การเดินหน้าปฏิรูปรัฐวิสาหกิจกับการปฏิรูปและเปิดประเทศของจีน ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
๑. รัฐบาลจีนเริ่มประเดิมแผนงานปฏิรูปรัฐวิสาหกิจทั่วประเทศ โดยคัดเลือกรัฐวิสาหกิจกว่า ๔๐๐ แห่ง เพื่อดำเนินการปฏิรูปก่อน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปฏิรูปโครงสร้างกำกับดูแลด้านนิติบุคคลของรัฐวิสาหกิจให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ยกระดับประสิทธิภาพการทำงาน การทำการตลาด และการบริหารที่ทันสมัยให้มีระดับสูงขึ้นอย่างรอบด้าน พร้อมกระตุ้นให้รัฐวิสาหกิจทรงพลังมากยิ่งขึ้น โดยในจำนวนกว่า ๔๐๐ รัฐวิสาหกิจดังกล่าว รวมถึงบริษัทน้ำมันปิโตรเลียมแห่งชาติจีน (China National Petroleum Corporation : CNPC) บริษัทน้ำมันปิโตรเลียมและเคมี (Sinopec) และรัฐวิสาหกิจยักษ์ใหญ่ขึ้นชื่ออีกหลายแห่งของจีน โดยรัฐวิสาหกิจเหล่านี้จะกำหนดเป้าหมาย มาตรการ การแบ่งงาน และความรับผิดชอบในการปฏิรูปให้ชัดเจน ปฏิบัติตามกระบวนการรายงาน ตรวจสอบ และการอนุมัติที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจครั้งนี้จะดำเนินการตั้งแต่ปีนี้ไปจนถึงปี ๒๐๒๐ (พ.ศ.๒๕๖๓)
๒. เมื่อวันที่ ๑๒ ส.ค.๖๑ สำนักข่าวซินหวาได้ตีพิมพ์บทความ เรื่อง "การปฏิรูปและเปิดประเทศของจีน" ในเนื้อหาระบุว่า เนื่องด้วยการปฏิรูปและเปิดประเทศ ถือเป็นการเปิดสู่ความคิดใหม่ และทำให้จีนหลุดพ้นอุปสรรคการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จีนได้เริ่มต้นกระบวนการใหม่ที่ยิ่งใหญ่ครั้งนี้ด้วยความสำเร็จ เดินหน้าอย่างเต็มกำลัง และสร้างโอกาสการพัฒนาให้เกิดขึ้นอีกครั้ง นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้คนจีนในสังคมนิยม ที่อายุมาก กลับมาเป็นหนุ่มสาวในมิติใหม่ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวังและชีวิต โดยบทความดังกล่าวระบุว่า
๒.๑ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ในฐานะเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนระบุว่า "การปฏิรูปและเปิดประเทศ”เป็นการเดินหมากตัวสำคัญ ที่ชี้ขาดชะตากรรมของจีนในยุคปัจจุบัน ทั้งเป็นการเดินหมากในครั้งนี้จะหมายถึงการบรรลุสองเป้าหมายในรอบ ๑๐๐ ปี (Two Centenary Goals) และการสร้างความเจริญรุ่งเรืองขึ้นใหม่ให้กับจีน ซึ่งเป็นการประกาศศรัทธาและปณิธานอันแน่วแน่ในการเดินหน้าปฏิรูปและเปิดประเทศของจีนในยุคปัจจุบัน
๒.๒ ช่วง ๔๐ ปีผ่านไปอย่างรวดเร็ว กระแสการปฏิรูปและเปิดประเทศที่ยิ่งใหญ่ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบพลิกฟ้าดินใน "ช่วงเปลี่ยนผ่านทางประวัติศาสตร์" บนผืนแผ่นดินใหญ่ของจีน ทำให้จีนผงาดขึ้นเป็นประเทศผู้ส่งออกอันดับที่ ๑ และประเทศผู้นำเข้าอันดับที่ ๒ ของโลก เป็นแรงขับเคลื่อนที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจโลก มากกว่าร้อยละ ๓๐ ของการเติบโตทางเศรษฐกิจโลกต่อเนื่องกันมาหลายปี กระบวนการสร้างความทันสมัยที่ประเทศพัฒนาแล้วในฝั่งตะวันตกเคยใช้เวลามาหลายร้อยปีนั้น จีนใช้เวลาหลายสิบปีเท่านั้น ก็ได้ก้าวข้ามสิ่งเดิม ๆ รวมถึงได้ก้าวกระโดดครั้งใหญ่ทำให้จีนเติบโต พัฒนา และเข้มแข็ง ซึ่งเข้าใกล้เป้าหมายอันยิ่งใหญ่ ในการสร้างความเจริญรุ่งเรืองขึ้นมาใหม่ อย่างไม่เคยมีมาก่อน
๒.๓ ปัจจัยหลักของการปฏิรูปและเปิดประเทศของจีน ที่สำคัญที่สุดคือ การก้าวไปข้างหน้าโดยเรียนรู้จากประวัติศาสตร์ และพัฒนาท่ามกลางกระแสที่สอดคล้องกับการพัฒนาของยุคสมัย ประวัติศาสตร์บอกกับปัจจุบัน และบอกกับอนาคตว่า การปฏิรูปและเปิดประเทศเป็นหนทางที่ถูกต้อง หนทางแห่งการสร้างความเข้มแข็งให้กับประเทศ และเป็นหนทางแห่งการสร้างความมั่งคั่งให้กับประชาชน ที่จีนต้องยึดมั่น และเดินในเส้นทางนี้ตลอดไป เพื่อสร้างอนาคตที่สดใสกว่าเดิม
