า จีนจะยืนหยัดการเปิดประเทศ ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศในแวดวงนวัตกรรม ซึ่งหากจีนและอังกฤษมีการส่งเสริมความร่วมมือทางนวัตกรรมวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีกัน จะช่วยให้ได้รับผลสำเร็จร่วมกันอย่างแน่นอน และจะเพิ่มเนื้อหาใหม่มากขึ้นให้กับ "ยุคทอง" ของความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศอีกด้วย
ประมวลโดย : พันเอกไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
ข้อมูลจากเว็บไซต์
http://thai.cri.cn/247/2018/07/31/227s269610.htm
http://thai.cri.cn/247/2018/07/24/102s269336.htm
http://thai.cri.cn/247/2018/07/24/232s269323.htm
http://thai.cri.cn/247/2018/05/30/234s267586.htm