bg-head-3

บทความ

จีนศึกษา (วันศุกร์ที่ ๑๘ พ.ย.๖๕) ขอนำเสนอประเด็นสำคัญที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้หารือกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ เมื่อตอนบ่ายของวันที่ ๑๔ พ.ย.๖๕ ที่เกาะบาหลี

     จีนศึกษา (วันศุกร์ที่ ๑๘ พ.ย.๖๕) ขอนำเสนอประเด็นสำคัญที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้หารือกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ เมื่อตอนบ่ายของวันที่ ๑๔ พ.ย.๖๕ ที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย โดยได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาและเชิงลึกเกี่ยวกับประเด็นเชิงยุทธศาสตร์ในความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ รวมถึงประเด็นสำคัญระดับโลกและระดับภูมิภาค ซึ่งนายสี จิ้นผิง ได้กล่าวถึงเรื่องสำคัญ อาทิ

     สถานการณ์หลักและความสำเร็จที่สำคัญของการประชุมสมัชชาใหญ่ครั้งที่ ๒๐ ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน โดยชี้ให้เห็นว่า นโยบายภายในและภายนอกของพรรคและรัฐบาลจีนนั้นเปิดกว้างและโปร่งใส ความตั้งใจเชิงยุทธศาสตร์นั้นเปิดกว้าง รวมทั้งรักษาความต่อเนื่องและเสถียรภาพในระดับสูง เพื่อส่งเสริมการฟื้นฟูที่ยิ่งใหญ่ของประชาชาติจีนอย่างครอบคลุมด้วยการปรับปรุงให้ทันสมัยแบบจีน ดำเนินการต่อโดยคำนึงถึงความปรารถนาของผู้คนเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นเป็นจุดเริ่มต้น ดำเนินการปฏิรูปและเปิดประเทศอย่างไม่ย่อท้อ และส่งเสริมการสร้างโลกที่เปิดกว้างทางเศรษฐกิจ จีนยังคงดำเนินนโยบายสันติภาพต่างประเทศที่เป็นอิสระอย่างมั่นคง ตัดสินใจจุดยืนและทัศนคติของตนตามข้อดีของเรื่องนั้นๆ เอง สนับสนุนการเจรจาและการปรึกษาหารือ การยุติข้อพิพาทอย่างสันติ กระชับและขยายความร่วมมือระดับโลก และปกป้องระบบระหว่างประเทศโดยมีสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศเป็นหัวใจหลัก ส่งเสริมการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันสำหรับมนุษยชาติ ตามระเบียบระหว่างประเทศ จีนจะยึดมั่นในการพัฒนาอย่างสันติ การพัฒนาแบบเปิดกว้าง และการพัฒนาแบบทั้งสองฝ่าย และจะมีส่วนร่วมและส่งเสริมการพัฒนาระดับโลกเพื่อให้บรรลุการพัฒนาร่วมกันกับประเทศอื่นๆ

     สำหรับที่มาของปัญหาไต้หวันและจุดยืนของจีนอย่างเป็นระบบ โดยเน้นย้ำว่าปัญหาไต้หวันเป็นแกนหลักของผลประโยชน์หลักของจีน เป็นรากฐานของรากฐานทางการเมืองของความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ และเป็นเส้นสีแดงเส้นแรกที่ผ่านไม่ได้ของความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ การแก้ปัญหาไต้หวันคือการดำเนินการของคนจีนและเป็นกิจการภายในของจีน การปกป้องความเป็นเอกภาพและบูรณภาพแห่งดินแดนของมาตุภูมิเป็นความปรารถนาร่วมกันของประชาชนจีนและประชาชาติจีน ใครก็ตามที่ต้องการแยกไต้หวันออกจากจีนถือว่าขัดต่อความยุติธรรมของจีน และคนจีนจะไม่มีวันเห็นด้วย หวังว่าจะได้เห็นและพยายามรักษาสันติภาพและเสถียรภาพตลอดช่องแคบไต้หวัน หวังว่าฝ่ายสหรัฐฯ จะปฏิบัติตามคำพูดและการกระทำของตน รวมทั้งปฏิบัติตามนโยบายจีนเดียวและแถลงการณ์ร่วมสามฉบับระหว่างจีน-สหรัฐฯ ซึ่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้กล่าวหลายครั้งว่าไม่สนับสนุน "เอกราชของไต้หวัน" และไม่มีเจตนาที่จะใช้ไต้หวันเป็นเครื่องมือในการแสวงหาความได้เปรียบในการแข่งขันกับจีนหรือกีดกันจีน จึงหวังว่าฝ่ายสหรัฐฯ จะดำเนินการตามคำสัญญาของประธานาธิบดี

