bg-head-3

บทความ

จีนศึกษา วันพุธที่ ๑๑ มี.ค.๖๓ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ที่ได้เดินทางเยือนนครอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ศูนย์กลางการระบาดของไวรัสโควิด-๑๙ เป็นครั้งแรก

จีนศึกษา วันพุธที่ ๑๑ มี.ค.๖๓ ขอนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ที่ได้เดินทางเยือนนครอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ศูนย์กลางการระบาดของไวรัสโควิด-๑๙ เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เกิดวิกฤตเมื่อเดือน ม.ค.๖๓ และถือเป็นการส่งสัญญาณที่สำคัญของจีนในการควบคุมโรคระบาดได้แล้ว ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

๑. เมื่อวันที่ ๑๐ มี.ค.๖๓ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้เดินทางถึงนครอู่ฮั่นโดยเครื่องบิน ซึ่งเป็นกำหนดการที่ไม่ได้แจ้งให้สาธารณชนทราบล่วงหน้า เพื่อตรวจงานการป้องกันและควบคุมโรคระบาดในนครอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย และพบปะให้กำลังใจกับบุคคลากรที่ทำงานเป็นแนวหน้าในการรับมือกับไวรัสโควิด-๑๙  อันได้แก่ เจ้าหน้าที่แพทย์ ทหาร เจ้าหน้าที่ชุมชน ตำรวจ ผู้ป่วยและชาวบ้าน ในขณะที่คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน ได้แถลงว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ในจีนลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ ๙ มี.ค.๖๓ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพียง ๑๙ ราย ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อสะสมในจีนอยู่ที่ ๘๐,๗๕๔ คน ส่วนยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก ๑๗ ราย รวมเป็น ๓,๑๓๖ ราย  

๒. สำหรับแนวทางการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-๑๙ ในระดับชุมชน (หมู่บ้าน) ซึ่งถือว่าเป็นรากฐานที่มีความสำคัญยิ่ง กล่าวคือ
     ๒.๑ รัฐบาลจีนยึดหลักความรับผิดชอบต่อประชาชนจีนและประชาคมโลก ซึ่งให้ความสำคัญต่อความปลอดภัยของชีวิตและสุขอนามัยของประชาชนเป็นอันดับแรกมาโดยตลอด รวมทั้งได้ใช้มาตรการป้องกันและควบคุมรอบด้านอย่างเคร่งครัดที่สุด จนประสบผลเป็นรูปธรรม
     ๒.๒ ประชาชนชาวจีนในชุมชนต่างร่วมทุกข์ร่วมสุข มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพื่อผ่านพ้นความยากลำบากนี้ โดยปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาล และตามคำชี้แนะของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งในแต่ละวันประชาชนส่วนใหญ่จะเก็บตัวอยู่ที่บ้านอย่างเงียบๆ ยกเว้นเวลาจะต้องออกไปซื้ออาหารและสิ่งของจำเป็น
     ๒.๓ ในกรณีที่มีผู้ที่กระทำผิดกฎหมาย เช่น จำหน่ายหน้ากากอนามัยเกินราคา ผลิตหน้ากากอนามัยเถื่อน ไม่ใส่หน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ ฯลฯ  ทางการจีนจะลงโทษสถานหนัก ด้วยการปรับเงินก้อนใหญ่หรือเข้าควบคุมตัว เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดอย่างเด็ดขาด

๓. ข้อสังเกต การลงพื้นที่ของผู้นำจีนโดยไม่แจ้งให้สาธารณชนทราบล่วงหน้านั้น จะทำให้ได้เห็นข้อเท็จจริงโดยที่ไม่ต้องมีการจัดเตรียม เพื่อที่จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด ซึ่งจากประสบการณ์ของผู้เขียน ขณะที่ศึกษาหลักสูตรยุทธศาสตร์และการป้องกันประเทศ ในมหาวิทยาลัยป้องกันประเทศ กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน ณ กรุงปักกิ่ง เมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๗ – ๒๕๔๘ (เป็นหลักสูตรในระดับเดียวกับ วปอ.ของไทย) ได้พบปะสนทนากับคณะผู้ตรวจด้านการศึกษาของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ที่มาตรวจเยี่ยมมหาวิทยาลัยโดยไม่ได้มีการแจ้งล่วงหน้า เกี่ยวกับการจัดการศึกษาและชีวิตความเป็นอยู่ในมหาวิทยาลัย ถึง ๒ ครั้ง (หลังจากที่หลักสูตรเปิดเรียนได้ ๖ เดือน และก่อนสำเร็จการศึกษาในเดือนสุดท้าย) เพื่อนำไปประเมินผลเปรียบเทียบและปรับปรุงพัฒนาต่อไป      

บทสรุป

การที่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ลงพื้นที่นครอู่ฮั่นด้วยตนเองดังกล่าวนั้น เป็นเรื่องที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจและการตลาดที่ยังคงตื่นตระหนกกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-๑๙ ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่สำคัญในการสะท้อนให้เห็นว่า รัฐบาลจีนมีความเชื่อมั่นเพียงพอที่จะประกาศว่าวิกฤตการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-๑๙ ได้สิ้นสุดลงแล้ว และแนวทางของจีนในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-๑๙ จะเป็นโมเดลให้ประเทศอื่นๆ ได้ใช้เป็นแนวทางในการควบคุมการแพร่ระบาด นอกจากนี้ รัฐบาลจีนได้เสนอให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศต่างๆ อีกด้วย

ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล

ข้อมูลจากเว็บไซต์ 

https://www.chinadaily.com.cn/a/202003/10/WS5e670785a31012821727dd19_1.html

https://www.mcot.net/viewtna/5e67107ae3f8e40af141eaa0

https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_3725498

https://thestandard.co/xi-jinping-visit-wuhan/

http://thai.cri.cn/20200310/ab0ed24a-bc1f-8a9d-8ffd-845ca3bba097.html

https://www.prachachat.net/world-news/news-430169

https://www.matichonweekly.com/hot-news/article_284241