bg-head-3

บทความ

จีนศึกษา วันพุธที่ ๒๑ พ.ย.๖๑ : ทิศทางการพัฒนาความสัมพันธ์แบบหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างจีนกับบรูไน

ทิศทางการพัฒนาความสัมพันธ์แบบหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างจีนกับบรูไน ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

๑. เมื่อวันที่ ๑๘ พ.ย.๖๑ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เดินทางถึงกรุงบันดาร์ เสรีเบกาวัน และเริ่มการเยือนประเทศเนอการาบรูไนดารุซซาลาม (Negara Brunei Darussalam) อย่างเป็นทางการ โดยประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวว่า ในนามรัฐบาลและประชาชนจีนได้แสดงความปรารถนาดีต่อรัฐบาลและประชาชนบรูไน นอกจากนั้น ได้เน้นว่า จีนกับบรูไนเป็นประเทศเพื่อนบ้าน เป็นมิตรและหุ้นส่วนที่เชื่อถือกัน มีอดีตการไปมาหาสู่กันที่ยาวนาน ช่วง ๒๗ ปี ตั้งแต่สองประเทศสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเป็นต้นมา ต่างก็ปฏิบัติต่อกันอย่างเสมอภาค มีความเชื่อมั่นทางการเมืองมากขึ้น รวมถึงความร่วมมือด้านต่าง ๆ ระหว่างสองประเทศถือว่าประสบผลสำเร็จ นำมาซึ่งผลประโยชน์ที่แท้จริงให้กับประชาชนของสองประเทศ และสร้างคุณูปการเพื่อสันติภาพและความรุ่งเรืองของภูมิภาคนี้

๒. เมื่อวันที่ ๑๙ พ.ย.๖๑ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้พบปะเจรจากับสมเด็จพระราชาธิบดีฮัจญี ฮัสซานัล โบลเกียห์ มูอิซซัดดีน วัดเดาละห์ สุลต่านแห่งบรูไนดารุสซาลาม ที่กรุงบันดา เสรี เบกาวันของบรูไน ซึ่งประมุขของสองประเทศต่างชื่นชมความสัมพันธ์จีน-บรูไน และยืนยันการสถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างสองประเทศ ให้กลายเป็นหุ้นส่วนที่เชื่อถือกันทางการเมือง อำนวยประโยชน์แก่กันทางเศรษฐกิจ แลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและช่วยเหลือกันในความสัมพันธ์แบบพหุภาคี โดยประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ชื่นชมสุลต่านบรูไนที่ทรงใส่พระทัยและให้ความสำคัญต่อความสัมพันธ์จีน-บรูไนมาโดยตลอด และย้ำว่า ผู้นำทั้งสองประเทศควรกระชับการไปมาหาสู่กัน เพื่อกำหนดทิศทางของการพัฒนาความสัมพันธ์ ในขณะที่ผู้นำจีนได้ชื่นชมบรูไนที่ยืนหยัดในนโยบายจีนเดียวอย่างเด็ดเดี่ยว ซึ่งจีนจะสนับสนุนบรูไนด้านการพัฒนาประเทศในทางที่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง

