bg-head-3

บทความ

จีนศึกษา วันศุกร์ที่ ๒๓ พ.ย.๖๑ : รูปแบบความสัมพันธ์หุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้านระหว่างจีนกับฟิลิปปินส์

รูปแบบความสัมพันธ์หุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้านระหว่างจีนกับฟิลิปปินส์ จากการเดินทางเยือนฟิลิปปินส์อย่างเป็นทางการของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ในระหว่างวันที่ ๒๐ – ๒๑ พ.ย.๖๑ ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

๑. ภาพรวมของผลการเจรจาหารือระหว่าง ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กับนายโรดริโก ดูแตร์เต ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ ๒๐ พ.ย.๖๑ ซึ่งผู้นำทั้งสองประเทศร่วมกันวางแผนพัฒนาความสัมพันธ์ในอนาคต โดยตกลงกันว่า จะสร้างความสัมพันธ์ที่ร่วมมือกันทางยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน บนพื้นฐานแห่งความเคารพซึ่งกันและกัน เปิดใจกัน เสมอภาค อำนวยประโยชน์แก่กัน และร่วมมือกันเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ร่วมกัน
        ๑.๑ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวว่า จีนกับฟิลิปปินส์เป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีการไปมาหาสู่กันเป็นเวลายาวนานกว่า ๑,๐๐๐ ปี การพัฒนามิตรภาพและความสัมพันธ์ฉันเพื่อนบ้าน ตลอดจนความร่วมมือเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ร่วมกัน จึงเป็นทางเลือกที่ถูกต้องที่ได้ทำให้ความร่วมมือในทุกๆ ด้านประสบผลสำเร็จ โดยได้สร้างความผาสุกให้แก่ประชาชนทั้งสองประเทศ และสร้างคุณูปการต่อสันติภาพและเสถียรภาพของภูมิภาค นอกจากนี้ การสร้างความร่วมมือกันทางยุทธศาสตร์รอบด้านระหว่างจีนกับฟิลิปปินส์ ได้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนทั้งสองประเทศ อีกทั้งเป็นผลดีต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างกัน โดยฟิลิปปินส์เป็นหุ้นส่วนสำคัญของจีนในการพัฒนา “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” หรือ BRI (Belt and Road Initiative) ซึ่งจะเชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศของฟิลิปปินส์ ซึ่งทั้งสองฝ่ายควรกระชับความร่วมมือในด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การสื่อสารโทรคมนาคมและการเกษตร ทั้งนี้ จีนกับฟิลิปปินส์มีผลประโยชน์ร่วมกันอย่างมากในทะเลหนานไห่ (ทะเลจีนใต้) ที่ควรบริหารและควบคุมข้อขัดแย้งด้วยการปรึกษาหารือกันอย่างสันติ ตลอดจนผลักดันความร่วมมือด้านกิจการทางทะเล
        ๑.๒ ประธานราธิบดี โรดริโก ดูแตร์เต กล่าวว่า การเยือนฟิลิปปินส์ในครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกของประธานาธิบดีจีนในช่วง ๑๓ ปีที่ผ่านมา จึงมีความหมายทางประวัติศาสตร์ ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญในความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ และเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ของความร่วมมือระหว่างสองฝ่าย และย้ำว่าฟิลิปปินส์สนับสนุนประเทศต่างๆ ในภูมิภาคร่วมกันพิทักษ์สันติภาพและเสถียรภาพของทะเลหนานไห่ (ทะเลจีนใต้) รวมทั้งยินดีที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับอาเซียน และจะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับจีนมากขึ้นภายใต้กรอบสหประชาชาติและองค์กรระหว่างประเทศอื่นๆ

๒. ย้อนรอยความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับฟิลิปปินส์
        ๒.๑ เมื่อปี ๒๐๐๕ (พ.ศ.๒๕๔๘) จีนกับฟิลิปปินส์ได้สร้างความสัมพันธ์หุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์เพื่อรักษาสันติภาพ และส่งเสริมการพัฒนา หลังจากนั้นเนื่องจากประเทศภายนอกภูมิภาคก่อประเด็นปัญหาความขัดแย้งในทะเลจีนใต้ โดยเฉพาะรัฐบาลก่อนหน้านี้ ได้ยื่นคดีกรณีปัญหาทะเลจีนใต้ต่ออนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเกิดภาวะหยุดชะงัก
        ๒.๒ เมื่อปี ๒๐๑๖ (พ.ศ.๒๕๕๙) ประธานาธิบดีดูเตร์เต ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ปฏิบัติตามนโยบายการต่างประเทศที่มีความเป็นตัวของตัวเอง จีนกับฟิลิปปินส์จึงกลับสู่การเจรจาและปรึกษาหารือกันเพื่อแก้ไขปัญหาทะเลจีนใต้อย่างเหมาะสม หลังจากนั้น ประธานาธิบดีของสองประเทศได้พบปะกันถึง ๖ ครั้ง ภายใต้การนำของผู้นำทั้งสองประเทศ ความสัมพันธ์จีน-ฟิลิปปินส์จึงได้เปิดหน้าใหม่ขึ้นอีกครั้ง

