ขอนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับบทบาทของจีนในการจัดการประชุมคลังสมองระดับสูงระหว่างประเทศ โดยมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
๑. เมื่อวันที่ ๓๑ ส.ค.๖๓ ได้มีการจัดประชุมคลังสมองระดับสูงระหว่างประเทศแบบออนไลน์ ในหัวข้อ "ก้าวข้ามความแตกต่างทางอุดมการณ์และร่วมกันสร้างชุมชนที่มีอนาคตร่วมกันสำหรับมนุษยชาติ" (“超越意识形态差异,共建人类命运共同体”) ซึ่งได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างกว้างขวางจากหน่วยงานคลังสมองของนานาชาติ จำนวน ๑๐๒ แห่ง และหน่วยงานคลังสมองของจีน ๖๐ แห่ง ในประเด็น "ข้อริเริ่มร่วมกันในการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศและการส่งเสริมการสร้างชุมชนที่มีอนาคตร่วมกันสำหรับมนุษยชาติ" (“关于加强国际合作、推动构建人类命运共同体的共同倡议”)
๒. การประชุมในฟอรั่มดังกล่าวนี้ จัดขึ้นโดยสหพันธ์ว่าด้วยความร่วมมือระหว่างคลังสมอง “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” หรือ “Belt and Road” (“一带一路”智库合作联盟为指导单位) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากศูนย์วิจัยโลกร่วมสมัย (中联部当代世界研究中心) ของฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน (中共中央对外联络部发起成立) และสถาบันการเงิน Chongyang แห่งมหาวิทยาลัยเหรินหมินของจีน (中国人民大学重阳金融研究) โดยมีผู้นำทางการเมืองและนักวิชาการจำนวนมากกว่า ๓๐ คน จาก ๒๐ ประเทศ ได้ร่วมแลกเปลี่ยนความเห็นในเชิงลึกเกี่ยวกับ "การขจัดอคติทางอุดมการณ์และร่วมกันตอบสนองต่อวิกฤตการณ์ของโลก" (“消除意识形态偏见,共同应对全球性危机”) และ "ความร่วมมือแบบ win-win เป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับจีนและสหรัฐฯ ในการดำเนินการร่วมกัน" (“合作共赢是中美两国相处的正确选择”) ทั้งนี้ ในภาพโดยรวมของการประชุมฯ นายซ่ง เทา (宋涛) ซึ่งเป็นหัวหน้าฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ คณะกรรมการกลางพรรคฯ (中联部部长) ของจีนได้ร่วมแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกับนักการเมืองและนักวิชาการจากหน่วยงานคลังสมองของประเทศต่างๆ ได้อย่างลุ่มลึก กล่าวคือ
๒.๑ นายซ่ง เทา ได้กล่าวเน้นว่า นายสี จิ้นผิง เลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคฯ เสนอแนวคิดการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน และได้ชี้แจงแนวทางการพัฒนาของโลกว่า จีนมุ่งผลักดันการประสานงานระหว่างจีนกับสหรัฐฯ เพื่อดำเนินความร่วมมือและมีเสถียรภาพ พิทักษ์กลไกสากลที่ถือสหประชาชาติเป็นแกนนำ มุ่งอุทิศสติปัญญาและกำลังในการส่งเสริมโลกให้พัฒนาไปด้วยสันติภาพ
๒.๒ ผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการที่ร่วมประชุมต่างเห็นพ้องกันว่า การเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ระหว่างประเทศแสดงให้เห็นว่าแนวคิดประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน และข้อริเริ่ม “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง”มีความสำคัญยิ่ง โดยประเทศต่างๆ ควรละทิ้งข้อขัดแย้งทางอุดมการณ์ และร่วมกันผลักดันโลกให้พัฒนาไปตามทิศทางที่ถูกต้อง
