มีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
๑. นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีของไทย ได้กล่าวในที่ประชุมแลกเปลี่ยนความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าจีน (กว่างตง) – ไทย เมื่อวันที่ ๑๑ มิ.ย.๖๒ ที่กรุงเทพมหานคร ว่า
๑.๑ ประเทศในอาเซียนควรคว้าโอกาสที่จีนผลักดันการสร้างเขตอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งและความร่วมมือเชิงปฏิบัติการกับมณฑลกว่างตงซึ่งเป็นด่านหน้าของการปฏิรูปและเปิดประเทศจีน
๑.๒ มณฑลกว่างตงจะเป็นสะพานเชื่อมระหว่างจีนกับประเทศในอาเซียน โดยประเทศในอาเซียนควรคว้าโอกาสที่จีนผลักดันการสร้างเขตอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า ส่งเสริมความร่วมมมือเชิงปฏิบัติการกับมณฑลกว่างตง ขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจของแต่ละประเทศและภูมิภาค
๑.๓ ไทยและจีนมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมความร่วมแรงร่วมใจกันในระดับภูมิภาค โดยเฉพาะโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ของประเทศไทยมีความสอดคล้องกับการสร้างเขตอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊าในระดับสูง โดยความร่วมมือของไทยกับเขตอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊ามีเงื่อนไขที่สะดวกสบายในด้านภูมิศาสตร์ มีความได้เปรียบที่ส่งเสริมกันและกันทางเศรษฐกิจ มีความเชื่อมโยงกันอย่างลึกซึ้งด้านมนุษยชาติ รวมทั้งความร่วมมืออย่างกว้างขวางและเป็นรูปธรรมระหว่างสองพื้นที่จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในภูมิภาค
๒. เมื่อวันที่ ๑๑ มิ.ย.๖๒ นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสกลุ่มบริษัทซีพีเข้าร่วมการประชุมสมาคมธุรกิจจีน-อาเซียนครั้งที่ ๑๗ และฟอรั่มสังคมชาวจีนโพ้นทะเล “สายแถบและเส้นทาง” (Belt and Road Initiative : BRI) หรือ ข้อริเริ่ม “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” ครั้งที่ ๑ ที่จัดขึ้น ณ นครคุนหมิง มณฑลหบุนหนาน (ยูนนาน) ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับการพัฒนาของจีนในอนาคตว่า จากประสบการณ์การลงทุนในประเทศจีนเป็นเวลาถึง ๔๐ ปี และในฐานะเป็น “ผู้ประกอบการต่างชาติหมายเลข ๐๐๐๑” ที่มาลงทุนในจีนรายแรกในช่วงต้น ๆ ของการปฏิรูปและเปิดประเทศจีน โดยได้ร่วมเป็นสักขีพยานในการเปลี่ยนแปลงของเมืองเซินเจิ้น ซึ่งจากเป็นเมืองชาวประมงเล็ก ๆ ก้าวไปสู่การเป็นเมืองใหญ่ระดับนานาชาติ อันเป็นผลมาจากการปฏิรูปแบบลึกซึ้งและมีการเปิดกว้างมากขึ้นของจีน ทำให้สร้างโอกาสการพัฒนาเพิ่มมากขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะ “สายแถบและเส้นทาง” และการสร้างเขตอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า ในเชิงบวก จะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักธุรกิจที่ต้องการลงทุนในจีน โดยเรียกร้องพลังความร่วมมือของนักธุรกิจในจีนให้ร่วมมือกันขยายตลาดให้กว้างยิ่งขึ้น
บทสรุป
จากความเห็นผู้นำทางด้านเศรษฐกิจของไทยทั้งภาครัฐและภาคเอกชนดังกล่าว มีความสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกับที่ นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการ คณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก กล่าวขณะให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว CRI สื่อของจีน เมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า ในช่วงที่ จีนกับสหรัฐฯ เกิดความขัดแย้งทางการค้านั้น ประเทศเอเชียยิ่งต้องจับมือกัน กระตุ้นการค้าและการลงทุนซึ่งกันและกัน สุดท้ายจีนจะได้วิธีการแก้ปัญหาที่ถูกต้องและชัดเจน โดยประเทศไทยมีจุดยืนสนับสนุนการค้าเสรี และขอชื่นชมจุดยืนของจีนในการพิทักษ์การค้าเสรีที่ชัดเจน ซึ่งควรส่งเสริมให้จีนกับไทยและประเทศในอาเซียนอื่น ๆ ดำเนินความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้าให้ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น
ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
ข้อมูลจาก
http://www.xinhuanet.com/english/asiapacific/2019-06/12/c_138134681.htm
http://thai.cri.cn/20190615/64823293-f299-4fbf-1bd5-2111d1da3233.html
http://thai.cri.cn/20190615/b0325702-48d3-6a15-e609-de4473f673a6.html
http://thai.cri.cn/20190617/d31a1939-f6a7-2dcf-d9f2-328f3d87135f.html
https://www.amazon.ca/China-asean-Relations-Cooperation-Development-1/dp/9813228903