bg-head-3

บทความ

จีนศึกษา วันพุธที่ ๒๓ พ.ค.๖๑ : โครงการ "หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง" (Belt and Road Initiative : BRI)

โครงการ "หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง" (Belt and Road Initiative : BRI)  ได้นำโอกาสและสร้างผลสำเร็จให้แก่ประเทศทั่วโลกในช่วง ๕ ปีที่ผ่านมา มีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

๑. นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน ได้กล่าวขณะอยู่ในระหว่างการเดินทางเยือนประเทศฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ ๑๖ พ.ค.๖๑ ว่าแผนการดำเนินโครงการความริเริ่ม "หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง" หรือ BRI ว่า นับตั้งแต่มีการเสนอแผนการดังกล่าวโดยประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เมื่อปี ๒๐๑๓ (พ.ศ.๒๕๕๖) ยอดการค้าระหว่างจีนกับประเทศต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง มีกว่า ๔ ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ยอดการลงทุนมีกว่า ๖๐,๐๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และจีนกับอีก ๔๓ ประเทศได้เปิดเส้นทางการบินตรงระหว่างกัน นอกจากนี้จีนยังได้สร้างเขตความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้าภายนอกประเทศ ๗๕ แห่ง ซึ่งสร้างโอกาสการมีงานทำในท้องถิ่นกว่า ๒ แสนอัตรา

๒. ในขณะที่ นายเมิ่ง เหว่ย โฆษกคณะกรรมการการปฏิรูปและการพัฒนาแห่งชาติจีน ก็ได้แถลงถึงเรื่องนี้ที่กรุงปักกิ่งเมื่อวันที่ ๑๖ พ.ค.๖๑ เช่นเดียวกันว่า ผลการประชุมสุดยอดความร่วมมือระหว่างประเทศ "หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง" กว่าร้อยละ ๙๐ ได้แปรเป็นงานประจำแล้ว ส่วนโครงการสำคัญ ความร่วมมือด้านการค้ากับการลงทุนด้านศักยภาพการผลิต การบริการภาคการเงิน การแลกเปลี่ยนด้านบุคลากรและวัฒนธรรมก็ประสบความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ทั้งนี้การประชุมสุดยอดความร่วมมือระหว่างประเทศ "หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง" ณ กรุงปักกิ่ง เมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว ได้มีการจัดทำบัญชีผลการประชุมฯ ซึ่งนายเมิ่ง เหว่ย เน้นว่าช่วง ๑ ปีที่ผ่านมา ภายใต้ความพยายามร่วมกันของทุกฝ่าย กิจการงานต่าง ๆ กำลังดำเนินไปอย่างเป็นระบบและได้รับผลอย่างจริงจัง

๓. ในโอกาสที่ย่างเข้าสู่ปีที่ ๕ ปี ของแผนดำเนินการตามโครงการความริเริ่ม "หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง" ในปี ๒๐๑๘ (พ.ศ.๒๕๖๑) ซึ่งรัฐบาลจีนประเมินว่า การปฏิบัติตามแผนการดังกล่าวมีผลงานเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก และในอนาคตจีนจะขยายการเปิดประเทศมากขึ้น รวมทั้งแสวงหารูปแบบใหม่ในการเปิดประเทศ โดยใช้โครงการความริเริ่ม "หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง" เป็นหลัก เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจให้เติบโตซึ่งจะเป็นผลประโยชน์ร่วมกันของทั่วโลก กล่าวคือ
        ๓.๑ มีประเทศ เขตปกครองพิเศษ องค์กร และวิสาหกิจเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก โดยตั้งแต่ปี ๒๐๑๓ (พ.ศ.๒๕๕๖) จนถึงเดือน เม.ย.๖๑ จีนได้ลงนามกับ ๘๖ ประเทศและองค์กรระหว่างประเทศ
        ๓.๒ มีข้อตกลงความร่วมมือจำนวน ๑๐๑ ฉบับ รวมทั้งด้านสาธารณูปโภค การผลิต เศรษฐกิจการค้า การเงิน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตลอดจนด้านสังคม จีนได้ลงนามในข้อตกลงการค้าเสรี ๑๖ ฉบับกับ ๒๔ ประเทศและเขตปกครองพิเศษ รวมถึงเกาหลีใต้ ปากีสถาน อาเซียน เปรู และชิลี เป็นต้น

บทสรุป

อาจกล่าวได้ว่า ในช่วง ๕ ปีที่ผ่านมา แผนการดำเนินการตามโครงการความริเริ่ม "หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง" หรือ BRI ได้สร้างประโยชน์ให้ประเทศและภูมิภาคต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น โดยจีนยินดีต้อนรับประเทศต่าง ๆ เข้าร่วม โครงการ BRI เพื่อก้าวไปสู่อนาคตที่มีความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน ทั้งนี้เนื่องจากพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าแผนงานนี้ได้สอดคล้องกับกระแสโลกาภิวัตน์ ซึ่งจะนำประโยชน์มาสู่ประชาชนประเทศต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างแท้จริง นอกจากนี้ยังมีการริเริ่มให้เด็กและเยาวชนเข้าร่วมในกิจกรรม "Belt and Road เชื่อมใจประชาชน" โดยมีคณะเยาวชนของประเทศต่าง ๆ ส่งตัวแทนเข้าร่วมในกิจกรรมการเยี่ยมเยือนสถานที่สำคัญในประเทศจีนและการปะพบแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกับนักเรียนของจีน ซึ่งมีตัวแทนของนักเรียนไทยเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวนี้ด้วย อันจะเป็นการสร้างการเรียนรู้และสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างประเทศเพื่อความร่วมมือต่อการดำเนินโครงการ BRI ระยะยาวในอนาคต

ประมวลโดย : พันเอกไชยสิทธิ์ ตันตยกุล

ข้อมูลจากเว็บไซต์

http://thai.cri.cn/247/2018/05/18/225s267228.htm

http://thai.cri.cn/247/2018/05/17/233s267199.htm

http://thai.cri.cn/247/2018/05/15/225s267135.htm

http://thai.cri.cn/247/2018/05/17/226s267216.htm