bg-head-3

บทความ

จีนศึกษา วันพุธที่ ๓๐ ต.ค.๖๒ นายหลี่ เค่อเฉียง (H.E. Mr. Li Keqiang) นายกรัฐมนตรีจีน มีกำหนดเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ (Official Visit) เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๓๕ และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้องระหว่างวันที่ ๒ – ๕ พ.ย.๖๒

ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

๑. นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง ของจีน มีกำหนดเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาลไทย โดยในวันที่ ๕ พ.ย.๖๒ นายหลี่ เค่อเฉียง มีกำหนดหารือข้อราชการกับพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรีทั้งสองฝ่ายจะใช้โอกาสการพบหารือกันครั้งนี้ ยืนยันความเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้านที่ใกล้ชิดระหว่างไทยกับจีน และกำหนดทิศทางพัฒนาความสัมพันธ์ในระยะต่อไป รวมถึงแลกเปลี่ยนความเห็นในประเด็นภูมิภาคและระหว่างประเทศที่สนใจร่วมกัน นอกจากนี้ภายหลังการหารือ นายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศจะร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามความตกลงและบันทึกความเข้าใจด้านต่าง ๆ อาทิ การค้าอิเล็กทรอนิกส์ วิทยาศาสตร์และนวัตกรรม และการแลกเปลี่ยนด้านสื่อมวลชน เป็นต้น ตลอดจนการที่ นายกรัฐมนตรีจีนมีกำหนดจะเข้าเยี่ยมคารวะประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ณ อาคารรัฐสภา อีกด้วย

๒. นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน ได้เคยเดินทางเยือนไทยครั้งล่าสุดเมื่อปี พ.ศ.๒๕๕๗ โดยได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ครั้งที่ ๕ และเมื่อเดือน เม.ย.๖๒ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้มีโอกาสพบหารือกับ นายหลี่ เค่อเฉียง ระหว่างเข้าร่วมการประชุมเวทีความร่วมมือระหว่างประเทศ “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” หรือ “สายแถบและเส้นทาง” (Belt and Road Forum for International Cooperation - BRF) ครั้งที่ ๒ ณ กรุงปักกิ่ง โดยที่ทั้งไทยและจีนยังมีศักยภาพในการพัฒนาความร่วมมือด้านเศรษฐกิจได้อีกมาก เพื่อบรรลุเป้าหมายการค้าทวิภาคีที่ตั้งไว้ที่ ๑๔๐,๐๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี พ.ศ.๒๕๖๔

๓. ข้อสังเกต
        ๓.๑ นายกรัฐมนตรีจีนจะแสดงท่าทีในการเป็นผู้รักษาเสถียรภาพและขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจของโลก อันเป็นแนวคิดใหม่และข้อริเริ่มใหม่ด้านการต่างประเทศ ที่ประกอบด้วยคำ ๓ คำ ได้แก่ วิสัยทัศน์ ข้อริเริ่ม และความมุ่งมั่น ซึ่งนำเสนอโดย ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เพื่อปกป้องสันติภาพและส่งเสริมระเบียบปฏิบัติระหว่างประเทศ ได้แก่
               (๑) การมีวิสัยทัศน์ (Vision) ที่จะสนับสนุนการเจรจา การเป็นหุ้นส่วน ความร่วมมือเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน และร่วมกันสร้างประชาคมโลกที่มนุษยชาติมีอนาคตร่วมกัน
               (๒) การขับเคลื่อนข้อริเริ่ม (Initiative) “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” ซึ่งเป็นผลประโยชน์ร่วมกัน
               (๓) ความมุ่งมั่น (Consistency) ที่จะส่งเสริมความร่วมมือพหุภาคี การเปิดกว้าง และความเท่าเทียม ท่ามกลางกระแส protectionism และการต่อต้านโลกาภิวัตน์ ตลอดจนส่งเสริมการพัฒนาอย่างสันติ เพื่อรับมือกับความไร้เสถียรภาพและความขัดแย้ง
        ๓.๒ นายกรัฐมนตรีไทยในฐานะประธานอาเซียน ได้ให้ความสำคัญกับวิสัยทัศน์ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อาเซียน-จีน ค.ศ.๒๐๓๐ (พ.ศ.๒๕๗๓) ซึ่งจะเสริมสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งและส่งเสริมความร่วมมือบนผลประโยชน์ร่วมกัน รวมทั้งสนับสนุนให้มีการสรุปผลการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรือ RCEP ภายในปีนี้

บทสรุป
รูปธรรมประการหนึ่งที่จะยืนยันถึงความเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้านที่ใกล้ชิดระหว่างไทยกับจีนคือ การที่ทั้งสองฝ่ายจะส่งเสริมและร่วมมือกันเสริมสร้างขีดความสามารถด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ และขยายความสัมพันธ์ที่มีอยู่ระหว่างกันภายใต้กรอบของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ของแต่ละประเทศ และพันธสัญญาที่ทั้งสองประเทศได้ทำร่วมกัน ผ่านร่างหนังสือแสดงเจตจำนงว่าด้วยความร่วมมือระหว่างไทยกับจีน จำนวน ๒ ฉบับ ได้แก่ (๑) ร่างหนังสือแสดงเจตจำนงว่าด้วยความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ระหว่างกระทรวงกลาโหมกับคณะกรรมการบริหารงานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และอุตสาหกรรมเพื่อการป้องกันประเทศแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และ (๒) ร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการส่งเสริมความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ วิชาการและนวัตกรรม ระหว่างกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งราชอาณาจักรไทย และกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นต้น

ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล


ข้อมูลจากเว็บไซต์
http://english.cctv.com/2019/10/29/ARTIwqEQ9aVNDCNOPuLhZxI6191029.shtml

http://www.mfa.go.th/main/th/news3/6886/110777-%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%88-%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%89%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87-(H.E.-Mr.-Li-Keqiang)-%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%95.html

https://mgronline.com/politics/detail/9620000103139


https://www.matichon.co.th/politics/news_1467436


http://thai.cri.cn/247/2017/10/27/62s259856.htm


http://www.manager.co.th/China/viewnews.aspx?NewsID=9600000024036