ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ที่ได้เน้นย้ำให้กองทัพต้องภักดีต่อพรรคคอมมิวนิสต์จีน ภายหลังจากการเป็นประธานการประชุมคณะกรรมาธิการทหารกลาง ระหว่างวันที่ ๑๗ - ๑๙ ส.ค.๖๑ ณ กรุงปักกิ่ง ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
๑. ในการประชุมระหว่างประธานาธิบดี สี จิ้นผิง และกลุ่มผู้นำทหารระดับสูงสุดของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (People's Liberation Army : PLA) เมื่อวันที่ ๑๙ ส.ค.๖๑ โดยมีผู้เข้าร่วมการประชุมจากฝ่ายกองทัพได้แก่ คณะกรรมาธิการทหารส่วนกลาง ผู้นำพรรคฯ ประจำเขต หน่วยงานและสถาบันต่างๆ ของกองทัพ ซึ่งประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้กล่าวเน้นถึงความจงรักภักดีของกองทัพต่อพรรคคอมมิวนิสต์จีน และการขยายการนำของพรรคฯ ที่จะช่วยให้กองทัพบรรลุภารกิจแห่งยุคใหม่ในการสร้างสังคมนิยมแบบมีอัตลักษณ์จีน
๒. การที่กองทัพจะบรรลุภารกิจแห่งยุคใหม่ ในการสร้างสังคมนิยมแบบมีอัตลักษณ์จีนนั้น ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้เคยกล่าวเน้นในการประชุมคณะกรรมาธิการทหารกลาง เมื่อวันที่ ๑๖ พ.ย.๕๕ ว่าหมายถึง การที่กองทัพต้องอยู่ภายใต้การชี้นำของพรรคคอมมิวนิสต์จีนอย่างเด็ดขาด เพื่อให้มั่นใจได้ว่าทหารทุกหมู่เหล่าจะยืนหยัดปฏิบัติตามคำบัญชาการของคณะกรรมการกลางและคณะกรรมาธิการทหารกลางของพรรคฯ โดยต้องพยายามส่งเสริมการสร้างกองทัพให้มีการปฏิรูป มีความทันสมัยและได้มาตรฐานตามแนวคิดในการพัฒนารอบด้านทั้งเศรษฐกิจ การเมือง วัฒนธรรม สังคมและระบบนิเวศ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ โดยมีการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรมในการเร่งปรับเปลี่ยนรูปแบบการสร้างกำลังสู้รบ เพื่อทำให้ประชาชนมั่งคั่ง ประเทศชาติมั่นคงเข้มแข็ง และประชาชาติจีนอันยิ่งใหญ่ฟื้นกลับคืนสู่ความเจริญรุ่งเรืองอีกครั้ง
๓. ข้อสังเกต เกี่ยวกับสภาวะแวดล้อมด้านความมั่นคงที่กระทบต่อบทบาทของกองทัพ
๓.๑ เฉิน เต้าอิน ผู้เชี่ยวชาญด้านรัฐศาสตร์ชาวจีน วิเคราะห์ว่า การที่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ซึ่งควบตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการทหารกลางด้วยนั้น ได้เน้นถึงอำนาจทางการเมือง โดยการควบคุมกองทัพ อันเป็นฐานในกาสร้างอำนาจของพรรคฯ และการประชุมฯ ดังกล่าว ก็ได้ส่งสัญญาณว่า ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง มีอำนาจควบคุมที่แข็งแกร่งเหนือกองทัพ และเป็นการกล่าวย้ำถึงการมีอำนาจเหนือกองทัพของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง หลังจากที่มีประชุมร่วมกับเหล่าผู้นำระดับวงในสุดของคณะกรรมมาธิการประจำกรมการเมืองหรือโปลิตบูโรแห่งพรรคฯ ณ รีสอร์ทริมทะเลทางเหนือเป่ยไต้เหอเป็นเวลานานกว่าสองสัปดาห์ และถือเป็นการปลีกตัวจากกิจการทั้งปวงของกลุ่มผู้นำที่ทรงอิทธิพลที่สุดของจีนจำนวน ๗ คน ที่มาประชุมร่วมกันอย่างไม่เป็นทางการ เพื่อตกลงฉันทามติในประเด็นสำคัญๆ ของประเทศ ซึ่งเป็นการประชุมลับสุดยอด โดยที่ไม่มีการประกาศใดๆ สู่สาธารณะ
