bg-head-3

บทความ

จีนศึกษา วันพฤหัสบดีที่ ๗ มี.ค.๖๒ : ความเคลื่อนไหวในการประชุมสองสภา (ตอนที่ ๕)

ความเคลื่อนไหวในการประชุมสองสภา (ตอนที่ ๕) ว่าด้วยกรณีที่ นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน ได้รายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาลต่อที่ประชุมสภาประชาชนแห่งชาติของจีน ชุดที่ ๑๓ ครั้งที่ ๒ ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

๑. เมื่อวันที่ ๕ มี.ค.๖๒ รัฐบาลจีนได้ยื่นรายงานการทำงานของรัฐบาลต่อสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติ ซึ่งเป็นองค์กรที่มีอำนาจสูงสุดของจีน เพื่อดำเนินการตรวจสอบพิจารณา โดยมีการกำหนดดัชนีสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในปีนี้ รวมถึงผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ GDP มีอัตราการการเจริญเติบโต ๖% - ๖.๕% ขณะที่การเพิ่มโอกาสการมีงานทำมากกว่า ๑๑ ล้านตำแหน่ง รวมทั้งมีอัตราการเติบโตของราคาบริโภคหรือ CPI อยู่ที่ประมาณ ๓% และสามารถลดจำนวนประชากรยากจนในชนบทลงได้มากกว่า ๑๐ ล้านคน ตลอดจนมีปริมาณการใช้พลังงานต่อหน่วย GDP ลดลง ๓% เป็นต้น นอกจากนี้ จะลดภาษีบริษัทเอกชนและเงินประกันสังคมรวมทั้งลดภาษีมูลค่าเพิ่มเหลือ ๑๓% (จากเดิม ๑๖%) ในขณะที่ได้ตั้งงบประมาณสำหรับทางทหารจำนวน ๒ ล้านล้านหยวน (ประมาณ ๑๗๗,๐๐๐ ล้านดอลลาร์) หรือเพิ่มขึ้น ๗.๕% จากปีที่แล้ว

๒. ในรายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาลได้กล่าวถึงสาระที่สำคัญต่างๆ ได้แก่
        ๒.๑ ปัจจุบัน การเติบโตของเศรษฐกิจโลกช้าลง จึงส่งผลกระทบต่อจีน ในขณะที่ภายในประเทศของจีนก็มีแรงกดดันต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ ดังนั้น การกำหนดเป้าหมายดังกล่าวของรัฐบาลจีน จึงถือเป็นเรื่องที่เหมาะสมและสอดคล้องกับการพัฒนา ซึ่งจีนเป็นประเทศเศรษฐกิจใหญ่อันดับสองของโลก โดยในปี ๒๐๑๘ (พ.ศ.๒๕๖๑) ตัวเลขการพัฒนาทางเศรษฐกิจจีนทะลุ ๙๐ ล้านล้านหยวน และกำลังอยู่ในช่วงปรับปรุงโครงสร้างสำคัญ ที่พัฒนาจากการเติบโตด้วยความเร็วสูงไปสู่การพัฒนาที่มีคุณภาพ และการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่มีคุณภาพสูงนั้น ต้องไม่ยึดถือ GDP เป็นหลัก แต่จะใช้ความพยายามในการกระตุ้นศักยภาพของเศรษฐกิจและกำลังแข่งขันในตลาด
        ๒.๒ การที่จีนกำหนดดัชนีการเติบโตที่ต่ำกว่าปี ๒๐๑๘ (พ.ศ.๒๕๖๑) สาเหตุสำคัญคือ กระแสโลกด้านเศรษฐกิจในยุคปัจจุบันที่กำลังเผชิญกับกระแสต้านทานอย่างรุนแรง อีกทั้งมีข้อขัดแย้งทางการค้าเพิ่มขึ้น ทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจของโลกเติบโตช้า และองค์กรระหว่างประเทศหลายแห่งได้ปรับลดการอัตราการเติบโตทั่วโลก ดังนั้น การปรับลดเป้าหมายการเติบทางเศรษฐกิจให้ต่ำลงอย่างเหมาะสม จะมีส่วนช่วยจีนรับมือกับความท้าทาย รักษาการพัฒนาของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องและมั่นคง
        ๒.๓ จีนจะก้าวเดินไปบนหนทางการพัฒนาที่สันติ โดยใช้ยุทธศาสตร์เปิดเสรีที่อำนวยประโยชน์แก่กัน รวมทั้งมุ่งรักษาระบบพหุภาคีและระบบสากลที่ยึดกฎบัตรสหประชาชาติเป็นหลัก รวมทั้งมีส่วนร่วมในการปรับระบบการบริหารโลกให้สมบูรณ์ขึ้น และเดินหน้าในการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมวลมนุษยชาติ

๓. ข้อสังเกต ในปีนี้ จีนวางแผนจะลดจำนวนประชากรที่ยากจนในพื้นที่ชนบทให้น้อยลงอีกอย่างน้อย ๑๐ ล้านคน เพื่อบรรลุเป้าหมายการแก้ไขปัญหาความยากจนตามกำหนดนั้น (รัฐบาลจีนได้ประกาศให้ปี ๒๐๒๐ หรือ พ.ศ.๒๕๖๓ เป็นปีที่ชาวจีนในสังคมจีนพ้นจากความยากจน) โดยให้เกษตรกรจีนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่เข้าขั้นมีกินมีใช้ทุกด้านอย่างถ้วนทั่วด้วย ตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมในการดำเนินการดังกล่าว เช่น กรณีของมณฑลกุ้ยโจว ที่นับถึงวันที่ ๑๐ ก.พ.๖๒ ได้อุดหนุนและช่วยเหลือผู้ยากจน จำนวน ๑,๓๒๐,๐๐๐ คน ให้ย้ายไปยังที่อยู่อาศัยใหม่ในต่างถิ่น ส่วนที่เหลืออีก ๕๖๐,๐๐๐ คน ก็จะทำการย้ายไปยังที่อยู่อาศัยใหม่ในครึ่งแรกของปีนี้ ตามแผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมระยะ ๕ ปี ฉบับที่ ๑๓ ของมณฑลกุ้ยโจว ที่ระบุว่า มณฑลจะอุดหนุนและช่วยเหลือผู้ยากจนให้ย้ายไปยังที่อยู่ใหม่ในต่างถิ่น ทั้งหมด ๑๘,๘๐๐,๐๐๐ คน คิดเป็นร้อยละ ๑๕ ของแผนการอุดหนุนและช่วยเหลือด้านที่อยู่อาศัยใหม่แก่ผู้ยากจนทั่วประเทศ

บทสรุป

แม้ว่า ปีนี้รัฐบาลจีนได้ตั้งเป้าหมาย GDP หรืออัตราการเจริญเติบโตเศรษฐกิจอยู่ในระหว่าง ๖ – ๖.๕% ก็ตาม แต่จะยังคงใช้นโยบายการคลังเชิงรุก และนโยบายการเงินที่มีความสุขุมรอบคอบต่อไป รวมทั้งจะใช้นโยบายให้ความสำคัญกับการจ้างงานในอันดับต้นๆ โดยจะเสริมการประสานนโยบายต่างๆ ให้สอดคล้องกันมากยิ่งขึ้น และจะประกันให้เศรษฐกิจขยายตัวในระดับที่เหมาะสม ตลอดจนจะเน้นให้เศรษฐกิจสังคมได้พัฒนาอย่างเป็นปกติและยั่งยืน โดยเฉพาะการป้องกันและควบคุมมลพิษให้อยู่ภายใต้มาตรการในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างรัดกุม ซึ่งมีรายงานของสำนักงานการบินแห่งชาติสหรัฐฯ (NASA) ว่า นับตั้งแต่ปี ๒๐๐๐ (พ.ศ.๒๕๔๓) เป็นต้นมา พื้นที่สีเขียวทั่วโลกได้เพิ่มขึ้นร้อยละ ๕ เทียบเท่ากับพื้นที่ป่าอะเมซอนผืนหนึ่ง โดยจีนกับอินเดียสร้างคุณูปการมากสุดคิดเป็น ๑ ใน ๓ ของพื้นที่สีเขียวทั่วโลกที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ เนื่องจากจีนได้ดำเนินมาตรการปลูกต้นไม้สร้างป่าและการเกษตรแบบรวมศูนย์ได้เป็นอย่างดี เช่น กรณีของเมืองจงเว่ยในเขตปกครองตนเองชนชาติหุยหนิงเซี่ย และทะเลทรายคู่ปู้ฉี เมืองเอ่อร์ตัวซือ เขตปกครองตนเองมองโกเลียใน ที่พลิกฟื้นทะเลทรายเป็นพื้นที่สีเขียว เป็นต้น

ประมวลโดย : พลตรีไชยสิทธิ์ ตันตยกุล

ข้อมูลจากเว็บไซต์

https://www.voanews.com/a/china-spending-plans/4813762.html 

http://thai.cri.cn/20190305/73e3e319-6d5b-6b09-c3f4-739451145a97.html

http://thai.cri.cn/20190305/7d0d7b79-24bc-7d79-8776-542e999ce765.html 

http://thai.cri.cn/20190305/8cabdb86-3ed3-f4da-f0e6-f5bb533dbd56.html 

http://thai.cri.cn/20190226/589f84e0-4304-21cf-58cb-20c539943754.html 

http://thai.cri.cn/20190305/520a7ea7-2aeb-506c-da5f-31a77c931bf3.html 

http://thai.cri.cn/20190215/c6db9677-5a84-467b-2ef0-fe65fa1420bd.html

http://thai.cri.cn/20190214/c142e0d2-8732-e4e3-ba03-c73c7819bab9.html 

http://fortune.com/2019/03/05/china-tough-economic-battle-2019/