จีนศึกษา วันศุกร์ที่ ๒๗ ธ.ค.๖๒ ขอนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับท่าทีความเคลื่อนไหวของนายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน ในการประชุมผู้นำจีน-ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ ครั้งที่ ๘ เมื่อวันที่ ๒๔ ธ.ค.๖๒ ที่เมืองเฉิงตู มณฑลซื่อชวน (เสฉวน) เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างสามประเทศ และประเด็นปัญหาทั้งระดับภูมิภาคและระดับโลก ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
๑. นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง ของจีน กล่าวในที่ประชุมว่า ช่วง ๒๐ ปีมานี้ ความร่วมมือระหว่างจีน-ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ได้ขยายตัวและลงลึกอย่างต่อเนื่อง ทั้ง ๓ ประเทศเป็นหุ้นส่วนการพัฒนาที่สำคัญระหว่างกัน เนื่องจากเศรษฐกิจของ ทั้ง ๓ ประเทศมีส่วนเกื้อกูลกันอย่างมาก และมีอุตสาหกรรมรวมตัวกันได้ในระดับสูง ดังนั้น แม้มีปัญหาและอุปสรรคบ้างก็ตาม แต่ทั้ง ๓ ฝ่ายยังคงยืนหยัดในการบรรลุชัยชนะร่วมกันด้วยความร่วมมือ และการแก้ไขข้อขัดแย้งกันด้วยการเจรจา
๒. นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง ได้ให้ข้อเสนอเกี่ยวกับการลงลึกของความร่วมมือระหว่าง ๓ ประเทศ ว่า
๒.๑ ต้องเสริมสร้างพื้นฐานแห่งความเชื่อถือกันให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น รักษาสภาวะโดยรวมแห่งความร่วมมือ มองการพัฒนาของประเทศอื่นโดยปราศจากอคติและมีความถูกต้อง ยึดมั่นในจุดยืนที่ถูกต้องในประวัติศาสตร์และอนาคต เคารพประโยชน์หลักและประเด็นปัญหาที่ประเทศอื่นให้ความสนใจเป็นพิเศษ เน้นพัฒนาความร่วมมือที่อำนวยประโยชน์แก่กันและได้ชัยชนะร่วมกัน ยืนหยัดในการแก้ไขข้อขัดแย้งด้วยการเจรจาและปรึกษาหารือกัน สร้างสภาวะที่ดีแก่การลงลึกความร่วมมือ
๒.๒ ต้องวางแผนความร่วมมือระหว่าง ๓ ประเทศด้วยวิสัยทัศน์เชิงยุทธศาสตร์และระยะยาว โดยแนวทางการพัฒนาและความร่วมมือด้านสำคัญต้องมีความชัดเจน อีกทั้งต้องลงลึกความร่วมมือที่เน้นการปฏิบัติ และสร้างความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วน
๒.๓ เร่งการเจรจาเขตการค้าเสรี ขับเคลื่อนความเป็นหนึ่งเดียวทางเศรษฐกิจของภูมิภาค ซึ่งจีน-ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ เป็นผู้สนับสนุนการเจรจากรอบความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค(RCEP)อย่างแน่วแน่ ต้องผลักดันให้ลงนามข้อตกลง RCEP ในปีหน้าตามเวลากำหนด นอกจากนี้ ยังต้องเร่งการเจรจาการค้าเสรีระหว่างจีน-ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ เพื่อสร้างเขตการค้าเสรีที่มีมาตรฐานในระดับสูงโดยเร็ว เพื่อบรรลุเสรีภาพ และความสะดวกในระดับสูงทางด้านการค้าและการลงทุน
๒.๔ จีน-ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ ต่างเป็นประเทศนวัตกรรมสำคัญ และมีจุดเด่นที่เกื้อกูลกันได้ ดังนั้น ทั้ง ๓ ฝ่ายจะต้องเสริมทักษะในการนวัตกรรม และแบ่งปันผลสำเร็จจากนวัตกรรม ต้องเสริมการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือระหว่าง ๓ ประเทศด้านการกีฬา งานมหกรรมโอลิมปิก และเยาวชน
๒.๕ ต้องเสริมการแลกเปลี่ยนนโยบายและความร่วมมือด้านสาธารณสุข สังคมผู้สูงอายุ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์สุขมากขึ้น
