ความเคลื่อนไหวที่เป็นรูปธรรมของความร่วมมือระหว่างจีนกับประเทศต่างๆ ในระหว่างที่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เดินทางเยือนประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เซเนกัล และแอฟริกาใต้ ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
๑. เมื่อวันที่ ๒๓ ก.ค.๖๑ ระหว่างประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เยือนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และเซเนกัลนั้น นายเกิ่ง ส่วง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ได้แถลงข่าวเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างจีนกับประเทศต่างๆ ตามความตกลงว่าด้วยความร่วมมือ “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” (Belt and Road Initiative : BRI) ว่า
๑.๑ จีนจะปฏิบัติตามหลักการ ๓ ประการ ตามโครงการความริเริ่ม “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” หรือ BRI ได้แก่ การหารือ การสร้างสรรค์ และการแบ่งปันร่วมกัน เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือกับประเทศและองค์การระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง ในการสร้างสันติสุขให้กับภูมิภาคและโลก โดยบรรลุซึ่งสันติภาพ การพัฒนาและความรุ่งเรืองร่วมกัน
๑.๒ ในระหว่างที่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เยือนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยทั้งสองประเทศต่างเห็นพ้องกันที่จะกระชับความร่วมมือภายใต้กรอบความริเริ่ม “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” หรือ BRI โดยเพิ่มการประสานงานทางยุทธศาสตร์การพัฒนา และนโยบายอุตสาหกรรม รวมทั้งกระชับความร่วมมือด้านการผลิต วางแผน ประกอบและสร้างสรรค์ โดยเฉพาะการสาธิตความร่วมมือด้านการผลิตของจีน-สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการต้นแบบของความริเริ่ม “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง”
๑.๓ กลไกที่สำคัญต่อการขับเคลื่อนโครงการความริเริ่ม “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” หรือ BRI โดยเมื่อวันที่ ๒ ก.ค.๖๑ นายจิน ลี่ฉวิน ประธานธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเอเชีย หรือ AIIB ได้เข้าร่วมการประชุมนานาชาติว่าด้วยความร่วมมือทางหลักนิติธรรม "หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง" ณ กรุงปักกิ่ง ซึ่งจัดโดยกระทรวงการต่างประเทศและสมาคมกฎหมายจีน โดยในการประชุมฯ ประธานธนาคาร AIIB ได้กล่าวว่า AIIB สนับสนุนความริเริ่ม "หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง" โดยในระยะเวลาการดำเนินงาน ๒ ปีครึ่ง ได้อนุมัติให้ลงทุนเกิน ๕,๓๐๐,๐๐๐,๐๐๐ เหรียญดอลลาร์ ซึ่งปัจจุบัน โครงการลงทุนทั้งหมดของ AIIB ล้วนอยู่ในประเทศและภูมิภาครายทางในโครงการความริเริ่ม "หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง"
๒. ก่อนหน้าที่ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง จะเดินทางเยือนแอฟริกาใต้นั้น สื่อแอฟริกาใต้นำเสนอบทความฉบับหนึ่งว่า ตามสถิติอย่างไม่เป็นทางการว่า จีนมีการลงทุนโดยตรงต่อแอฟริกาใต้รวมกว่า ๑๐,๒๐๐ ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งได้สร้างโอกาสการมีงานทำให้กับชาวท้องถิ่น รวมทั้งการผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจของแอฟริกาใต้ ที่นักธุรกิจจีนจำนวนมากได้ลงทุนในแอฟริกาใต้ และประสบผลสำเร็จ ซึ่งเป็นเรื่องจริงเกี่ยวกับการพัฒนาร่วมกันและได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน ดังตัวอย่างเช่น ในปี ๒๐๐๘ (พ.ศ.๒๕๕๑) ธนาคารอุตสาหกรรมและพาณิชย์จีน (ICBC) ได้ร่วมหุ้นกับธนาคาร South African Standard Bank โดยสองธนาคารนี้ได้ร่วมมือกันให้เงินทุนกับโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานสำคัญหลายสิบแห่งของแอฟริกาใต้ตลอดจนทั่วทั้งแอฟริกา มีส่วนช่วยผลักดันกระบวนการพัฒนาอุตสาหกรรมของแอฟริกาใต้และแอฟริกา
บทสรุป
การที่ นายจิน ลี่ฉวิน ประธานธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเอเชีย หรือ AIIB ได้กล่าวถึง ข้อตกลงตามโครงการความริเริ่ม “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง" หรือ BRI ที่เสนอโดย ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ทำให้เห็นแนวโน้มของความเคลื่อนไหวได้ว่า มีพัฒนาการที่ก้าวหน้าจากแนวคิดสู่การปฏิบัติ จนกลายเป็นความร่วมมือระหว่างประเทศอย่างแท้จริง โดยเฉพาะผลงานที่โดดเด่น จากการจัดประชุมนานาชาติว่าด้วยความร่วมมือทางหลักนิติธรรม "หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง" ณ กรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ ๒ ก.ค.๖๑ ได้ช่วยให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีความเข้าใจต่อหลักการแนวคิดของโครงการ BRI ที่ถูกต้องและมีความครอบคลุมมากยิ่งขึ้น อันเป็นผลดีต่อจีนในการเดินหน้าโครงการ BRI ได้ตามแผนงานที่กำหนด โดยเฉพาะในการเดินทางเยือนประเทศต่างๆ ทั้งในตะวันออกกลางและแอฟริกา (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เซเนกัล รวันดา แอฟริการใต้ และมอริเชียส) ในระหว่างวันที่ ๑๙ - ๒๘ ก.ค.๖๑ รวมทั้งการเข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำประเทศกลุ่มบริกส์ (BRICS) ที่ประเทศแอฟริกาใต้ ทั้งนี้ เพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาคต่างๆ ของทวีปเอเชีย ยุโรป และแอฟริกา ให้มีความเชื่อมโยงกัน ซึ่งมีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ
ประมวลโดย : พันเอกไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
ข้อมูลจากเว็บไซต์
https://thediplomat.com/2018/07/china-uae-upgrade-partnership-during-xis-visit/
http://thai.cri.cn/247/2018/07/24/232s269363.htm
http://thai.cri.cn/247/2018/07/24/102s269339.htm
http://thai.cri.cn/247/2018/07/02/230s268587.htm