จีนศึกษา (วันศุกร์ที่ ๑๙ มิ.ย.๖๓) ขอนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวจากการประชุมสุดยอดต่อต้านการแพร่ระบาดของโควิด-๑๙ ระหว่างจีน – แอฟริกา และคำกล่าวสุนทรพจน์ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในพิธีเปิดการประชุม ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
๑. เมื่อคืนวันที่ ๑๗ มิ.ย.๖๓ ตามเวลาของประเทศจีน ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้เป็นประธานการประชุมสุดยอดต่อต้านการแพร่ระบาดของโควิด-๑๙ ระหว่างจีน – แอฟริกา ที่กรุงปักกิ่ง ซึ่งเป็นการประชุมทางไกล ที่ริเริ่มโดยประเทศจีนและเซเนกัล ขณะที่ปัจจุบัน เซเนกัลเป็นประเทศประธานหมุนเวียนของสหภาพแอฟริกา นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศได้เป็นประธานร่วมกันในฟอรั่มว่าด้วยความร่วมมือจีน – แอฟริกา ที่มีผู้นำประเทศสมาชิกการประชุมสุดยอดสหภาพแอฟริกา ผู้นำประเทศประธานหมุนเวียนขององค์กรระดับอนุภูมิภาคสำคัญในแอฟริกา อีกทั้งประธานคณะกรรมการสหภาพแอฟริกาเข้าร่วมประชุมหารือ และมีเลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ รวมถึงผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลกเข้าร่วมประชุมในฐานะแขกรับเชิญพิเศษด้วย
๒. ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้กล่าวสุนทรพจน์ในพิธีเปิดการประชุมฯ โดยเน้นว่า ในปัจจุบันการระบาดของโควิด-๑๙ ยังคงแพร่กระจายไปทั่วโลก โดยทั้งจีนและแอฟริกากำลังเผชิญกับงานที่ยากลำบากในการต่อสู้กับโรคระบาดเพื่อทำให้เศรษฐกิจมีเสถียรภาพและปกป้องการดำรงชีวิตของผู้คน และลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรค โดยต้องรักษาชีวิตของผู้คนเป็นอันดับแรก กล่าวคือ
๒.๑ จีนจะยังคงให้การสนับสนุนกิจกรรมการต่อต้านการแพร่ระบาดของแอฟริกา โดยดำเนินการตามมาตรการที่ประกาศไว้ในพิธีเปิดการประชุมสมัชชาสุขภาพโลกอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านวัสดุอุปกรณ์แก่ประเทศในแอฟริกา รวมทั้งส่งกลุ่มผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์และการให้ความช่วยเหลือด้านต่างๆ ในแอฟริกา ซึ่งจีนจะเริ่มก่อสร้างสำนักงานใหญ่ของศูนย์ควบคุมโรคแอฟริกันในปีนี้ เพื่อดำเนินการด้านสาธารณสุขภายใต้กรอบของเวทีความร่วมมือจีน-แอฟริกา ตลอดจนการจับคู่โรงพยาบาลระหว่างจีน-แอฟริกา และการนำวัคซีนมาใช้ในแอฟริกา
๒.๒ ต้องส่งเสริมความร่วมมือระหว่างจีนกับแอฟริกาอย่างมั่นคง เพื่อที่จะเอาชนะผลกระทบของโรคระบาด โดยต้องเสริมสร้างความร่วมมือตามข้อริเริ่ม “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” หรือ “สายแถบและเส้นทาง (Belt and Road Initiative: BRI) และเร่งการดำเนินการตามผลการประชุมสุดยอดระหว่างจีน – แอฟริกา โดยมุ่งเน้นความร่วมมือด้านสาธารณสุข เพื่อฟื้นฟูการผลิต และจีนยินดีที่จะทำงานร่วมกับประชาคมระหว่างประเทศเพื่อเพิ่มการสนับสนุนสำหรับประเทศในแอฟริกา โดยเฉพาะในเรื่องเงินกู้ที่ปลอดดอกเบี้ยและจะเรียกร้องให้กลุ่ม G20 ขยายระยะเวลาการบรรเทาหนี้ให้แก่ประเทศที่เกี่ยวข้องรวมถึงประเทศในแอฟริกา เพื่อให้บรรลุการพัฒนาที่ยั่งยืนในระยะยาว ตลอดจนยินดีที่จะร่วมมือกับแอฟริกาในการขยายความร่วมมือในรูปแบบใหม่เช่น เศรษฐกิจดิจิทัล เมืองอัจฉริยะ พลังงานสะอาด และ 5G ฯลฯ เพื่อส่งเสริมการพัฒนา
๒.๓ ต้องเน้นการผลักดันความร่วมมือแบบพหุภาคี ด้วยความสามัคคีในการต่อสู้กับโรคระบาด โดยจีนยินดีที่จะทำงานร่วมกับแอฟริกาเพื่อรักษาระบบพหุภาคีของโลก ที่มีสหประชาชาติเป็นแกนกลางรวมทั้งสนับสนุน องค์การอนามัยโลก (WHO) ในการต่อสู้กับโรคระบาดทั่วโลก
๒.๔ ต้องส่งเสริมมิตรภาพระหว่างจีน - แอฟริกาอย่างมั่นคง เพื่อเผชิญกับโอกาสและความท้าทายใหม่ๆ ซึ่งจีนและแอฟริกาต้องมีความร่วมมือกันมากขึ้นกว่าเดิม โดยรักษาความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและความไว้วางใจซึ่งกันและกัน รวมทั้งให้การสนับสนุนซึ่งกันและกันในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์หลักของกันและกัน นอกจากนี้ ต้องร่วมกันสร้างประชาคมที่มีชะตากรรมร่วมกันในอนาคต
บทสรุป
การแพร่ระบาดของโควิด-๑๙ เป็นวิกฤตสาธารณสุขทั่วโลก ซึ่งได้สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทอันสำคัญของประเทศจีนในกระบวนการโลกาภิวัตน์ โดยยอดมูลค่าเพิ่มของอุตสาหกรรมการผลิตของจีนที่มีสัดส่วนถึง ๓๐% ในยอดมูลค่าเพิ่มของอุตสาหกรรมการผลิตทั่วโลก และมีสัดส่วนค่อนข้างมากในห่วงโซอุปทานและตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ รวมทั้งด้านการค้าและบริการ การไหลของเงินทุน และการถ่ายโอนเทคโนโลยี ทำให้ประเทศจีนได้กลายเป็นหุ้นส่วนใหญ่อันดับแรกของทวีปแอฟริกา ขณะที่บริษัทจีนจำนวนกว่า ๑๐,๐๐๐ แห่ง ได้แสดงบทบาทเชิงบวกด้านในการสร้างความมั่งคั่งและตำแหน่งงานให้แก่บรรดาประเทศในแอฟริกา โดยปัจจุบัน จีนกลายเป็นประเทศเป้าหมายทางการศึกษาในต่างแดนที่ใหญ่เป็นอันดับที่ ๒ ของนักศึกษาจากทวีปแอฟริกา ขณะเดียวกัน ประเทศจีนก็ได้มีคุณประโยชน์ที่สำคัญ โดยเฉพาะสำหรับการฝึกอบรมบุคลากรที่ดีเด่นให้กับประเทศในทวีปแอฟริกา
ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
ข้อมูลจากเว็บไซต์