๓. นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง ได้อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานการณ์โลกที่กำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับลึกซึ้ง โดยจีน-ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ ต้องสามัคคีและร่วมมือกันมากขึ้น สนับสนุนกลไกพหุภาคีและการค้าเสรีอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ รวมทั้งร่วมกันรับมือกับการท้าทาย เพื่อสร้างคุณูปการแก่ความเจริญรุ่งเรือง และเสถียรภาพของภูมิภาคและของโลก กล่าวคือ
๓.๑ ทั้ง ๓ ประเทศต้องร่วมกันรักษาสันติภาพและเสถียรภาพของภูมิภาค การปลอดนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลีและสร้างกลไกสันติภาพนั้น มีความสอดคล้องกับประโยชน์ร่วมกันของทั้งสามประเทศ จึงต้องผลักดันการเจรจาให้คืบหน้าต่อไป ต้องจัดการกับประเด็นปัญหาที่ทุกฝ่ายให้ความสนใจพิเศษอย่างเหมาะสม ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาในคาบสมุทรเกาหลีด้วยวิถีการเมือง เพื่อบรรลุสันติภาพถาวรในภูมิภาค
๓.๒ ต้องยึดมั่นในวิสัยทัศน์ความมั่นคงใหม่ที่มีความมั่นคงร่วมกัน ครอบคลุมทุกด้าน ร่วมมือกันและยั่งยืน จะมุ่งเน้นความมั่นคงในทั่วทั้งภูมิภาค บนพื้นฐานประโยชน์ความมั่นคงร่วมกัน การเสริมความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่าง ๓ ประเทศนั้นไม่พุ่งเป้าไปยังประเทศที่ ๓ และไม่ควรส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของภูมิภาค
๓.๓ จีน-ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ ต้องยึดมั่นในหลักการเคารพซึ่งกันและกัน มีความเที่ยงธรรม ยุติธรรม และร่วมมือกันเพื่อมีชัยชนะร่วมกัน โดยรักษาการค้าเสรี ส่งเสริมการปฏิรูปองค์การการค้าโลก และคัดค้านการตัดห่วงโซ่การผลิตที่เชื่อมต่อกัน
๓.๔ ทั้ง ๓ ประเทศ ต้องเสริมการทำงานประสานกันในความร่วมมือระดับภูมิภาค โดยชี้นำให้ความร่วมมือในภูมิภาคเน้นกิจการของเอเชียตะวันออก และเน้นการพัฒนา รวมทั้งต้องรักษาและปรับปรุงกลไกความร่วมมือของภูมิภาคที่มีอยู่ให้สอดคล้องกับความต้องการของประเทศในภูมิภาคนี้มากขึ้น
บทสรุป
ในช่วง ๑๐ ปีข้างหน้า สถานการณ์โลกย่อมจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ผลประโยชน์และชะตากรรมของประเทศต่างๆ จะผสมผสานกันอย่างลึกซึ้ง ในขณะที่ จีน-ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ เป็นประเทศบ้านใกล้เรือนเคียง ซึ่งมีความรับผิดชอบสำคัญต่อสันติภาพและเสถียรภาพของเอเชีย ดังนั้น ทั้ง ๓ ประเทศจึงควรร่วมกันรักษาการค้าเสรีและลัทธิพหุภาคี แสวงหาชัยชนะร่วมด้วยความร่วมมือ แก้ข้อขัดแย้งด้วยการเจรจา อุทิศกำลังใหม่เพื่อความเจริญรุ่งเรืองของทั้ง ๓ ประเทศและในภูมิภาค ตลอดจนเพิ่มพลังที่เข้มแข็งให้กับการพัฒนาเศรษฐกิจของโลก
ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
ข้อมูลจากเว็บไซต์
https://www.fmprc.gov.cn/mfa_eng/zxxx_662805/t1727705.shtml
http://thai.cri.cn/20191225/eab0da4a-332b-1ed8-7811-f01918afaf7a.html
http://thai.cri.cn/20191225/a9007b9c-9ae9-e15e-cef2-6566f7c3f8df.html
http://thai.cri.cn/20191225/b9f44e5f-e7c8-8952-8937-c78418a618a7.html
http://thai.cri.cn/20191225/eab0da4a-332b-1ed8-7811-f01918afaf7a.html
http://thai.cri.cn/20191225/36037b8a-f235-8c6f-cf6d-2a72e30f87bb.html