จีนศึกษา วันพุธที่ ๒๙ เม.ย.๖๓ ขอนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับข้อคิดเพิ่มเติมจากการการลงพื้นที่ตรวจงานในมณฑลส่านซีของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ในฐานะเลขาธิการใหญ่ คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ระหว่างวันที่ ๒๐ – ๒๓ เม.ย.๖๓ โดยได้สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจที่จะนำพาประเทศจีนบรรลุเป้าหมายการขจัดความยากจนอย่างรอบด้าน ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
๑. ข้อคิดจากการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐที่เมืองอันคัง มณฑลส่านซี เมื่อวันที่ ๒๑ เม.ย.๖๓ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้กล่าวทิ้งท้ายก่อนอำลาชาวบ้านว่า “ข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ชาวบ้านทุกคน จะสามารถอยู่เย็นเป็นสุข สมกับชื่อของเมืองว่า “อันคัง-สุขสวัสดิ์” และหวังว่า ประชาชนจีนจะก้าวสู่สังคมเหลือกินเหลือใช้โดยไม่ตกหล่นแม้แต่คนเดียว หลุดพ้นจากความยากจนได้อย่างราบรื่นและอยู่ร่มเย็นเป็นสุขกันถ้วนหน้า” และในวันเดียวกันได้เดินทางไปเยือนชุมชนจิ่นผิงในอำเภอผิงลี่ ซึ่งเป็นชุมชนที่ตั้งขึ้นเพื่อรองรับการอพยพของชาวบ้านจาก ๑๑ หมู่บ้านยากจนและประสบกับปัญหาภัยธรรมชาติ จำนวนทั้งหมด ๔,๑๗๓ คน โดยหลังจากชาวบ้านได้อพยพมายังที่อยู่อาศัยแห่งใหม่นี้แล้ว ทางการท้องถิ่นของอำเภอผิงลี่ได้ดำเนินมาตรการระดมทุน และจัดสร้างโรงงานภายในชุมชนขึ้น จนสามารถแก้ไขปัญหาการมีงานทำของชาวบ้านได้ นับเป็นอีกหนึ่งแนวทางใหม่ในการช่วยบรรเทาความยากจนและสร้างโอกาสการทำงานให้กับชาวบ้าน
๒. ข้อคิดจากการเดินทางตรวจเยี่ยมเมืองซีอัน ซึ่งเป็นเมืองเอกของมณฑลส่านซี เมื่อวันที่ ๒๒ เม.ย.๖๓ โดยได้รับฟังรายงานสภาพการฟื้นการผลิตและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ ทั้งคนทำงานในกลุ่มบริษัทรถยนต์ส่านซี มหาวิทยาลัยการคมนาคมเมืองซีอัน และย่านการค้าถนนคนเดินต้าถังที่ไม่หลับใหล
๒.๑ การเยี่ยมชมกลุ่มบริษัทรถยนต์ส่านซี ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตที่ใหญ่ที่สุดทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน รวมทั้งอยู่ระดับแนวหน้าในแวดวงพลังงานสะอาด พลังงานใหม่ และรถยนต์อัจฉริยะเชิงพาณิชย์ ฯลฯ โดยมีเทคโนโลยีที่จดสิทธิบัตรกว่า ๒๒๐ รายการ และดำเนินโครงการผลิตรถยนต์พลังงานใหม่เชิงพาณิชย์ ๘๖๓ โครงการ นอกจากนี้ ทางบริษัทยังได้ผลิตรถบรรทุกหนักระดับ L4 และรถยนต์ที่ใช้พลังงานเซลล์เชื้อเพลิงคันแรกของจีนด้วย และเมื่อวันที่ ๑๔ ก.พ.๖๓ กลุ่มบริษัทรถยนต์ส่านซีได้ฟื้นการผลิตแล้วอย่างรอบด้านแล้ว