๓. การแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นอย่างลุ่มลึกในการประชุมดังกล่าว ได้นำไปสู่ข้อเสนอที่น่าสนใจหลายประการ อาทิ
๓.๑ การแพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙ เป็นภัยคุกคามที่มนุษย์ทุกคนต้องเผชิญ จึงขอสนับสนุนให้ทุกประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศมหาอำนาจร่วมมือกันเพื่อส่งเสริมความร่วมมือในการต่อต้านการแพร่ระบาดทั่วโลก (新冠肺炎疫情是当前全人类面临的共同威胁,我们倡导各国尤其是大国共同致力于推动全球抗疫合作。)
๓.๒ ความสัมพันธ์จีน – สหรัฐฯ เป็นหนึ่งในความสัมพันธ์ทวิภาคีที่สำคัญที่สุดในโลกการรักษาและความมั่นคงของความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ มีผลต่อความเป็นอยู่ที่ดีของสองชนชาติและผู้คนของทุกประเทศในโลกตลอดจนสันติภาพเสถียรภาพและการพัฒนาของโลก (中美关系是世界上最重要的双边关系之一,维护和稳定中美关系事关两国人民和世界各国人民福祉,也关乎世界和平、稳定、发展。)
๓.๓ "สงครามเย็น" ทำให้โลกแตกแยกและเผชิญหน้ากันและ "ภาคต่อ" ที่ร้ายแรงยังคงมีอยู่ ซึ่งจีนและสหรัฐฯ ควรก้าวข้ามความแตกต่างทางอุดมการณ์ โดยเคารพคุณค่าระบบสังคมและเส้นทางการพัฒนาซึ่งกันและกัน (“冷战”造成世界割裂对抗,至今仍留下诸多严重“后遗症”。中美两国应超越意识形态分歧,相互尊重彼此价值理念、社会制度和发展道路 。)
๓.๔ คาดว่าจีนและสหรัฐฯ ควรจะเสริมสร้างการเจรจาและการสื่อสารในทุกระดับ รวมทั้งในสาขาต่างๆ เพื่อขยายจุดความร่วมมือ โดยลดความแตกต่างและจัดการกับจุดเสี่ยง รวมทั้งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกประเทศในโลกจะร่วมมือกันเพื่อส่งเสริมการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศรูปแบบใหม่ที่มีความเคารพซึ่งกันและกัน มีความยุติธรรมและความร่วมมือกันในการส่งเสริมการสร้างชุมชนที่มีอนาคตร่วมกันสำหรับมนุษยชาติ (期待中美两国加强各层次、各领域对话沟通,扩增合作点,消减分歧点,管控风险点。希望世界各国携手努力,共同推动建设相互尊重、公平正义、合作共赢的新型国际关系,推动构建人类命运共同体。)
บทสรุป
ผู้แทนของฝ่ายจีน เน้นว่า จีนมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์จีน – สหรัฐฯ โดยอาศัยการประสานงานความร่วมมือและความมั่นคง รวมทั้งยินดีที่จะทำงานร่วมกับประเทศต่างๆทั่วโลกเพื่อรักษาระบบระหว่างประเทศโดยมีองค์การสหประชาชาติเป็นแกนกลาง และระเบียบระหว่างประเทศตามกฎหมายระหว่างประเทศ เพื่อส่งเสริมสันติภาพและการพัฒนาของโลก ตลอดจนสนับสนุนภูมิปัญญาและความเข้มแข็งในการสร้างชุมชนที่มีอนาคตร่วมกันสำหรับมนุษยชาติ (中方致力于推动以协调、合作、稳定为基调的中美关系,愿同世界各国一道,维护以联合国为核心的国际体系和以国际法为基础的国际秩序,为促进世界和平发展、构建人类命运共同体贡献智慧和力量。)
ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
ข้อมูลจากเว็บไซต์
https://finance.sina.com.cn/world/gjcj/2020-09-01/doc-iivhvpwy4162784.shtml
http://www.chinanews.com/gn/2020/09-01/9279699.shtml
https://www.ncnews.com.cn/xwzx/gjxw/202009/t20200901_1621697.html
https://m.mp.oeeee.com/a/BAAFRD000020200901359731.html
http://thai.cri.cn/20200901/4672564e-b5d4-186c-45d1-17abc468337b.html