๓.๒ นักวิเคราะห์ข่าวต่างคาดการณ์ว่า ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง จะยังคงเดินหน้าปฏิบัติการต่อต้านคอรัปชั่นในกองทัพต่อไป และกองทัพต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของพรรคฯ อย่างพรักพร้อม อีกทั้งปรับตัวเคลื่อนไหวการปรับโครงสร้างกองทัพอย่างรวดเร็ว ในขณะที่เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้ มีการประท้วงของกลุ่มนายทหารผ่านศึกในเมืองต่างๆ บางกลุ่มถึงกับก่อความรุนแรง เพื่อเรียกร้องการยกระดับสิทธิประโยชน์และสวัสดิการต่างๆ ทั้งนี้ เนื่องจาก PLA มีกำลังพลใหญ่สุดในโลก โดยมีกลุ่มทหารผ่านศึกจำนวนถึง ๕๗ ล้านคน ได้ต่อสู้เรียกร้องสวัสดิการที่ดีขึ้นเป็นเวลาหลายปี และหลังการประท้วงใหญ่เมื่อปีที่แล้ว ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้ออกมาสัญญาว่าจะแก้ไขปัญหา
๓.๓ เมื่อวันที่ ๑๘ ส.ค.๖๑ นายลู่ คัง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน ได้แสดงท่าทีต่อ "รายงานแนวโน้มการพัฒนาทางทหาร และความมั่นคงของจีน" ประจำปี ๒๐๑๘ (พ.ศ.๒๕๖๑) ซึ่งกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ประกาศเมื่อเร็วๆ นี้ โดยกล่าวว่า จีนขอคัดค้านต่อกรณีที่สหรัฐฯ วิจารณ์การทหารของจีนอย่างไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะจุดมุ่งหมายเชิงยุทธศาสตร์และการคุกคามทางทหารของจีน รวมถึงการวิจารณ์การรักษาประโยชน์และอธิปไตยเหนือดินแดนของจีน ดังนั้น จีนจึงขอคัดค้านรายงานของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ฉบับดังกล่าว
บทสรุป
การที่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เน้นถึงความจงรักภักดีของกองทัพต่อพรรคคอมมิวนิสต์จีน และการขยายการนำของพรรคฯ ที่จะช่วยให้กองทัพบรรลุภารกิจแห่งยุคใหม่ในการสร้างสังคมนิยมแบบมีอัตลักษณ์จีนนั้น นอกจากจะเป็นการรักษาท่าทีในการปฏิบัติงานและประเพณีที่มีมาช้านานของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนในฐานะที่เป็นกองทัพของพรรคคอมมิวนิสต์จีนแล้ว ยังได้มุ่งเน้นถึงจุดยืนในการพัฒนาและการปฏิบัติตามนโยบายทางการทหารอย่างสันติในเวทีการเมืองระหว่างประเทศ โดยจีนได้แสดงบทบาทในการเป็นผู้รักษาสันติภาพ รวมทั้งเป็นผู้สร้างคุณูปการต่อการพัฒนา และเป็นผู้ปกป้องระเบียบของโลก นอกจากนี้ จีนยังคงมุ่งผลักดันการพัฒนาทางการทหาร เพื่อป้องกันเอกราช อธิปไตยและบูรณภาพเหนือดินแดนของจีน ซึ่งจีนเห็นว่าเป็นสิทธิอันชอบธรรมที่ไม่อาจมีข้อโต้แย้งใดๆ เกิดขึ้นได้อีก เพื่อดำรงไว้ซึ่งเสถียรภาพของโลกและภูมิภาค ในอันที่จะทำให้จีนสามารถปฏิรูปและพัฒนาประเทศได้ตามยุทธศาสตร์ที่กำหนดไว้
ประมวลโดย : พันเอกไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
ข้อมูลจากเว็บไซต์
https://mgronline.com/china/detail/9610000083190
http://thai.cri.cn/247/2018/08/19/234s270136.htm