แนวคิดของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง โดยเน้นถึงการสร้างประเทศจีนให้เป็นประเทศที่เข้มแข็งด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
๑. ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ในฐานะเลขาธิการคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีน และประธานคณะกรรมาธิการทหารกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้เข้าร่วมประชุมนักวิชาการครั้งที่ ๑๙ ของสภาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีจีน และการประชุมนักวิชาการครั้งที่ ๑๔ ของสถาบันวิศวกรรมจีน เมื่อวันที่ ๒๘ พ.ค ๖๑ ณ มหาศาลาประชาชน กรุงปักกิ่ง และได้กล่าวสุนทรพจน์ โดยเน้นว่า
๑.๑ ความเข้มแข็งและการพัฒนาความเจริญของจีน ต้องอาศัยวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีเป็นกำลังสำคัญ
๑.๒ ต้องพยายามสร้างให้จีนเป็นศูนย์กลางวิทยาศาสตร์ และเป็นแนวหน้าด้านนวัตกรรม
๑.๓ ต้องเข้าใจว่า นวัตกรรมเป็นแรงกระตุ้นอันดับแรกของการพัฒนา พร้อมสนับสนุนด้วยเทคโนโลยีที่มีคุณภาพสูง เพื่อสร้างระบบเศรษฐกิจที่ทันสมัย
๑ ๔ จีนต้องร่วมเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการบริหารด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีของโลก เพื่อแสดงความสามารถของจีน เน้นการส่งเสริม สร้างชุมชนที่มีอนาคตร่วมกันของมวลมนุษยชาติ
๒. ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ ๒๖ พ.ค.๖๑ ได้มีการจัดประชุมสุดยอดเกี่ยวกับการพัฒนาและความร่วมมือด้านเทคโนโลยีจากทั่วโลกที่กรุงปักกิ่ง โดยบรรดาผู้เชี่ยวชาญที่เข้าร่วมการประชุม ต่างแสดงความคิดเห็นว่า
๒.๑ การพัฒนาที่มีคุณภาพสูงของจีนต้องอาศัยเทคโนโลยี ควรเพิ่มความสามารถในด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรม ในกระบวนการเปิดสู่ภายนอกและความร่วมมือกับต่างประเทศ
๒.๒ ในช่วงปีหลังๆ นี้ เทคโนโลยีจีน ได้พัฒนาอย่างรวดเร็ว ประสบผลสำเร็จหลายอย่างเช่น FAST กล้องโทรทรรศน์วิทยุที่ใหญ่ที่สุดของโลก ยานอวกาศเสินโจว การโทรคมนาคมเทคโนโลยีควอนตัม รถไฟความเร็วสูง ระบบนำร่อง "เป่ยโต่ว" ของจีนสร้างเครือข่ายบนท้องฟ้า คอมพิวเตอร์คิดเลขความเร็วสูงที่สุดของโลก เครื่องบินโดยสารลำใหญ่ เป็นต้น
๓. ข้อสังเกต จีนได้กำหนดแผนที่จะพัฒนาระบบดาวเทียมเป่ยโต่วหมายเลข ๓ ให้เสร็จสิ้นได้ก่อนสิ้นปีนี้ และเริ่มให้บริการระบุตำแหน่งผ่านดาวเทียมกับประเทศตามรายทางโครงการความริเริ่ม "หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง" (Belt and Road Initiative : BRI) โดยจีนได้ยิงส่งดาวเทียมแล้ว ๘ ดวงเพื่อประสานงานกันเป็นเครือข่ายเป่ยโต่วหมายเลข ๓ หลังจากนี้ไปจนถึงก่อนสิ้นปี และจะยังยิงส่งดาวเทียมอีก ๑๑ ดวงเพื่อสร้างระบบพื้นฐานให้เสร็จสิ้น และจะมีศักยภาพการให้บริการระบุตำแหน่งกับประเทศรายทาง "หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง" อีกด้วย
บทสรุป
ปัจจุบัน จีนมีการพัฒนาทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น ในขณะที่การแข่งขันระหว่างประเทศในด้านนี้ก็ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน ดังนั้น จึงมีนักวิชาการได้ให้ความเห็นว่า จีนควรปรับปรุงโครงสร้างการผลิตด้านอุตสาหกรรม รวมทั้งผลักดันระบบการสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านเทคโนโลยี มีการส่งเสริมการคุ้มครองด้านสิทธิทรัพย์สินทางปัญญา การปรับปรุงกลไกฝึกอบรมบุคลากร และนำเข้าบุคลากรผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ ตลอดจนสร้างโครงสร้างพื้นฐาน และบรรยากาศทางสังคมที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาของเทคโนโลยี เพื่อสร้างความเข้มแข็งในการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแบบยั่งยืน อันจะส่งผลดีทั้งต่อจีนและภูมิภาค นอกจากนี้ จะนำไปสู่ความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างประเทศต่อไป
ประมวลโดย : พันเอกไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
ข้อมูลจากเว็บไซต์
http://thai.cri.cn/247/2018/05/29/101s267546.htm
http://thai.cri.cn/247/2018/05/27/232s267499.htm
http://thai.cri.cn/247/2018/05/24/62s267391.htm