๓. ผลประโยชน์จากความร่วมมือระหว่างจีนกับฟิลิปปินส์
        ๓.๑ ด้านการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจีนสนับสนุนยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจแห่งชาติของประธานาธิบดีดูเตร์เต ที่ถือโครงการ “เมกะโปรเจค” เป็นหลัก ซึ่งโครงการนี้รวมถึงโครงการก่อสร้างพื้นฐาน ๗๕ โครงการ เพื่อผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ โดยในช่วง ๒ ปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างจีนกับฟิลิปปินส์ได้รับการพัฒนาอย่างมาก จีนได้กลายเป็นหุ้นส่วนการค้าใหญ่อันดับ ๑ ของตลาดการส่งออกแหล่งที่มาของการนำเข้าใหญ่ และประเทศแหล่งที่มาของนักท่องเที่ยวใหญ่อันดับที่ ๒ ของฟิลิปปินส์ เมื่อปีที่แล้ว ยอดการค้าแบบทวิภาคีมากเกิน ๕๐,๐๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นครั้งแรก ฝ่ายจีนลงทุนในฟิลิปปินส์โดยตรงมากกว่า ๕๓ ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น ๖๗% เมื่อเทียบกับปี ๒๐๑๖ (พศ.๒๕๕๙) ในช่วง ๘ เดือนแรกของปีนี้ จีนได้ลงทุนในฟิลิปปินส์โดยตรงมากถึง ๑๘๐ ล้าน
        ๓.๒ ด้านความตกลงที่จะยกระดับความสัมพันธ์หุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างสองประเทศ โดยผู้นำทั้งสองประเทศได้ร่วมกันเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามเอกสารความร่วมมือแบบทวิภาคีหลายฉบับ รวมถึง “บันทึกช่วยจำเกี่ยวกับความร่วมมือส่งเสริมการสร้างสรรค์ “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง หรือ BRI” “บันทึกช่วยจำเกี่ยวกับความร่วมมือการบุกเบิกพัฒนาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ” ซึ่งบันทึกช่วยจำเกี่ยวกับการร่วมกันบุกเบิกทรัพยากรน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในทะเลได้รับความสนใจเป็นพิเศษ

บทสรุป

การเยือนฟิลิปปินส์ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่จะกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเท่านั้น หากแต่ยังเป็นแบบอย่างของความร่วมมือทางทะเลระหว่างจีนกับประเทศที่เกี่ยวข้องในอาเซียนอีกด้วย ในขณะที่การลงนามข้อตกลงทางยุทธศาสตร์ระหว่างจีนกับฟิลิปปินส์จะเป็นสัญญาณบ่งชี้ทิศทางความสัมพันธ์ระหว่างฟิลิปปินส์กับสหรัฐฯ ทั้งนี้ นับจากที่ประธานาธิบดีดูแตร์เตขึ้นสู่อำนาจในปี ๒๐๑๖ (พ.ศ.๒๕๕๙) ได้พยายามลดการพึ่งพิงสหรัฐฯ และประธานาธิบดีดูแตร์เตได้แสดงความไม่พอใจกรณีที่สหรัฐฯ ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การปราบปรามยาเสพติดของฟิลิปปินส์ และในปี ๒๐๑๗ (พ.ศ.๒๕๖๐) ประธานาธิบดีดูแตร์เตได้ยกเลิกการซ้อมรบประจำปีกับสหรัฐฯ ในทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้จีนขยายอิทธิพลเข้ามามากขึ้น เช่น เมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา จีนได้บริจาคปืนและกระสุน มูลค่า ๒๒ ล้านเหรียญสหรัฐ ให้แก่สำนักงานตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์ เป็นต้น ก็ยิ่งทำให้เห็นรูปธรรมของความสัมพันธ์หุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้านระหว่างจีนกับฟิลิปปินส์มากขึ้น

ประมวลโดย : พลตรีไชยสิทธิ์ ตันตยกุล

ข้อมูลจากเว็บไซต์

https://www.nytimes.com/2018/11/19/world/asia/xi-jinping-rodrigo-duterte-philippines-china.html 

http://thai.cri.cn/20181121/2e3eb39d-e557-75ec-78de-4ef7105c6be1.html

http://thai.cri.cn/20181120/695c2d35-6aec-f840-1be1-e4b41c3719b1.htm

https://mgronline.com/china/detail/9610000116323 

https://news.abs-cbn.com/news/11/20/18/list-philippines-china-sign-29-deals-in-xi-jinping-visit