๓. ปัจจัยที่สนับสนุนต่อการดำเนินความสัมพันธ์แบบหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างจีนกับบรูไน
        ๓.๑ หนังสือพิมพ์ เอเชีย ไทมส์ ได้รายงานข่าวว่า เมื่อต้นปีนี้ ธนาคาร Citi bank และธนาคาร HSBC ได้หยุดธุรกรรมทางการเงินกับบรูไน เนื่องจากปีหลังๆ นี้ ราคาพลังงานของทั่วโลกลดลง ทำให้ธุรกิจน้ำมันและแก๊สธรรมชาติของธนาคารเหล่านี้เสื่อมถอยลงเรื่อยๆ แต่ทว่า มีธนาคารแห่งหนึ่งกลับพัฒนาธุรกรรมในบรูไน และชดเชยช่องว่างหลังธนาคารถอนตัวออกจากตลาดบรูไน นั่นก็คือธนาคารจีน(Bank of China)
        ๓.๒ บรูไนเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันใหญ่อันดับที่ ๓ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศผลิตแก๊สธรรมชาติใหญ่อันดับที่ ๔ ของโลก อุตสาหกรรมน้ำมันและแก๊สธรรมชาติ คิดเป็นสัดส่วนประมาณ ๖๐% ของเศรษฐกิจประชาชาติ ในช่วงปีหลังๆ นี้ ราคาน้ำมันในตลาดโลกแกว่งตัว ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจบรูไนเป็นอย่างมาก ทำให้บรูไนต้องเสนอยุทธศาสตร์การพัฒนา “ปณิธาน ๒๐๓๕” เพื่อแสวงหาการพัฒนาเศรษฐกิจหลายด้าน ขณะที่นักลงทุนต่างชาติเตรียมถอนออกจากบรูไนนั้น จีนกลับได้ให้การสนับสนุนอย่างมุ่งมั่น โดยเฉพาะเมื่อปี ๒๐๑๖ (พ.ศ.๒๕๕๙) ธนาคารจีนก็ได้ตั้งสาขาที่บรูไน เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักลงทุนจีน
        ๓.๓ จีนกับบรูไนสร้างความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อปี ๑๙๙๑ (พ.ศ.๒๕๓๓) แต่ในปี ๒๐๑๓ (พ.ศ.๒๕๕๖) ทั้งสองประเทศก็ตกลงจะยกระดับความสัมพันธ์แบบทวิภาคีให้เป็นความสัมพันธ์แบบหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ และในปีเดียวกันนั้น ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีนได้เสนอความริเริ่ม “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” (Belt and Road Initiative : BRI) โดยบรูไนได้ให้การสนับสนุนความริเริ่มดังกล่าวนี้อย่างแข็งขัน และทั้งสองฝ่ายได้ลงนามข้อตกลงเชื่อมต่อความริเริ่ม “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” กับ “ปณิธานปี ๒๐๓๕” เข้าด้วยกัน
        ๓.๔ เมื่อวันที่ ๑๕ พ.ย.๖๑ ที่กรุงบันดาร์เสรีเบกาวัน เมืองหลวงของบรูไน สำนักงานสารนิเทศแห่งคณะรัฐมนตรีจีนได้จัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม ๓ งาน เพื่อผลักดันความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับบรูไนให้ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของประวัติศาสตร์ความร่วมมือในด้านต่างๆของสองประเทศมีจะมีอนาคตที่กว้างไกล ได้แก่ “การประชุมสัมมนาสื่อจีน – บรูไน” “งานนิทรรศการเส้นทางสายไหมอันรุ่งโรจน์” และ “งานแลกเปลี่ยนเรื่องราวมิตรภาพระหว่างจีนกับบรูไน” โดยมีบุคคลจากแวดวงต่างๆของจีนและบรูไนเข้าร่วมอภิปรายหารือกันในประเด็นเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรมและมนุษยชาติ

บทสรุป

ก่อนที่จะเดินทางไปเยือนบรูไน สื่อมวลชนของบรูไนได้เผยแพร่บทความของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ในหัวข้อ “ร่วมกันสร้างสรรค์ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับบรูไน” ซึ่งบทความดังกล่าวมีใจความว่า โครงการสร้างสรรค์ “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” หรือ BRI ได้รับเสียงสะท้อนและการสนับสนุนอย่างแข็งขันจากบรูไน โดยทั้งสองฝ่ายได้ลงนามบันทึกช่วยจำเพื่อความเข้าใจ และผลักดันให้ความริเริ่มนี้เชื่อมต่อกับ “แผนการพัฒนาปี ๒๐๓๕” ของบรูไน ซึ่งเป็นการเติมพลังงานใหม่สำหรับการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ นอกจากนี้ บทความดังกล่าวได้ชี้ให้เห็นว่า ทั้งสองประเทศควรเพิ่มพูนความไว้วางใจทางการเมือง และการวางแผนยุทธศาสตร์ระยะยาว เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับบรูไน รวมทั้งส่งเสริมการไปมาหาสู่กันระหว่างเจ้าหน้าที่ชั้นสูง และผลักดันให้ความสัมพันธ์ทวิภาคีก้าวยกระดับสูงยิ่งๆ ขึ้นไป

ประมวลโดย : พลตรีไชยสิทธิ์ ตันตยกุล

ข้อมูลจากเว็บไซต์

http://www.xinhuanet.com/english/2018-11/18/c_137615725.htm

http://thai.cri.cn/20181119/26b17e5d-c1a4-c54a-6385-d4f7454bddcf.html 

http://thai.cri.cn/20181119/eaaa573e-9004-c89f-d680-b04a4a6823a5.html 

http://thai.cri.cn/20181117/20e553de-d18e-f5ca-5a42-fe49701de8c8.htm

http://thai.cri.cn/20181119/c02d7f6b-63fc-49dd-2a55-924c47c41edc.html 

http://thai.cri.cn/20181116/14d05a06-f088-36c2-a996-e5b13e035472.html 

https://www.channelnewsasia.com/news/asia/china-s-xi-in-brunei-as-oil-dependent-sultanate-seeks-investment-10946754

https://www.rappler.com/world/regions/asia-pacific/217053-xi-jinping-in-brunei-as-sultanate-seeks-investment