นายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน ได้เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกลุ่ม G20 ระหว่างวันที่ ๒๐ - ๒๑ พ.ค.๖๑ ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
๑. ประเทศสมาชิกกลุ่ม G20 ประกอบไปด้วย อาร์เจนตินา ออสเตรเลีย บราซิล อังกฤษ แคนาดา จีน ฝรั่งเศส เยอรมนี อินเดีย อินโดนีเซีย อิตาลี ญี่ปุ่น เม็กซิโก รัสเซีย ซาอุดิอาระเบีย แอฟริกาใต้ เกาหลีใต้ ตุรกี สหรัฐ และสหภาพยุโรป โดยที่ประชุมได้หารือกันในประเด็นต่างๆ ได้แก่
๑.๑ การเห็นพ้องต้องกันว่า ควรเดินหน้าใช้ระบบพหุภาคีต่อไป ทั้งนี้ แม้ความวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนได้เริ่มคลี่คลายลง แต่ที่ประชุม G20 ยังคงมุ่งเน้นหารือกันในเรื่องนโยบายการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
๑.๒ ปัญหาของเกาหลีเหนือ ก่อนที่การประชุมสุดยอดระหว่างผู้นำสหรัฐและเกาหลีเหนือจะมีขึ้นในวันที่ ๑๒ มิ.ย.๖๑ ที่สิงคโปร์ โดยที่ประชุมได้หารือกันถึงแนวทางการรับมือกับเกาหลีเหนือ แม้ว่าเกาหลีเหนือขู่ว่าจะยกเลิกการประชุมสุดยอดระหว่างนายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ก็ตาม
๑.๓ นายทาโร อาโสะ รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่นประกาศว่า ญี่ปุ่น ซึ่งจะเป็นประเทศเจ้าภาพจัดประชุม G20 ในปีหน้านี้ โดยจะจัดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกลุ่ม G20 ในวันที่ ๒๒ - ๒๓ พ.ย.๖๒ ที่เมืองนาโกยา ซึ่งอยู่ทางตอนกลางของญี่ปุ่น
๒. นายหวัง อี้ กล่าวว่า การจัดตั้งและพัฒนากลุ่ม G20 เป็นผลคืบหน้าสำคัญของการปฏิรูปการบริหารทั่วโลกและข้อตกลงพหุภาคี เนื่องในโอกาสการประชุมสุดยอด กลุ่ม G20 ครบรอบ ๒๐ ปี มีการอภิปรายปัญหาเกี่ยวกับการบริหารทั่วโลก และข้อตกลงในระดับพหุภาคี ดังนั้นการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในครั้งนี้ จึงถือเป็นการเตรียมเพื่อการก่อนการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม G 20 ในปีนี้ ซึ่งจะจัดขึ้นที่กรุงบัวโนสไอเรส เมืองหลวงของอาร์เจนตินาในเดือนพฤศจิกายน
๓. ข้อสังเกต จีนเคยเป็นเจ้าภาพจัดประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม G 20 ครั้งที่ ๑๑ ที่เมืองหางโจว ระหว่างวันที่ ๔ - ๕ ก.ย.๕๙ โดยกำหนดแนวคิดหลักในการประชุม เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกด้วยนวัตกรรม ความมีชีวิตชีวาและการเชื่อมโยงและประสานความร่วมมือ โดยจะเน้นในประเด็นหลักๆอยู่ ๔ ด้าน คือ
(๑) ใช้นวัตกรรมผลักดันให้เกิดการเติบโตรูปแบบใหม่
(๒) ส่งเสริมการบริหารจัดการด้านการเงินและเศรษฐกิจทั่วโลกมีความสมบูรณ์แบบมากขึ้น
(๓) ส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศให้ก้าวหน้าไป
(๔) ส่งเสริมการพัฒนาด้วยรูปแบบที่เชื่อมโยงถึงกันและประสานความร่วมมือระหว่างกัน
บทสรุป
ขณะที่จีนเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดกลุ่มผู้นำ G20 ที่เมืองหางโจว เมื่อปี ๒๐๑๖ (พ.ศ.๒๕๕๙) ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน ได้เคยกล่าวสุนทรพจน์โดยเน้นว่า การประชุมสุดยอดกลุ่ม G20 เกิดขึ้นในช่วงที่มีวิกฤตเศรษฐกิจโลกเมื่อปี ๒๐๐๘ (พ.ศ.๒๕๕๑) โดยประเทศสมาชิกทั้งหลายร่วมแรงร่วมใจกันสร้างโฉมหน้าใหม่ของเศรษฐกิจโลก ด้วยการการประชุม G20 เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางเศรฐกิจระหว่างประเทศที่สำคัญ และสิ่งที่ล้ำค่าควรแก่การจดจำคือ การร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันของบรรดาประเทศสมาชิก และความจริงได้พิสูจน์ว่า ท่ามกลางกระแสโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจ ประเทศต่าง ๆ ต้องร่วมกันรับมือกับการท้าทายและพัฒนาด้วยกัน อันเป็นการแสดงบทบาทท่าทีที่ชัดเจนของจีนที่สนับสนุนให้ G20 เดินหน้าใช้ระบบพหุภาคีต่อไป
ประมวลโดย : พันเอกไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
ข้อมูลจากเว็บไซต์
http://www.fmprc.gov.cn/mfa_eng/zxxx_662805/t1561258.shtml
http://thai.cri.cn/247/2018/05/22/121s267323.htm
http://thai.cri.cn/247/2015/11/17/42s237369.htm
http://thai.cri.cn/247/2015/12/01/226s237783.htm
http://www.ryt9.com/s/iq29/2830296