กรณีที่จีนได้ร่างกฎหมายหลายฉบับเกี่ยวกับการลงทุนจากต่างชาติ เพื่อสร้างระบบกฎหมายที่มีประสิทธิภาพ และอำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุนต่างชาติมากยิ่งขึ้น ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
๑. เมื่อช่วงบ่ายวันที่ ๒๓ ธ.ค.๖๑ ที่กรุงปักกิ่ง คณะกรรมการประจำสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีน ซึ่งเป็นองค์กรนิติบัญญัติของจีน ได้เริ่มพิจารณาตรวจสอบร่างกฎหมายว่าด้วยการลงทุนของนักธุรกิจต่างชาติ ซึ่งเป็นกฎหมายพื้นฐานด้านการลงทุนต่างชาติในจีน มุ่งส่งเสริมการลงทุนและคุ้มครองการลงทุน แสดงถึงความเชื่อมั่นและความตั้งใจของจีนในการเปิดเสรีและยกระดับการลงทุนรอบใหม่ให้สูงขึ้น ทั้งนี้ เมื่อเดือน ต.ค.๖๑ ผู้ประกอบการลงทุนต่างชาติในจีนมีเกือบ ๙๕๐,๐๐๐ ราย ทุนต่างชาติทั้งหมดกว่า ๒.๑ ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งการลงทุนของนักธุรกิจต่างชาติ ถือเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมจีน
๒. ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ ๒๒ ธ.ค.๖๑ นายถัง เหวินหง อธิบดีกรมการลงทุนต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์จีนได้เปิดเผยว่า ปี ๒๐๑๙ (พ.ศ.๒๕๖๒) จีนจะตัดบัญชีรายการข้อห้ามต่างชาติลงทุนให้น้อยลง โดยจะทำเป็นบัญชีรายการที่ห้ามต่างชาติลงทุนฉบับปี ๒๐๑๙ (พ.ศ.๒๕๖๒) เพื่อรองรับต่อผลการประชุมเศรษฐกิจส่วนกลางของจีนระหว่างวันที่ ๑๙ – ๒๑ ธ.ค.๖๑ ที่ระบุว่า ควรผ่อนปรนการอนุมัติการเข้าตลาด ให้ทุนเอกเทศเข้าสู่กิจการต่างๆ มากขึ้น ตามหลักการปฏิบัติที่เท่าเทียมก่อนอนุมัติเข้าตลาดและระบบบัญชีรายการที่ห้ามต่างชาติลงทุน ซึ่งทุนเอกเทศกับทุนร่วมล้วนดีทั้งสิ้น และในขั้นต่อไปจะสร้างบรรยากาศการทำธุรกิจที่ดีขึ้นกว่าเดิม ให้โอกาสการลงทุนแก่ผู้ประกอบการมากขึ้น
๓. ข้อสังเกต เมื่อวันที่ ๑๓ ธ.ค.๖๑ กระทรวงพาณิชย์จีนประกาศข้อมูลเชิงสถิติว่า ๑๑ เดือนแรกของปีนี้ จีนได้จัดตั้งวิสาหกิจทุนต่างชาติ ๕๔,๗๐๓ แห่ง เพิ่มขึ้นร้อยละ ๗๗.๕ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมียอดทุนต่างชาติ ๗๙๓,๒๗๐ ล้านหยวน ลดลงร้อยละ ๑.๓ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่ยังคงรักษาระดับความมั่นคง โดยพบว่าการดึงทุนต่างชาติใน ๑๑ เดือนแรกมีลักษณะพิเศษ อันได้แก่
๓.๑ อุตสาหกรรมไฮเทคยังรักษาแนวโน้มการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
๓.๒ การดึงดูดทุนต่างชาติในเขตการค้าเสรีทางภาคกลางและตะวันตกมีอัตราการเติบโตแซงหน้าทั่วประเทศจีน
๓.๓ ทุนต่างชาติที่มาจากแหล่งทุนสำคัญ เช่น สิงคโปร์ เกาหลีใต้ อังกฤษ ญี่ปุ่น สหรัฐฯ และเยอรมนี มีการเติบโตอย่างราบรื่น ในขณะเดียวกัน ทุนต่างชาติจากประเทศรายทาง “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” กลุ่มอาเซียน และสหภาพยุโรปก็มีการเติบโตเช่นเดียวกัน
บทสรุป
ปัจจุบัน จีนได้มุ่งส่งเสริมการลงทุนและคุ้มครองการลงทุน เพื่อแสดงถึงความเชื่อมั่นและความตั้งใจของจีนในการเปิดเสรีและยกระดับการลงทุนรอบใหม่ให้สูงขึ้น โดยเฉพาะการสร้างกรอบการดึงดูดทุนต่างชาติด้วยนโยบายการเปิดเสรีด้านการลงทุน มีการปรับบัญชีรายการที่ห้ามต่างชาติลงทุน รวมทั้งการสร้างระบบกฎหมายที่มีประสิทธิภาพ ในการอำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งพบว่า ในเดือน ต.ค.๖๑ เพียงเดือนเดียว มีธุรกิจจากอาเซียนไปลงทุนจัดตั้งบริษัทในจีนถึง ๑๖๗ แห่ง เพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ ๗๙.๖ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ประมวลโดย : พลตรีไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
ข้อมูลจากเว็บไซต์
http://thai.cri.cn/20181224/1190858b-f553-a7d7-9620-4a1f513657ea.html
http://thai.cri.cn/20181224/ec673240-b445-8de0-e19a-cd452a1b164a.html
http://thai.cri.cn/20181214/fe79cc47-28b6-5d6e-68a3-4f33f71d209b.html
http://thai.cri.cn/20181128/135aad44-62ae-aeb3-d4ac-a93940bda620.html