     ทั้งนี้ ส่วนสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ คือการตระหนักและเคารพในความแตกต่างดังกล่าว แทนที่จะบังคับให้เหมือนกันหรือพยายามเปลี่ยนแปลงหรือแม้แต่ล้มล้างระบบของกันและกัน ฝ่ายสหรัฐฯ ควรสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินการที่เป็นรูปธรรม แทนที่จะพูดอย่างหนึ่งและทำอีกอย่างหนึ่ง

     ในขณะที่ผู้นำของทั้งสอประเทศงเห็นพ้องต้องกันว่า ทีมการทูตของทั้งสองฝ่ายจะต้องรักษาการสื่อสารเชิงยุทธศาสตร์และดำเนินการปรึกษาหารือกันอย่างสม่ำเสมอ ทั้งสองประเทศจะดำเนินการเจรจาและประสานงานด้านนโยบายเศรษฐกิจมหภาค ประเด็นทางเศรษฐกิจและการค้า และประเด็นอื่นๆ ตกลงที่จะทำงานร่วมกันเพื่อส่งเสริมความสำเร็จของการประชุมครั้งที่ ๒๗ ของภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะดำเนินการเจรจาและความร่วมมือด้านสาธารณสุข การเกษตร และความมั่นคงด้านอาหารระหว่างสองประเทศ ตกลงที่จะใช้คณะทำงานร่วมจีน-สหรัฐฯ ให้เกิดประโยชน์ในการส่งเสริมการแก้ไขปัญหาเฉพาะด้านมากขึ้น ยอมรับว่าการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนและวัฒนธรรมระหว่างจีนและสหรัฐฯ มีความสำคัญมากและส่งเสริมให้มีการแลกเปลี่ยนบุคลากรระหว่างสองประเทศในด้านต่างๆ

     นอกจากนี้ ผู้นำของทั้งสองประเทศยังได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นต่างๆ เช่น วิกฤตในยูเครน โดยนายสี จิ้นผิง ชี้ให้เห็นว่า จีนมีความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันในยูเครน หลังจากเกิดวิกฤตขึ้น ซึ่งผู้นำจีนได้เคยเสนอ "สี่ควร" และไม่นานมานี้ก็ได้เสนอ "สี่ร่วมกัน" ในการเผชิญกับวิกฤตระดับโลกที่ซับซ้อน ซึ่งวิกฤตยูเครน มีหลายประเด็นที่สมควรได้รับการพิจารณาอย่างจริงจัง ได้แก่ ประการแรก ไม่มีผู้ชนะในความขัดแย้งและสงคราม ประการที่สอง ไม่มีวิธีง่ายๆ ในการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน ประการที่สาม มหาอำนาจ ต้องหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า ซึ่ง​จีนยืนหยัดเคียงข้างสันติภาพมาโดยตลอด และจะส่งเสริมการเจรจาสันติภาพต่อไป โดยสนับสนุนและตั้งตารอที่การเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนจะกลับมาเริ่มต้นอีกครั้ง ขณะเดียวกัน จีนหวังว่าสหรัฐฯ นาโต และ สหภาพยุโรปจะดำเนินการเจรจาอย่างรอบด้านกับรัสเซีย

ประมวลโดย พลโท ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
( ข้อมูลจากเว็บไซต์ https://mp.weixin.qq.com/s/fVDKUA45b1BhpkJnMbHO_A )