๓. ข้อสังเกต ก่อนหน้านี้ มีหนังสือเรื่อง "ผลวิจัยแนวคิดการปฏิรูปและเปิดประเทศ" ซึ่งได้รวบรวมข้อมูลการเขียนของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ในฐานะเลขาธิการใหญ่คณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีน เกี่ยวกับการปฏิรูปและเปิดประเทศ และการพัฒนาของจีนในยุคสมัยใหม่ ที่ได้พิมพ์จำหน่ายในประเทศจีนไปเมื่อเร็ว ๆ นี้
๓.๑ หนังสือเล่มนี้เรียบเรียงโดยฝ่ายประชาสัมพันธ์คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์มณฑลกวางตุ้ง และสภาวิทยาศาสตร์และสังคมมณฑลกวางตุ้ง จัดพิมพ์โดยหนังสือพิมพ์เหรินหมิน ได้ระบุถึงเบื้องหลังประวัติศาสตร์ ต้นกำเนิดทฤษฎีแนวคิดการปฏิรูปและเปิดประเทศ อธิบายความสำคัญทางทฤษฎีของแนวคิดการปฏิรูปและเปิดประเทศของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ตลอดจนการวิจัยและวิเคราะห์แนวคิดการปฏิรูปและเปิดประเทศที่เกี่ยวข้องกับ "การรวมการพัฒนา ๕ ด้านเป็นหนึ่งเดียวกัน อันได้แก่ การพัฒนาเศรษฐกิจ การเมือง วัฒนธรรม สังคม และอารยธรรมทางนิเวศวิทยา"
๓.๒ หนังสือเล่มนี้มีความยาว ๓๕๐,๐๐๐ ตัวอักษรจีน อธิบายและวิเคราะห์ระบบทฤษฎีแนวคิดการปฏิรูปและเปิดประเทศของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ใน ๙ ด้านได้แก่ จับโอกาสใหม่ของการพัฒนาการปฏิรูป ผลักดันการปฏิรูปโครงสร้างอุปทาน จัดการความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกับตลาดอย่างถูกต้อง พัฒนาประเทศสังคมนิยมที่มีวัฒนธรรมเข้มแข็ง สร้างโครงสร้างและรูปแบบการบริหารสังคมที่ร่วมกันแบ่งปันร่วมกันบริหารและร่วมกันพัฒนา สร้างประเทศจีนที่งดงาม ปฏิบัติตามความริเริ่ม "หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง" (Belt and Road Initiative : BRI) พัฒนาประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมวลมนุษยชาติ และยืนหยัดการนำของพรรคต่อการปฏิรูปและเปิดประเทศ
บทสรุป
การปฏิรูปและเปิดประเทศ เพื่อเดินหน้าสู่ความฝันของจีนในการสร้างความเจริญรุ่งเรืองขึ้นใหม่ จนอาจกล่าวได้ว่า ช่วง ๔๐ ปีที่ผ่านมา ได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบพลิกฟ้าดิน รวมถึงการปฏิรูปโครงสร้างกำกับดูแลด้านนิติบุคคลของรัฐวิสาหกิจให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น อันเป็นการยกระดับประสิทธิภาพการทำงาน การทำการตลาด และการบริหารที่ทันสมัยให้มีระดับสูงขึ้นอย่างรอบด้าน พร้อมกระตุ้นให้รัฐวิสาหกิจทรงพลังมากยิ่งขึ้น เช่น กลุ่มบริษัทน้ำมันปิโตรเลียมแห่งชาติจีน (CNPC) และกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมเคมีปิโตรเลียม (Sinopec) มียอดการจำหน่ายที่เกินกว่า ๒๕๐,๐๐๐ ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อปี เป็นต้น ซึ่งได้เกิดขึ้นท่ามกลางกระบวนการปฏิรูปและเปิดประเทศอย่างจริงจังของจีน โดยเฉพาะการรวมการพัฒนา ๕ ด้านเป็นหนึ่งเดียวกัน อันได้แก่ การพัฒนาเศรษฐกิจ การเมือง วัฒนธรรม สังคม และอารยธรรมทางนิเวศวิทยา ตามแนวคิดการปฏิรูปและเปิดประเทศของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง จึงเป็นประเด็นสำคัญที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
ประมวลโดย : พันเอกไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
ข้อมูลจากเว็บไซต์
https://thediplomat.com/2018/06/chinas-reform-and-opening-40-years-and-counting/
http://thai.cri.cn/247/2018/08/22/227s270279.htm
http://thai.cri.cn/247/2018/08/12/233s269949.htm
http://thai.cri.cn/247/2018/07/21/121s269223.htm
http://chinaplus.cri.cn/news/china/9/20180719/159775.html
http://chinaplus.cri.cn/news/china/9/20180717/158602.html