๒.๒ การเยี่ยมดูงานที่พิพิธภัณฑ์ซีเชียน มหาวิทยาลัยการคมนาคมของเมืองซีอัน โดยได้พูดคุยกับคณาจารย์และนักศึกษาว่า ควรสืบทอดเจตนารมณ์ของศาสตราจารย์ผู้อาวุโสในประวัติศาสตร์ ความก้าวหน้าจะเกิดขึ้นหลังจากภัยพิบัติใหญ่ ชนชาติจีนจะเติบโตและเข้มแข็งขึ้นในความยากลำบากแบบนี้ เชื่อว่า นักศึกษาและอาจารย์ของมหาวิทยาลัยการคมนาคมเมืองซีอัน พร้อมทั้งประชาชนภาคตะวันตกของจีน จะสามารถสร้างคุณูปการที่ยอดเยี่ยมให้กับประเทศชาติในกระบวนการพัฒนาของยุคสมัยใหม่นี้
๒.๓ การได้ไปรับฟังการรายงานสภาพการฟื้นการดำเนินงานของ “ถนนคนเดินต้าถังที่ไม่หลับใหล” ย่านการค้าชื่อดังของเมืองซีอัน ซึ่งเมื่อเกิดการระบาดของโควิด-๑๙ ย่านการค้าแห่งนี้ต้องเงียบเหงาไร้ผู้คน แต่ปัจจุบัน ได้เริ่มกลับมาคึกคักมีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง
๓. ข้อสังเกต มีรายงานข่าวว่า ในช่วงระยะเวลาสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากมณฑลส่านซีแล้ว มณฑลต่างๆ ก็ได้ประกาศความสำเร็จในการทำให้หลุดพ้นจากความยากจน อาทิ อำเภอหนิงตูและอำเภอยากจนอีก ๖ อำเภอในมณฑลเจียงซี ได้ประกาศเมื่อวันที่ ๒๖ เม.ย.๖๓ ว่า ปัจจุบัน อำเภอที่เคยยากจนในมณฑลเจียงซีล้วนหลุดพ้นความยากจนแล้ว ทั้งนี้ ในช่วงที่มณฑลเจียงซีต่อสู้ขจัดความยากจน ทางการมณฑลเจียงซีได้ระดมเงินทุนเพื่อช่วยเหลืออำเภอยากจนโดยเฉพาะรวม ๓๙,๗๐๐ ล้านหยวน เพื่อใช้ในการปลูกผัก ส้ม และใบชา อีกทั้งพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตเพื่อหลุดพ้นความยากจนด้วย เป็นต้น ซึ่งหากนับจนถึงวันที่ ๒๖ เม.ย.๖๓ จะพบว่า อำเภอยากจนในมณฑลเหอเป่ย มณฑลซานซี เขตปกครองตนเองมองโกเลียใน มณฑลจี๋หลิน มณฑลเฮยหลงเจียง มณฑลเหอหนาน มณฑลหูหนาน มณฑลไห่หนาน มหานครฉงชิ่ง เขตปกครองตนเองทิเบต มณฑลส่านซี มณฑลชิงไห่ และมณฑลหูเป่ย ต่างล้วนหลุดพ้นจากความยากจนแล้ว
บทสรุป
ปีนี้ถือเป็นปีที่ต้องรบแตกหักเพื่อการบรรลุเป้าหมายในการสร้างสังคมพออยู่พอกินอย่างถ้วนทั่วให้กับประชาชนจีน ดังนั้น การลงพื้นตรวจงานที่มณฑลส่านซีของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง จึงได้เน้นย้ำการกำหนดทิศทางอย่างชัดเจนในการดำเนินมาตรการลดความยากจน รวมถึงด้านอุตสาหกรรม การสร้างโอกาสการมีงานทำ สุขอนามัยของประชาชน และการศึกษา เป็นต้น ถือเป็นการส่งสัญญาณอย่างจัดเจนว่า จีนจะบรรลุเป้าหมายการขจัดความยากจนอย่างรอบด้านตามแผนการที่กำหนด อีกทั้งยังแสดงให้เห็นถึงแนวคิดการบริหารประเทศโดย “ถือประชาชนเป็นศูนย์กลาง” ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน
ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
ข้อมูลจากเว็บไซต์
