จีนศึกษา (วันศุกร์ที่ ๒๔ มิ.ย.๖๕) ขอนำเสนอข้อมูลของกรมการเมือง คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ที่ได้จัดการศึกษารวมกลุ่ม ครั้งที่ ๔๐ เมื่อตอนบ่ายวันที่ ๑๗ มิ.ย.๖๕ ในหัวข้อ “ไม่กล้าทุจริต ไม่สามารถทุจริต และไม่อยากทุจริต” โดยนายสี จิ้นผิง เลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน เป็นประธานในการศึกษาและได้เน้นย้ำว่า การต่อสู้กับการทุจริตเป็นการต่อสู้ทางการเมืองที่สำคัญที่สุดที่ประชาชนติดตามตลอด เป็นสงครามทางการเมืองที่ไม่สามารถแพ้ได้ จำเป็นต้องเพิ่มความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในการกำหนดวินัยพรรคและรัฐบาลที่สะอาด เข้าใจการปราบปรามการทุจริตภายใต้สถานการณ์ใหม่ ปรับปรุงความสามารถและระดับของนโยบาย “ไม่กล้าทุจริต ไม่สามารถทุจริต และไม่อยากทุจริต” เพื่อเอาชนะการทุจริตที่ยืดเยื้ออย่างรอบด้าน
นายสี จิ้นผิง ชี้ให้เห็นว่า หลังจัดการประชุมระดับผู้แทนทั่วประเทศพรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ ๑๘ ได้บรรลุผลงานอันโดดเด่นและได้สั่งสมประสบการณ์มากมายในการปราบปรามการทุจริต กล่าวคือ
ประการแรก จีนได้สร้างรูปแบบการปฏิบัติงานต่อต้านการทุจริตภายใต้การนำโดยพรรคฯ ได้ปรับปรุงระบบและกลไกการทำงานต่อต้านการทุจริตภายใต้การนำของคณะกรรมการกลางพรรคฯ ส่วนคณะกรรมการพรรคฯ ระดับต่าง ๆ การจัดระเบียบและการประสานงานของคณะกรรมการตรวจสอบวินัย การประสานงานของหน่วยงานที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งการมีส่วนร่วมและการสนับสนุนจากประชาชน
ประการที่สอง เริ่มต้นด้วยการแก้ไขปัญหาจากรากฐาน แก้ไขปัญหาจากต้นจนจบ ทำให้เจ้าหน้าที่และผู้ปฏิบัติงาน "ไม่กล้า" เพราะเคารพประชาชน "ไม่สามารถ" เพราะระบบที่มีวินัย และ "ไม่อยากจะทำ" "เพราะมีจิตสำนึกที่สูงส่ง
ประการที่สาม ยึดมั่นในหลักการความเข้มงวดและแน่วแน่เสมอ ลงโทษและปราบปรามการทุจริตโดยไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยับยั้งส่วนเพิ่มและพยายามลดส่วนเหลือ ตรวจสอบปัญหาทุจริตที่ขัดขวางการปฏิบัติตามทฤษฎีและหลักการสำคัญของพรรคฯ ปราบปรามการทุจริตในหน่วยงานและในวงการที่สำคัญ
ประการที่สี่ คือ เรื่องความเข้มงวดของกฎระเบียบต่าง ๆ โดยได้สร้างชุดกฎระเบียบภายในพรรคฯ และระบบกฎหมายปราบปรามการทุจริตที่ค่อนข้างสมบูรณ์ เพื่อให้กฎระเบียบและระบบต่าง ๆ สามารถมีผลบังคับใช้
ประการที่ห้า คือ การสร้างเขื่อนเชิงอุดมการณ์ของการต่อต้านการทุจริต เสริมรากฐานด้วยอุดมการณ์และความเชื่อ ใช้ทฤษฎีนวัตกรรมของพรรครวมทั้งใช้วัฒนธรรมดั้งเดิมที่ยอดเยี่ยม เพื่อสร้างแนวป้องกันทางอุดมการณ์และศีลธรรมที่มั่นคง
ประการที่หก คือ การกำกับดูแลการใช้อำนาจ ปฏิรูประบบตรวจสอบวินัยของพรรคให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นรวมทั้งการปฏิรูประบบการกำกับดูแลของรัฐโดยครอบคลุมถึงสมาชิกและข้าราชการทุกคนอย่างรอบด้าน เน้นการตรวจสอบและกำกับดูแลตนเองตลอดจนของประชาชนด้วย พยายามส่งเสริมให้สมาชิกพรรคฯ และเจ้าหน้าที่รัฐบาลใช้อำนาจอย่างเที่ยงธรรม ตามกฎหมาย ด้วยความบริสุทธิ์และทำเพื่อประชาชน
นอกจากนี้ นายสี จิ้นผิง ยังเน้นย้ำว่า จำเป็นต้องเริ่มต้นจากต้นทาง ปรับปรุงระบบและกลไกการจัดการอำนาจรวมถึงเจ้าหน้าที่ ตลอดจนป้องกันและควบคุมการทุจริตในลักษณะที่เป็นมาตรฐานในระยะยาวมากขึ้น โดยต้องมุ่งเน้นที่การลดโอกาสในการทุจริต อาทิ การกำหนดนโยบาย ขั้นตอนการตัดสินใจ การอนุมัติ การกำกับดูแล และการบังคับใช้กฎหมาย เป็นต้น
ประมวลโดย พลโท ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
( ข้อมูลจากเว็บไซต์ https://news.xmnn.cn/xmnn/2022/06/18/101050516.shtml )