จีนศึกษา (วันพุธที่ ๑๕ ก.ย.๖๔) ขอนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เข้าร่วมการประชุมผู้นำกลุ่มประเทศบริกส์ (BRICS) ครั้งที่ ๑๓ (金砖国家领导人第十三次会晤) จากกรุงปักกิ่งผ่านระบบวีดิทัศน์ พร้อมกล่าวสุนทรพจน์ที่สำคัญเรื่อง “ร่วมเดินหน้าความร่วมมือของกลุ่มประเทศบริกส์ เพื่อรับมือความท้าทายร่วมกัน” (“ 携手金砖合作 应对共同挑战”) เมื่อช่วงค่ำวันที่ ๙ ก.ย.๖๔ ความว่า
๑. ปีนี้เป็นการครบรอบ ๑๕ ปีของความร่วมมือกลุ่มบริกส์ ซึ่งตลอด ๑๕ ปีที่ผ่านมา ทั้ง ๕ ประเทศได้ยืนหยัดในความเปิดกว้าง ความครอบคลุม และความเสมอภาค ได้เพิ่มการประสานงานเชิงยุทธศาสตร์และความเชื่อมั่นทางการเมืองซึ่งกันและกัน เคารพต่อระบบสังคมและเส้นทางการพัฒนากัน และค้นหาวิธีการอยู่ร่วมกันที่ถูกต้องระหว่างประเทศต่างๆอย่างต่อเนื่อง ยืนหยัดในนวัตกรรมที่เป็นรูปธรรม ความร่วมมือที่ได้รับประโยชน์ร่วมกัน และการปรับนโยบายการพัฒนาให้สอดคล้องกัน ได้ส่งเสริมความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมในด้านต่างๆ และเดินหน้าต่อไปบนถนนแห่งการพัฒนาร่วมกันโดยยืนหยัดในความเท่าเทียมกันและความยุติธรรม ปฏิบัติตัวดีและช่วยเหลือผู้อื่น สนับสนุนพหุภาคี มีส่วนร่วมในธรรมาภิบาลระดับโลก และกลายเป็นกำลังสำคัญที่ไม่อาจมองข้ามได้บนเวทีโลก ทั้งนี้ ความจริงได้พิสูจน์แล้วว่า ไม่ว่าจะพบกับอุปสรรคความยากลำบากเพียงไร ตราบใดที่คิดไปในทางเดียวกันและใช้ความพยายามร่วมกัน ความร่วมมือของกลุ่มบริกส์ย่อมจะก้าวไกลไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง
๒. ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังคงลุกลามทั่วโลก การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกยังคงต้องฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ การเปลี่ยนแปลงของระเบียบสากลยังคงสลับซับซ้อนยิ่งขึ้น เมื่อเผชิญหน้ากับความท้าทาย สมาชิกกลุ่มประเทศบริกส์ยังต้องแบกรับความรับผิดชอบ ผลักดันให้ปฏิบัติตามพหุภาคีนิยมอย่างแท้จริง กระตุ้นทั่วโลกให้สามัคคีกันต้านโรคระบาด ส่งเสริมการเปิดประเทศ นวัตกรรม การเติบโต และการพัฒนาร่วมกัน สร้างคุณูปการต่อสันติภาพและการพัฒนาของโลก ขับเคลื่อนการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมนุษยชาติ
๓. ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน สมาชิกกลุ่มประเทศบริกส์ (ประกอบด้วย จีน บราซิล รัสเซีย อินเดีย และแอฟริกาใต้) ต้องยึดมั่นในความศรัทธา เสริมสร้างความสามัคคี ผลักดันความร่วมมือที่มุ่งผลจริง พัฒนาก้าวหน้าอย่างมีคุณภาพสูง โดยมีข้อเสนอ ๕ ข้อ ได้แก่ (๑) ยืนหยัดการร่วมทุกข์ร่วมสุข เพิ่มความร่วมมือด้านสาธารณสุข (๒) ยืนหยัดความยุติธรรมและการเข้าถึง เพิ่มความร่วมมือด้านวัคซีนระหว่างประเทศ (๓) ยืนหยัดการอำนวยประโยชน์แก่กันและกัน เพิ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจ (๔) ยืนหยัดความยุติธรรมและเป็นธรรม เพิ่มความร่วมมือทางการเมืองและความมั่นคง และ (๕) ยืนหยัดการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน เพิ่มการแลกเปลี่ยนตลอดจนความร่วมมือทางวัฒนธรรมและบุคลากร
บทสรุป
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เน้นย้ำว่า ต้องส่งเสริมการปฏิบัติของลัทธิพหุภาคีที่แท้จริง ตามกฎบัตรสหประชาชาติ และปกป้องระบบระหว่างประเทศโดยให้สหประชาชาติเป็นแกนหลักและยึดถือตามกฎหมายระหว่างประเทศ ต้องส่งเสริมความสามัคคีทั่วโลกในการต่อสู้กับโรคระบาด ต้องส่งเสริมการเติบโตที่เปิดกว้างและสร้างสรรค์ ช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจโลกอย่างมีเสถียรภาพ รักษาระบบการค้าพหุภาคีตามองค์การการค้าโลก และต้องส่งเสริมการพัฒนาร่วมกัน ยึดมั่นในปรัชญาการพัฒนาที่เน้นประชาชนเป็นศูนย์กลาง และดำเนินการตามวาระ ๒๐๓๐ (พ.ศ.๒๕๗๓) เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างแข็งขัน รวมทั้งส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและปล่อยคาร์บอนต่ำ ตลอดจนร่วมกันสร้างโลกที่สะอาดและสวยงาม
ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล